แท็ก
วิทยาลัยแพทยศาสตร์กรุงเทพมหานครและวชิรพยาบาล
สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ
กรมส่งเสริมการส่งออก
ผู้จัดการรายวัน
สุขภัณฑ์กะรัต
โรงแรมคอนราด
นายพงษ์ภาณุ เศวตรุนทร์ ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ สรุปผลการดำเนินการบริหารจัดการหนี้ของภาครัฐประจำเดือนธันวาคม 2549 และในไตรมาสที่ 1 ของปีงบประมาณ 2550 พร้อมทั้งสถานะหนี้สาธารณะล่าสุด ณ สิ้นเดือนพฤศจิกายน 2549 ดังนี้
1. การปรับโครงสร้างหนี้ของภาครัฐ
1.1 ในเดือนธันวาคม 2549 :-
ด้านต่างประเทศ
บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ได้ปรับโครงสร้างหนี้โดยการออกตราสาร Euro Commercial Paper (ECP) วงเงิน 132 ล้านเหรียญสหรัฐ และ 9,000 ล้านเยน หรือเทียบเท่า 7,361 ล้านบาท เพื่อใช้เป็น Bridge Financing ในการชำระคืนเงินกู้ Samurai Bond รุ่นที่ 17 และ 19 ก่อนที่จะดำเนินการจัดหาเงินกู้ระยะยาวที่สอดคล้องกับอายุเครื่องบินที่เหลือมาทดแทน และได้ Roll Over เงินกู้ ECP วงเงิน 58.6 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือเทียบเท่า 2,090 ล้านบาท ที่ใช้สมทบการจัดซื้อเครื่องบินโบอิ้ง B777-200ER ลำที่ 2 ต่อไปอีก 14 วัน
ด้านในประเทศ
กระทรวงการคลังได้ปรับโครงสร้างหนี้โดยการแปลงตั๋วเงินคลังที่ออกเพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณ วงเงิน 8,000 ล้านบาท เป็นพันธบัตรระยะยาว เพื่อเป็นการเพิ่ม Benchmark Bond อายุ 7 ปี และ 10 ปี และออกพันธบัตรเพื่อปรับโครงสร้างหนี้พันธบัตรเพื่อชดใช้ความเสียหายให้กองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน (FIDF1) ที่ครบกำหนดไถ่ถอน เมื่อวันที่ 8 ธันวาคม 2549 จำนวน 35,000 ล้านบาท โดยในชั้นแรกได้กู้เงินระยะสั้นวงเงิน 31,500 ล้านบาท สมทบกับเงินที่ได้จากการประมูลพันธบัตรงวดแรก 3,500 ล้านบาท เพื่อไถ่ถอนพันธบัตรที่ครบกำหนด แล้วทยอยออกพันธบัตรเพื่อปรับโครงสร้างหนี้มาชำระคืนเงินกู้ระยะสั้น โดยได้รับเงินจากการประมูลพันธบัตรในเดือนนี้
11,500 ล้านบาท ในส่วนของรัฐวิสาหกิจ องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพกู้เงินในประเทศเพื่อ Roll Over หนี้เดิมรวม 1,900 ล้านบาท
1.2 ในไตรมาสแรกของปีงบประมาณ 2550 :-
ด้านต่างประเทศ
กระทรวงการคลังได้ปรับโครงสร้างหนี้เงินกู้ต่างประเทศโดยชำระคืนก่อนครบกำหนด 18,416 ล้านบาท และ Refinance เงินกู้ ECP ซึ่งใช้เป็น Bridge Financing ในการทำ Refinance เงินกู้ JBIC ด้วยเงินบาท 6,700 ล้านบาท ผลจากการดำเนินงานดังกล่าวทำให้สามารถลดยอดหนี้คงค้างได้รวม 18,416 ล้านบาท และลดภาระดอกเบี้ยได้รวม 810 ล้านบาท สำหรับรัฐวิสาหกิจ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ได้ปรับโครงสร้างหนี้เงินกู้ต่างประเทศวงเงินรวม 9,451 ล้านบาท
