กรุงเทพ--12 เม.ย.--กระทรวงการต่างประเทศ
กระทรวงการต่างประเทศได้สนับสนุนสถานเอกอัครราชทูตและสถานกงสุลใหญ่ทั่วโลกในการดำเนิน 41 โครงการทั่วโลกตามยุทธศาสตร์ไทยต่อโลกมุสลิม เพื่อเพิ่มความใกล้ชิดระหว่างนักศึกษาไทยมุสลิมกับหน่วยงานภาครัฐในต่างประเทศ ส่งเสริมให้นักศึกษาไทยมุสลิมมีโอกาสศึกษาเพิ่มเติมโดยเฉพาะภาษาไทย ภาษาอังกฤษ และวิชาชีพอื่น ๆ ที่จะเป็นประโยชน์และทางเลือกต่อการประกอบอาชีพของนักศึกษาไทยมุสลิมในอนาคต ตลอดจนเป็นการเสริมสร้างความสามัคคีในหมู่นักศึกษาไทยในต่างประเทศด้วย
การดำเนินโครงการยุทธศาสตร์ไทยต่อโลกมุสลิมของสถานเอกอัครราชทูตและสถานกงสุลใหญ่ในประเทศมุสลิมต่างๆ สามารถจำแนกได้เป็น 2 ประเภท คือ
1. โครงการส่งเสริมความสัมพันธ์กับนักศึกษาไทยมุสลิม
ที่ผ่านมา สถานเอกอัครราชทูตในประเทศต่างๆ ที่มีนักศึกษาไทยมุสลิมศึกษาอยู่ได้ดำเนินโครงการเพื่อการนี้แล้วหลายแห่ง ที่สำคัญได้แก่
สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงไคโร (มีนักศึกษาไทยมุสลิมศึกษาอยู่มากที่สุดถึงประมาณ 2,600 คน) ได้ดำเนินการโครงการหลายด้านอย่างต่อเนื่องในการเสริมสร้างความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดระหว่างหน่วยงานของรัฐกับนักศึกษาไทยมุสลิม เพื่อให้เกิดความเข้าใจที่ดีและความร่วมมือระหว่างกัน
ในปีนี้ สถานเอกอัคราชทูตฯ จะดำเนินโครงการต่าง ๆ เช่น โครงการส่งเสริมกิจกรรมของนักเรียนหรือคนไทยในอียิปต์ โครงการนำแพทย์และพยาบาลไปตรวจสุขภาพแก่นักเรียนไทยและคนไทยในอียิปต์และซูดาน โครงการสนับสนุนการศึกษาวิชาการ/การประกอบอาชีพแก่นักเรียนไทยในอียิปต์และซูดานสนับสนุนค่าเช่าที่ทำการของสมาคมนักเรียนไทยในอียิปต์ และโครงการจัดคลินิกฟุตบอลและจัดแข่งขันฟุตบอลกับนักศึกษาไทยในอียิปต์ เป็นต้น
สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงจาการ์ตา ซึ่งรับผิดชอบดูแลนักศึกษาไทยมุสลิมประมาณ 500 คนในอินโดนีเซีย ได้ดำเนินโครงการมาตั้งแต่เมื่อปี 2549 และจะดำเนินต่อไป คือ 1) โครงการร่วมมือกับมหาวิทยาลัยชั้นนำของอินโดนีเซียในการสนับสนุนการวิจัยและวิทยานิพนธ์ของนักศึกษาไทยมุสลิมในอินโดนีเซีย 2) โครงการสนับสนุนค่าเบี้ยเลี้ยงและยานพาหนะให้แก่ชมรมนักศึกษาไทยมุสลิมในอินโดนีเซียในการจัดรายการวิทยุภาคภาษาไทย ณ สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งชาติอินโดนีเซีย 3) โครงการสนับสนุนค่าใช้จ่ายให้นักศึกษาไทยจากต่างจังหวัดมาร่วมประชุมใหญ่ประจำปีของชมรมนักศึกษาไทยมุสลิมในอินโดนีเซีย และ 4) โครงการสนับสนุนค่าเช่าที่ทำการชมรมนักศึกษาไทยมุสลิมในอินโดนีเซีย
สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ จัดโครงการแนะแนวการประกอบอาชีพแก่นักศึกษามุสลิมที่ศึกษาอยู่ในประเทศมาเลเซียที่มีอยู่ประมาณ 300 คน ซึ่งเป็นการจัดโครงการแนะแนวเป็นครั้งที่ 3 และจะมีการจัดเลี้ยงอาหารเพื่อละศีลอดสำหรับนักศึกษาไทยมุสลิมระหว่างเดือนรอมฎอนด้วย
สถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองการาจี ซึ่งมีนักศึกษาไทยมุสลิมศึกษาอยู่ประมาณ 300 คน จะจัดโครงการสัมมนานักศึกษาไทยมุสลิมในปากีสถานภายใต้หัวข้อ “อุดมการณ์ทางการเมืองและความสุดโต่งทางความคิด กับนักเรียนไทยมุสลิมในปากีสถาน”
สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงราบัต จัดโครงการนำนักศึกษาทัศนาจรในเขตเศรษฐกิจโมร็อกโก และโครงการจ้างนักศึกษาเพื่อช่วยงานด้านเศรษฐกิจ การเมือง และงานกงสุลของสถานเอกอัครราชทูตฯ
2. โครงการเสริมสร้างความเข้าใจและเพิ่มปฏิสัมพันธ์กับโลกมุสลิม
สถานเอกอัครราชทูตในหลายประเทศได้ดำเนินโครงการเชิญสื่อมวลชนจากประเทศมุสลิมและประเทศในตะวันออกกลางเยือนไทย รวมถึงโครงการการแลกเปลี่ยนการเยือนของผู้นำมุสลิมในไทยกับประเทศต่างๆ และจะดำเนินการต่อเนื่องในปีนี้ ได้แก่
สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงจาการ์ตา จะจัดโครงการนำผู้นำองค์กรศาสนาอิสลามอินโดนีเซียเยือนประเทศไทย
สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงแคนเบอร์รา จะจัดโครงการความร่วมมือกับทางการออสเตรเลียในการส่งเสริมศักยภาพและบทบาทนำสตรีมุสลิมไทย โดยจะนำผู้นำมุสลิมจากจังหวัดชายแดนภาคใต้ของไทยไปเยือนออสเตรเลีย เพื่อเยี่ยมชุมชนมุสลิมในออสเตรเลียซึ่งสามารถอยู่ร่วมกับชุมชนท้องถิ่นได้อย่างสงบสุข รวมทั้งเพื่อรับทราบแนวนโยบายของรัฐบาลออสเตรเลียต่อชุมชนมุสลิม
สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงไคโร กรุงธากา และ กรุงอิสลามาบัด นำสื่อมวลชน รวมทั้งจากซูดานมาเยือนประเทศไทย
นอกจากนั้น ในเดือนเมษายน ศกนี้ รัฐมนตรีว่าการฯ และรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศมีกำหนดเยือนประเทศมุสลิมในเอเชียใต้ แอฟริกา และตะวันออกกลาง เพื่อสนับสนุนการดำเนินภารกิจตามยุทธศาสตร์ไทยต่อโลกมุสลิม พบปะชุมชนนักศึกษาไทยมุสลิม และเพื่อชี้แจงทำความเข้าใจการดำเนินการของไทยในการแก้ปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ดังนี้
4-7 เมษายน — รัฐมนตรีช่วยฯ เยือนปากีสถาน
17-21 เมษายน — รัฐมนตรีช่วยฯ เยือนอิยิปต์และซูดาน
20-25 เมษายน — รัฐมนตรีว่าการฯ เยือนบาห์เรน และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
