กรุงเทพ--17 พ.ค.--กระทรวงการต่างประเทศ
คณะกรรมาธิการเศรษฐกิจและสังคมสำหรับเอเชียและแปซิฟิก หรือ เอสแคป (Economic and Social Commission for Asia and the Pacific—ESCAP) จะจัดการประชุมใหญ่ประจำปี สมัยที่ 63 ระหว่างวันที่ 17-23 พฤษภาคม 2550 ณ นครอัลมาตี สาธารณรัฐคาซัคสถาน โดยในปีนี้เอสแคปให้ความสำคัญกับประเด็นสังคมในเรื่องสาธารณสุข โดยมีหัวข้อหลัก (theme topic) ของการประชุม คือ “ การพัฒนาระบบสุขภาพในบริบทของการเสริมสร้าง การเติบโตทางเศรษฐกิจเพื่อบรรลุเป้าหมายการพัฒนาแห่งสหัสวรรษในเอเชียและแปซิฟิก” (Development of health systems in the context of enhancing economic growth towards achieving the Millennium Development Goals in Asia and the Pacific)
การประชุมประจำปีเอสแคปเป็นการประชุมของผู้แทนระดับรัฐมนตรีของประเทศสมาชิกเอสแคป เพื่อแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นและตัดสินใจเกี่ยวกับปัญหาทางด้านการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมในภูมิภาค รวมทั้งพิจารณาอนุมัติแผนงานของสำนักเลขาธิการเอสแคป โดยแบ่งการประชุมออกเป็น 2 ช่วง คือการประชุมระดับเจ้าหน้าที่อาวุโส (Senior Officials’ Meeting) ระหว่างวันที่ 17-19 พฤษภาคม 2550 และการประชุมระดับรัฐมนตรี (Ministerial Meeting) ระหว่างวันที่ 21-23 พฤษภาคม 2550
ประธานาธิบดีคาซัคสถานจะเป็นประธานเปิดการประชุมในช่วงเช้าของวันที่ 21 พฤษภาคม 2550 และในช่วงบ่าย ฯพณฯ สวนิต คงสิริ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ หัวหน้าคณะผู้แทนไทยจะกล่าวถ้อยแถลงต่อที่ประชุมฯ ภายใต้ระเบียบวาระว่าด้วยปัญหาทางด้านนโยบายสำหรับภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก ซึ่งรวมถึงหัวข้อหลักของการประชุม และในช่วงเช้าของวันที่ 22 พฤษภาคม 2550 รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศจะเข้าร่วมการประชุมโต๊ะกลมระดับรัฐมนตรี (Ministerial Roundtable) ในหัวข้อหลักของการประชุม โดยไทยจะแสดงทัศนะของไทยต่อความสำคัญและความเชื่อมโยงของประเด็นสุขภาพกับการเติบโตทางเศรษฐกิจ การพัฒนาระบบสุขภาพให้มีความเข้มแข็งเพื่อให้ประชาชนได้รับบริการด้านสุขภาพอย่างทั่วถึง และแสวงหาความร่วมมือระหว่างประเทศในภูมิภาคเพื่อพัฒนาระบบสุขภาพให้มีความเข้มแข็งยิ่งขึ้น ทั้งนี้ จะมีผู้แทนระดับสูงจากกระทรวงสาธารณสุขของไทยเข้าร่วมการประชุม
นอกจากการประชุมข้างต้นแล้ว เอสแคปยังจัดการประชุมองค์กรพิเศษว่าด้วยประเทศที่พัฒนาน้อยที่สุด และประเทศที่กำลังพัฒนาที่ไม่มีทางออกทางทะเล สมัยที่ 8 (8th session of the Special Body on Least Developed and landlocked Developing Countries) ระหว่างวันที่ 15-16 พฤษภาคม 2550 และกิจกรรมข้างเคียงอื่น ๆ อาทิ การประชุมของภาคธุรกิจในภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก (Asia-Pacific Business Forum) ระหว่างวันที่ 18-19 พฤษภาคม 2550 ซึ่งจะมีผู้แทนจากภาคเอกชนจากประเทศไทยเข้าร่วมด้วย