ด้านในประเทศ
กระทรวงการคลังได้ปรับโครงสร้างหนี้ในประเทศโดยการแปลงตั๋วเงินคลังที่ออกเพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณ จำนวน 32,000 ล้านบาท เป็นพันธบัตรและปรับโครงสร้างหนี้เงินกู้ FIDF1 วงเงิน 45,000 ล้านบาท
2. การกู้เงินของภาครัฐ
2.1 ในเดือนธันวาคม 2549 :-
กระทรวงการคลังได้ออกพันธบัตรเพื่อชดใช้ความเสียหายให้กองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน ระยะที่สอง (FIDF3) ซึ่งได้รับเงินจากการประมูลพันธบัตรในเดือนนี้ 3,780 ล้านบาท โดยเป็นพันธบัตรออมทรัพย์ 500 ล้านบาท และพันธบัตรรัฐบาลกรณีพิเศษ 3,280 ล้านบาท
สำหรับรัฐวิสาหกิจ องค์การรับส่งสินค้าและพัสดุภัณฑ์ได้กู้เงินในประเทศเพื่อชำระหนี้ในการยุบเลิกกิจการ 1,053 ล้านบาท ส่วนบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ได้กู้เงินในรูปตราสาร ECP วงเงิน 59.60 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือเทียบเท่า 2,113 ล้านบาท เพื่อใช้เป็น Bridge Financing ในการชำระค่าจัดซื้อเครื่องบินโบอิ้ง B777-200ER ลำที่ 4
2.2 ในไตรมาสแรกของปีงบประมาณ 2550 :-
ภาครัฐได้กู้เงินในประเทศรวม 16,833 ล้านบาท ซึ่งเป็นการกู้ของกระทรวงการคลัง 15,780 ล้านบาท และรัฐวิสาหกิจ 1,053 ล้านบาท และรัฐวิสาหกิจได้กู้เงินต่างประเทศวงเงินรวม 31,803 ล้านบาท ซึ่งเป็นการกู้นอกแผนการก่อหนี้ต่างประเทศ
3. การชำระหนี้ของภาครัฐ
3.1 ในเดือนธันวาคม 2549 :-
กระทรวงการคลังได้ดำเนินการชำระหนี้จากงบประมาณ 8,345 ล้านบาท เป็นการชำระคืนเงินต้น 426 ล้านบาท ดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียมรวม 7,919 ล้านบาท
3.2 ในไตรมาสแรกของปีงบประมาณ 2550 :-
กระทรวงการคลังได้ชำระคืนต้นเงินกู้ ดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียมจากงบประมาณรวม 38,609 ล้านบาท
สถานะหนี้สาธารณะ ณ สิ้นเดือนพฤศจิกายน 2549
ยอดหนี้สาธารณะคงค้าง ณ วันที่ 30 พฤศจิกายน 2549 มีจำนวน 3,184,999 ล้านบาท หรือร้อยละ 40.78 ของ GDP เป็นหนี้ที่รัฐบาลกู้โดยตรง 1,960,768 ล้านบาท หนี้ของรัฐวิสาหกิจที่ไม่เป็นสถาบันการเงิน 903,435 ล้านบาท หนี้สินของกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน 256,382 ล้านบาท และหนี้องค์กรของรัฐอื่น 64,415 ล้านบาท เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนก่อนหนี้สาธารณะลดลง 28,357 ล้านบาท โดยหนี้ที่รัฐบาลกู้โดยตรง หนี้ของรัฐวิสาหกิจที่ไม่เป็นสถาบันการเงิน หนี้สินของกองทุนเพื่อการฟื้นฟูฯ และหนี้องค์กรของรัฐอื่นลดลง 9,437 ล้านบาท 4,446 ล้านบาท 9,099 ล้านบาท และ 5,301 ล้านบาท ตามลำดับ
หนี้สาธารณะจำแนกได้เป็นหนี้ต่างประเทศ 472,536 ล้านบาท หรือร้อยละ 14.84 และหนี้ในประเทศ 2,712,463 ล้านบาท หรือร้อยละ 85.16 และเป็นหนี้ระยะยาว 2,676,554 ล้านบาท หรือร้อยละ 84.04 และหนี้ระยะสั้น 508,445 ล้านบาท หรือร้อยละ 15.96 ของยอดหนี้สาธารณะคงค้าง
