(26 สค. 50)นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงข่าวถึงการตั้งจัดตั้งพรรคการเมืองในขณะนี้ว่า เป็นการเน้นวิธีการเอาบุคลากรทางการเมืองจากพรรคการเมืองต่าง ๆ มาเขย่า หลอมรวมเป็นพรรคการเมืองเดียวกัน และพยายามผสมตัวเลขทางการเมือง จำนวนอดีตส.ส. ให้ดูมาก เพื่อสร้างราคาให้กับพรรคของตนเอง
นายองอาจกล่าวว่า การรวมตัวในลักษณะนี้ แทนที่การเมืองจะก้าวพ้นจากวิถีทางการเมืองแบบเก่า ๆ กลับจะเป็นการขยายพันธุ์จอมปลอมในทางการเมืองให้มากยิ่งขึ้น พรรคการเมืองที่จัดตั้งขึ้นใหม่ทั้งพรรคที่มีผู้นำเป็นนอมินี หรือมีผู้นำซึ่งอาจเป็นคนใหม่แต่หน้าเก่าทางการเมืองก็ตาม ตนเห็นว่าควรที่จะประกาศจุดยืน นโยบาย และแนวทางการแก้ไขปัญหาของประเทศมากกว่าที่จะไปเน้นเรื่องของการเมืองในเชิงตัวเลข จำนวนส.ส. หรือไปเน้นในเรื่องของบุคลากรแต่เพียงอย่างเดียว โดยเฉพาะการนำบุคลากรที่ได้พิสูจน์ตัวเองมาหลายครั้งว่า ไม่ได้ยึดมั่นตามแนวทางของระบอบประชาธิปไตยนั้น น่าจะเป็นผลเสียในทางการเมืองมากกว่าที่จะเป็นผลดี
“ผมคิดว่าวันนี้พรรคการเมืองควรจะประกาศว่าจะแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจอย่างไร จะแก้ปัญหา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ด้วยวิธีการอย่างไร รวมทั้งปัญหาที่สำคัญที่กำลังเกิดขึ้นในสังคมไทย คือปัญหาความแตกแยกของผู้คนในสังคมของเรา มีความคิดเห็นที่แบ่งฝักแบ่งฝ่ายกันอย่างมากอยู่ในขณะนี้ ผมคิดว่าสิ่งเหล่านี้น่าจะเป็นหัวใจสำคัญในการจัดตั้งพรรคการเมืองขึ้นมา” นายองอาจกล่าว
นอกจากนี้ นายองอาจ ยังมีความเห็นว่า นโยบายและแนวทางการแก้ไขปัญหาคือสิ่งที่ประชาชนควรจะรู้จากพรรคการเมือง และจากนักการเมือง มากกว่าคำคุยโม้โอ้อวดว่าใครจะมีตัวเลขของอดีต ส.ส.มากกว่ากัน
นายองอาจ กล่าวว่า “ผมอยากจะเรียกร้องให้ประชาชนจับตาดู นับจากนี้ไปก็คือ พวกเห็บเหาทางการเมืองทั้งหลายที่กำลังไปโดดเกาะสุนัขอ้วน เพื่อที่จะสร้างความอิ่มหมีพีมันให้กับตัวเอง ผมคิดว่าลักษณะอย่างนี้เป็นลักษณะที่กำลังช่วยกันทำลายบ้านเมืองของเรามากกว่าที่จะช่วยกันสร้างสรรค์บ้านเมืองให้เดินไปในทางถูกต้องดีงาม”
นอกจากนี้นายองอาจยังกล่าวอีกด้วยว่า หากเรายังปล่อยให้พวกเห็บ เหา ทางการเมืองไปหาทางเกาะสุนัขอ้วนอยู่ต่อไป ในอนาคตข้างหน้าวงจรเก่า ๆ วงจรเดิม ๆ จะหวนกลับมาอีก เพราะคนเหล่านี้จะคำนึงถึงปากท้องของตัวเองมากกว่าปากท้องของประชาชน
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 26 ส.ค. 2550--จบ--
นายองอาจกล่าวว่า การรวมตัวในลักษณะนี้ แทนที่การเมืองจะก้าวพ้นจากวิถีทางการเมืองแบบเก่า ๆ กลับจะเป็นการขยายพันธุ์จอมปลอมในทางการเมืองให้มากยิ่งขึ้น พรรคการเมืองที่จัดตั้งขึ้นใหม่ทั้งพรรคที่มีผู้นำเป็นนอมินี หรือมีผู้นำซึ่งอาจเป็นคนใหม่แต่หน้าเก่าทางการเมืองก็ตาม ตนเห็นว่าควรที่จะประกาศจุดยืน นโยบาย และแนวทางการแก้ไขปัญหาของประเทศมากกว่าที่จะไปเน้นเรื่องของการเมืองในเชิงตัวเลข จำนวนส.ส. หรือไปเน้นในเรื่องของบุคลากรแต่เพียงอย่างเดียว โดยเฉพาะการนำบุคลากรที่ได้พิสูจน์ตัวเองมาหลายครั้งว่า ไม่ได้ยึดมั่นตามแนวทางของระบอบประชาธิปไตยนั้น น่าจะเป็นผลเสียในทางการเมืองมากกว่าที่จะเป็นผลดี
“ผมคิดว่าวันนี้พรรคการเมืองควรจะประกาศว่าจะแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจอย่างไร จะแก้ปัญหา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ด้วยวิธีการอย่างไร รวมทั้งปัญหาที่สำคัญที่กำลังเกิดขึ้นในสังคมไทย คือปัญหาความแตกแยกของผู้คนในสังคมของเรา มีความคิดเห็นที่แบ่งฝักแบ่งฝ่ายกันอย่างมากอยู่ในขณะนี้ ผมคิดว่าสิ่งเหล่านี้น่าจะเป็นหัวใจสำคัญในการจัดตั้งพรรคการเมืองขึ้นมา” นายองอาจกล่าว
นอกจากนี้ นายองอาจ ยังมีความเห็นว่า นโยบายและแนวทางการแก้ไขปัญหาคือสิ่งที่ประชาชนควรจะรู้จากพรรคการเมือง และจากนักการเมือง มากกว่าคำคุยโม้โอ้อวดว่าใครจะมีตัวเลขของอดีต ส.ส.มากกว่ากัน
นายองอาจ กล่าวว่า “ผมอยากจะเรียกร้องให้ประชาชนจับตาดู นับจากนี้ไปก็คือ พวกเห็บเหาทางการเมืองทั้งหลายที่กำลังไปโดดเกาะสุนัขอ้วน เพื่อที่จะสร้างความอิ่มหมีพีมันให้กับตัวเอง ผมคิดว่าลักษณะอย่างนี้เป็นลักษณะที่กำลังช่วยกันทำลายบ้านเมืองของเรามากกว่าที่จะช่วยกันสร้างสรรค์บ้านเมืองให้เดินไปในทางถูกต้องดีงาม”
นอกจากนี้นายองอาจยังกล่าวอีกด้วยว่า หากเรายังปล่อยให้พวกเห็บ เหา ทางการเมืองไปหาทางเกาะสุนัขอ้วนอยู่ต่อไป ในอนาคตข้างหน้าวงจรเก่า ๆ วงจรเดิม ๆ จะหวนกลับมาอีก เพราะคนเหล่านี้จะคำนึงถึงปากท้องของตัวเองมากกว่าปากท้องของประชาชน
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 26 ส.ค. 2550--จบ--