เอสแคปเป็นหนึ่งในห้าคณะกรรมาธิการภูมิภาค (regional commissions) ภายใต้คณะมนตรีเศรษฐกิจและสังคม (Economic and Social Council-ECOSOC) แห่งสหประชาชาติ ซึ่งก่อตั้งขึ้นโดยสมัชชาสหประชาชาติ เมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2490 ในชื่อเดิมว่า คณะกรรมาธิการเศรษฐกิจสำหรับเอเชียและตะวันออกไกล หรืออีคาเฟ่ (Economic Commission for Asia and the Far East—ECAFE) โดยมีสำนักเลขาธิการตั้งอยู่ที่นครเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน และในเดือนมกราคม 2492 ได้ย้ายที่ตั้งมาอยู่ที่กรุงเทพฯ ต่อมา ในเดือนสิงหาคม 2517 ได้เปลี่ยนชื่อเป็นคณะกรรมาธิการเศรษฐกิจและสังคมสำหรับเอเชียและแปซิฟิกเพื่อสะท้อนถึงบทบาทหน้าที่ทั้งด้านการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม ตลอดจนที่ตั้งทางภูมิศาสตร์ของประเทศสมาชิก
เอสแคปเป็นคณะกรรมาธิการภูมิภาคที่ใหญ่ที่สุด ปัจจุบันมีสมาชิก 53 ประเทศ ครอบคลุมประชากรกว่าร้อยละ 60 ของประชากรโลก ประกอบด้วยประเทศในภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก 49 ประเทศ และประเทศนอกภูมิภาค 4 ประเทศ คือ ฝรั่งเศส เนเธอร์แลนด์ สหราชอาณาจักร และสหรัฐอเมริกา และมีสมาชิกสมทบ (associate members) 9 แห่ง (เป็นดินแดนที่ยังมิได้ปกครองตนเอง/มิได้เป็นรัฐอิสระ/มิได้เป็นสมาชิกสหประชาชาติ)
ไทยเป็นสมาชิกก่อตั้งเอสแคปเมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2490 และมีบทบาทที่สร้างสรรค์ในการกำกับดูแลการดำเนินกิจกรรมของเอสแคปในภาพรวม ให้สามารถตอบสนองความต้องการด้านการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของไทยและของภูมิภาคโดยรวมอย่างมีประสิทธิภาพ
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5170 โทรสาร. 643-5169 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--
-พห-
คณะกรรมาธิการเศรษฐกิจและสังคมสำหรับเอเชียและแปซิฟิก หรือ เอสแคป (Economic and Social Commission for Asia and the Pacific—ESCAP) จะจัดการประชุมใหญ่ประจำปี สมัยที่ 63 ระหว่างวันที่ 17-23 พฤษภาคม 2550 ณ นครอัลมาตี สาธารณรัฐคาซัคสถาน โดยในปีนี้เอสแคปให้ความสำคัญกับประเด็นสังคมในเรื่องสาธารณสุข โดยมีหัวข้อหลัก (theme topic) ของการประชุม คือ “ การพัฒนาระบบสุขภาพในบริบทของการเสริมสร้าง การเติบโตทางเศรษฐกิจเพื่อบรรลุเป้าหมายการพัฒนาแห่งสหัสวรรษในเอเชียและแปซิฟิก” (Development of health systems in the context of enhancing economic growth towards achieving the Millennium Development Goals in Asia and the Pacific)
การประชุมประจำปีเอสแคปเป็นการประชุมของผู้แทนระดับรัฐมนตรีของประเทศสมาชิกเอสแคป เพื่อแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นและตัดสินใจเกี่ยวกับปัญหาทางด้านการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมในภูมิภาค รวมทั้งพิจารณาอนุมัติแผนงานของสำนักเลขาธิการเอสแคป โดยแบ่งการประชุมออกเป็น 2 ช่วง คือการประชุมระดับเจ้าหน้าที่อาวุโส (Senior Officials’ Meeting) ระหว่างวันที่ 17-19 พฤษภาคม 2550 และการประชุมระดับรัฐมนตรี (Ministerial Meeting) ระหว่างวันที่ 21-23 พฤษภาคม 2550