--ข่าวกระทรวงการคลัง กลุ่มการประชาสัมพันธ์ สนง.ปลัดกระทรวงการคลัง ฉบับที่ 4/2550 18 มกราคม 50--
1. การปรับโครงสร้างหนี้ของภาครัฐ
1.1 ในเดือนธันวาคม 2549 :-
ด้านต่างประเทศ
บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ได้ปรับโครงสร้างหนี้โดยการออกตราสาร Euro Commercial Paper (ECP) วงเงิน 132 ล้านเหรียญสหรัฐ และ 9,000 ล้านเยน หรือเทียบเท่า 7,361 ล้านบาท เพื่อใช้เป็น Bridge Financing ในการชำระคืนเงินกู้ Samurai Bond รุ่นที่ 17 และ 19 ก่อนที่จะดำเนินการจัดหาเงินกู้ระยะยาวที่สอดคล้องกับอายุเครื่องบินที่เหลือมาทดแทน และได้ Roll Over เงินกู้ ECP วงเงิน 58.6 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือเทียบเท่า 2,090 ล้านบาท ที่ใช้สมทบการจัดซื้อเครื่องบินโบอิ้ง B777-200ER ลำที่ 2 ต่อไปอีก 14 วัน
ด้านในประเทศ
กระทรวงการคลังได้ปรับโครงสร้างหนี้โดยการแปลงตั๋วเงินคลังที่ออกเพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณ วงเงิน 8,000 ล้านบาท เป็นพันธบัตรระยะยาว เพื่อเป็นการเพิ่ม Benchmark Bond อายุ 7 ปี และ 10 ปี และออกพันธบัตรเพื่อปรับโครงสร้างหนี้พันธบัตรเพื่อชดใช้ความเสียหายให้กองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน (FIDF1) ที่ครบกำหนดไถ่ถอน เมื่อวันที่ 8 ธันวาคม 2549 จำนวน 35,000 ล้านบาท โดยในชั้นแรกได้กู้เงินระยะสั้นวงเงิน 31,500 ล้านบาท สมทบกับเงินที่ได้จากการประมูลพันธบัตรงวดแรก 3,500 ล้านบาท เพื่อไถ่ถอนพันธบัตรที่ครบกำหนด แล้วทยอยออกพันธบัตรเพื่อปรับโครงสร้างหนี้มาชำระคืนเงินกู้ระยะสั้น โดยได้รับเงินจากการประมูลพันธบัตรในเดือนนี้
11,500 ล้านบาท ในส่วนของรัฐวิสาหกิจ องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพกู้เงินในประเทศเพื่อ Roll Over หนี้เดิมรวม 1,900 ล้านบาท
1.2 ในไตรมาสแรกของปีงบประมาณ 2550 :-
ด้านต่างประเทศ
กระทรวงการคลังได้ปรับโครงสร้างหนี้เงินกู้ต่างประเทศโดยชำระคืนก่อนครบกำหนด 18,416 ล้านบาท และ Refinance เงินกู้ ECP ซึ่งใช้เป็น Bridge Financing ในการทำ Refinance เงินกู้ JBIC ด้วยเงินบาท 6,700 ล้านบาท ผลจากการดำเนินงานดังกล่าวทำให้สามารถลดยอดหนี้คงค้างได้รวม 18,416 ล้านบาท และลดภาระดอกเบี้ยได้รวม 810 ล้านบาท สำหรับรัฐวิสาหกิจ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ได้ปรับโครงสร้างหนี้เงินกู้ต่างประเทศวงเงินรวม 9,451 ล้านบาท
ด้านในประเทศ
กระทรวงการคลังได้ปรับโครงสร้างหนี้ในประเทศโดยการแปลงตั๋วเงินคลังที่ออกเพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณ จำนวน 32,000 ล้านบาท เป็นพันธบัตรและปรับโครงสร้างหนี้เงินกู้ FIDF1 วงเงิน 45,000 ล้านบาท
2. การกู้เงินของภาครัฐ
2.1 ในเดือนธันวาคม 2549 :-
กระทรวงการคลังได้ออกพันธบัตรเพื่อชดใช้ความเสียหายให้กองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน ระยะที่สอง (FIDF3) ซึ่งได้รับเงินจากการประมูลพันธบัตรในเดือนนี้ 3,780 ล้านบาท โดยเป็นพันธบัตรออมทรัพย์ 500 ล้านบาท และพันธบัตรรัฐบาลกรณีพิเศษ 3,280 ล้านบาท
สำหรับรัฐวิสาหกิจ องค์การรับส่งสินค้าและพัสดุภัณฑ์ได้กู้เงินในประเทศเพื่อชำระหนี้ในการยุบเลิกกิจการ 1,053 ล้านบาท ส่วนบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ได้กู้เงินในรูปตราสาร ECP วงเงิน 59.60 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือเทียบเท่า 2,113 ล้านบาท เพื่อใช้เป็น Bridge Financing ในการชำระค่าจัดซื้อเครื่องบินโบอิ้ง B777-200ER ลำที่ 4
2.2 ในไตรมาสแรกของปีงบประมาณ 2550 :-
ภาครัฐได้กู้เงินในประเทศรวม 16,833 ล้านบาท ซึ่งเป็นการกู้ของกระทรวงการคลัง 15,780 ล้านบาท และรัฐวิสาหกิจ 1,053 ล้านบาท และรัฐวิสาหกิจได้กู้เงินต่างประเทศวงเงินรวม 31,803 ล้านบาท ซึ่งเป็นการกู้นอกแผนการก่อหนี้ต่างประเทศ
3. การชำระหนี้ของภาครัฐ
3.1 ในเดือนธันวาคม 2549 :-
กระทรวงการคลังได้ดำเนินการชำระหนี้จากงบประมาณ 8,345 ล้านบาท เป็นการชำระคืนเงินต้น 426 ล้านบาท ดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียมรวม 7,919 ล้านบาท
3.2 ในไตรมาสแรกของปีงบประมาณ 2550 :-
กระทรวงการคลังได้ชำระคืนต้นเงินกู้ ดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียมจากงบประมาณรวม 38,609 ล้านบาท
สถานะหนี้สาธารณะ ณ สิ้นเดือนพฤศจิกายน 2549
ยอดหนี้สาธารณะคงค้าง ณ วันที่ 30 พฤศจิกายน 2549 มีจำนวน 3,184,999 ล้านบาท หรือร้อยละ 40.78 ของ GDP เป็นหนี้ที่รัฐบาลกู้โดยตรง 1,960,768 ล้านบาท หนี้ของรัฐวิสาหกิจที่ไม่เป็นสถาบันการเงิน 903,435 ล้านบาท หนี้สินของกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน 256,382 ล้านบาท และหนี้องค์กรของรัฐอื่น 64,415 ล้านบาท เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนก่อนหนี้สาธารณะลดลง 28,357 ล้านบาท โดยหนี้ที่รัฐบาลกู้โดยตรง หนี้ของรัฐวิสาหกิจที่ไม่เป็นสถาบันการเงิน หนี้สินของกองทุนเพื่อการฟื้นฟูฯ และหนี้องค์กรของรัฐอื่นลดลง 9,437 ล้านบาท 4,446 ล้านบาท 9,099 ล้านบาท และ 5,301 ล้านบาท ตามลำดับ
หนี้สาธารณะจำแนกได้เป็นหนี้ต่างประเทศ 472,536 ล้านบาท หรือร้อยละ 14.84 และหนี้ในประเทศ 2,712,463 ล้านบาท หรือร้อยละ 85.16 และเป็นหนี้ระยะยาว 2,676,554 ล้านบาท หรือร้อยละ 84.04 และหนี้ระยะสั้น 508,445 ล้านบาท หรือร้อยละ 15.96 ของยอดหนี้สาธารณะคงค้าง
--ข่าวกระทรวงการคลัง กลุ่มการประชาสัมพันธ์ สนง.ปลัดกระทรวงการคลัง ฉบับที่ 4/2550 18 มกราคม 50--