ประธานาธิบดีคาซัคสถานจะเป็นประธานเปิดการประชุมในช่วงเช้าของวันที่ 21 พฤษภาคม 2550 และในช่วงบ่าย ฯพณฯ สวนิต คงสิริ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ หัวหน้าคณะผู้แทนไทยจะกล่าวถ้อยแถลงต่อที่ประชุมฯ ภายใต้ระเบียบวาระว่าด้วยปัญหาทางด้านนโยบายสำหรับภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก ซึ่งรวมถึงหัวข้อหลักของการประชุม และในช่วงเช้าของวันที่ 22 พฤษภาคม 2550 รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศจะเข้าร่วมการประชุมโต๊ะกลมระดับรัฐมนตรี (Ministerial Roundtable) ในหัวข้อหลักของการประชุม โดยไทยจะแสดงทัศนะของไทยต่อความสำคัญและความเชื่อมโยงของประเด็นสุขภาพกับการเติบโตทางเศรษฐกิจ การพัฒนาระบบสุขภาพให้มีความเข้มแข็งเพื่อให้ประชาชนได้รับบริการด้านสุขภาพอย่างทั่วถึง และแสวงหาความร่วมมือระหว่างประเทศในภูมิภาคเพื่อพัฒนาระบบสุขภาพให้มีความเข้มแข็งยิ่งขึ้น ทั้งนี้ จะมีผู้แทนระดับสูงจากกระทรวงสาธารณสุขของไทยเข้าร่วมการประชุม
นอกจากการประชุมข้างต้นแล้ว เอสแคปยังจัดการประชุมองค์กรพิเศษว่าด้วยประเทศที่พัฒนาน้อยที่สุด และประเทศที่กำลังพัฒนาที่ไม่มีทางออกทางทะเล สมัยที่ 8 (8th session of the Special Body on Least Developed and landlocked Developing Countries) ระหว่างวันที่ 15-16 พฤษภาคม 2550 และกิจกรรมข้างเคียงอื่น ๆ อาทิ การประชุมของภาคธุรกิจในภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก (Asia-Pacific Business Forum) ระหว่างวันที่ 18-19 พฤษภาคม 2550 ซึ่งจะมีผู้แทนจากภาคเอกชนจากประเทศไทยเข้าร่วมด้วย
เอสแคปเป็นหนึ่งในห้าคณะกรรมาธิการภูมิภาค (regional commissions) ภายใต้คณะมนตรีเศรษฐกิจและสังคม (Economic and Social Council-ECOSOC) แห่งสหประชาชาติ ซึ่งก่อตั้งขึ้นโดยสมัชชาสหประชาชาติ เมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2490 ในชื่อเดิมว่า คณะกรรมาธิการเศรษฐกิจสำหรับเอเชียและตะวันออกไกล หรืออีคาเฟ่ (Economic Commission for Asia and the Far East—ECAFE) โดยมีสำนักเลขาธิการตั้งอยู่ที่นครเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน และในเดือนมกราคม 2492 ได้ย้ายที่ตั้งมาอยู่ที่กรุงเทพฯ ต่อมา ในเดือนสิงหาคม 2517 ได้เปลี่ยนชื่อเป็นคณะกรรมาธิการเศรษฐกิจและสังคมสำหรับเอเชียและแปซิฟิกเพื่อสะท้อนถึงบทบาทหน้าที่ทั้งด้านการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม ตลอดจนที่ตั้งทางภูมิศาสตร์ของประเทศสมาชิก
เอสแคปเป็นคณะกรรมาธิการภูมิภาคที่ใหญ่ที่สุด ปัจจุบันมีสมาชิก 53 ประเทศ ครอบคลุมประชากรกว่าร้อยละ 60 ของประชากรโลก ประกอบด้วยประเทศในภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก 49 ประเทศ และประเทศนอกภูมิภาค 4 ประเทศ คือ ฝรั่งเศส เนเธอร์แลนด์ สหราชอาณาจักร และสหรัฐอเมริกา และมีสมาชิกสมทบ (associate members) 9 แห่ง (เป็นดินแดนที่ยังมิได้ปกครองตนเอง/มิได้เป็นรัฐอิสระ/มิได้เป็นสมาชิกสหประชาชาติ)
ไทยเป็นสมาชิกก่อตั้งเอสแคปเมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2490 และมีบทบาทที่สร้างสรรค์ในการกำกับดูแลการดำเนินกิจกรรมของเอสแคปในภาพรวม ให้สามารถตอบสนองความต้องการด้านการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของไทยและของภูมิภาคโดยรวมอย่างมีประสิทธิภาพ
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5170 โทรสาร. 643-5169 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--
-พห-