กระทรวงการต่างประเทศตระหนักดีถึงภารกิจสำคัญในการชี้แจงทำความเข้าใจประเทศมุสลิมเกี่ยวกับการแก้ปัญหาภาคใต้ของไทย ซึ่งได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องและได้ผลเป็นที่น่าพอใจ ไม่ว่าจะเป็นการเยือนประเทศมุสลิมของรัฐมนตรี การสั่งการให้สถานเอกอัครราชทูต และสถานกงสุลใหญ่ในประเทศมุสลิมทั่วโลก ดำเนินโครงการเพื่อสนองยุทธศาสตร์ไทยต่อโลกมุสลิม เพื่อส่งเสริมปฏิสัมพันธ์ของสถานทูตกับนักศึกษาไทยมุสลิม ส่งเสริมให้นักศึกษาไทยมุสลิมมีทางเลือกในการประกอบอาชีพมากขึ้น รวมถึงการดำเนินโครงการเสริมสร้างความเข้าใจด้วยการเพิ่มการมีปฏิสัมพันธ์กับประเทศมุสลิมเพื่อให้เข้าใจสภาพที่แท้จริงของชุมชนมุสลิมในไทย
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5170 โทรสาร. 643-5169 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--
-พห-
กระทรวงการต่างประเทศได้สนับสนุนสถานเอกอัครราชทูตและสถานกงสุลใหญ่ทั่วโลกในการดำเนิน 41 โครงการทั่วโลกตามยุทธศาสตร์ไทยต่อโลกมุสลิม เพื่อเพิ่มความใกล้ชิดระหว่างนักศึกษาไทยมุสลิมกับหน่วยงานภาครัฐในต่างประเทศ ส่งเสริมให้นักศึกษาไทยมุสลิมมีโอกาสศึกษาเพิ่มเติมโดยเฉพาะภาษาไทย ภาษาอังกฤษ และวิชาชีพอื่น ๆ ที่จะเป็นประโยชน์และทางเลือกต่อการประกอบอาชีพของนักศึกษาไทยมุสลิมในอนาคต ตลอดจนเป็นการเสริมสร้างความสามัคคีในหมู่นักศึกษาไทยในต่างประเทศด้วย
การดำเนินโครงการยุทธศาสตร์ไทยต่อโลกมุสลิมของสถานเอกอัครราชทูตและสถานกงสุลใหญ่ในประเทศมุสลิมต่างๆ สามารถจำแนกได้เป็น 2 ประเภท คือ
1. โครงการส่งเสริมความสัมพันธ์กับนักศึกษาไทยมุสลิม
ที่ผ่านมา สถานเอกอัครราชทูตในประเทศต่างๆ ที่มีนักศึกษาไทยมุสลิมศึกษาอยู่ได้ดำเนินโครงการเพื่อการนี้แล้วหลายแห่ง ที่สำคัญได้แก่
สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงไคโร (มีนักศึกษาไทยมุสลิมศึกษาอยู่มากที่สุดถึงประมาณ 2,600 คน) ได้ดำเนินการโครงการหลายด้านอย่างต่อเนื่องในการเสริมสร้างความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดระหว่างหน่วยงานของรัฐกับนักศึกษาไทยมุสลิม เพื่อให้เกิดความเข้าใจที่ดีและความร่วมมือระหว่างกัน
ในปีนี้ สถานเอกอัคราชทูตฯ จะดำเนินโครงการต่าง ๆ เช่น โครงการส่งเสริมกิจกรรมของนักเรียนหรือคนไทยในอียิปต์ โครงการนำแพทย์และพยาบาลไปตรวจสุขภาพแก่นักเรียนไทยและคนไทยในอียิปต์และซูดาน โครงการสนับสนุนการศึกษาวิชาการ/การประกอบอาชีพแก่นักเรียนไทยในอียิปต์และซูดานสนับสนุนค่าเช่าที่ทำการของสมาคมนักเรียนไทยในอียิปต์ และโครงการจัดคลินิกฟุตบอลและจัดแข่งขันฟุตบอลกับนักศึกษาไทยในอียิปต์ เป็นต้น
สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงจาการ์ตา ซึ่งรับผิดชอบดูแลนักศึกษาไทยมุสลิมประมาณ 500 คนในอินโดนีเซีย ได้ดำเนินโครงการมาตั้งแต่เมื่อปี 2549 และจะดำเนินต่อไป คือ 1) โครงการร่วมมือกับมหาวิทยาลัยชั้นนำของอินโดนีเซียในการสนับสนุนการวิจัยและวิทยานิพนธ์ของนักศึกษาไทยมุสลิมในอินโดนีเซีย 2) โครงการสนับสนุนค่าเบี้ยเลี้ยงและยานพาหนะให้แก่ชมรมนักศึกษาไทยมุสลิมในอินโดนีเซียในการจัดรายการวิทยุภาคภาษาไทย ณ สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งชาติอินโดนีเซีย 3) โครงการสนับสนุนค่าใช้จ่ายให้นักศึกษาไทยจากต่างจังหวัดมาร่วมประชุมใหญ่ประจำปีของชมรมนักศึกษาไทยมุสลิมในอินโดนีเซีย และ 4) โครงการสนับสนุนค่าเช่าที่ทำการชมรมนักศึกษาไทยมุสลิมในอินโดนีเซีย
สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ จัดโครงการแนะแนวการประกอบอาชีพแก่นักศึกษามุสลิมที่ศึกษาอยู่ในประเทศมาเลเซียที่มีอยู่ประมาณ 300 คน ซึ่งเป็นการจัดโครงการแนะแนวเป็นครั้งที่ 3 และจะมีการจัดเลี้ยงอาหารเพื่อละศีลอดสำหรับนักศึกษาไทยมุสลิมระหว่างเดือนรอมฎอนด้วย
สถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองการาจี ซึ่งมีนักศึกษาไทยมุสลิมศึกษาอยู่ประมาณ 300 คน จะจัดโครงการสัมมนานักศึกษาไทยมุสลิมในปากีสถานภายใต้หัวข้อ “อุดมการณ์ทางการเมืองและความสุดโต่งทางความคิด กับนักเรียนไทยมุสลิมในปากีสถาน”
สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงราบัต จัดโครงการนำนักศึกษาทัศนาจรในเขตเศรษฐกิจโมร็อกโก และโครงการจ้างนักศึกษาเพื่อช่วยงานด้านเศรษฐกิจ การเมือง และงานกงสุลของสถานเอกอัครราชทูตฯ
2. โครงการเสริมสร้างความเข้าใจและเพิ่มปฏิสัมพันธ์กับโลกมุสลิม
สถานเอกอัครราชทูตในหลายประเทศได้ดำเนินโครงการเชิญสื่อมวลชนจากประเทศมุสลิมและประเทศในตะวันออกกลางเยือนไทย รวมถึงโครงการการแลกเปลี่ยนการเยือนของผู้นำมุสลิมในไทยกับประเทศต่างๆ และจะดำเนินการต่อเนื่องในปีนี้ ได้แก่
สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงจาการ์ตา จะจัดโครงการนำผู้นำองค์กรศาสนาอิสลามอินโดนีเซียเยือนประเทศไทย
สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงแคนเบอร์รา จะจัดโครงการความร่วมมือกับทางการออสเตรเลียในการส่งเสริมศักยภาพและบทบาทนำสตรีมุสลิมไทย โดยจะนำผู้นำมุสลิมจากจังหวัดชายแดนภาคใต้ของไทยไปเยือนออสเตรเลีย เพื่อเยี่ยมชุมชนมุสลิมในออสเตรเลียซึ่งสามารถอยู่ร่วมกับชุมชนท้องถิ่นได้อย่างสงบสุข รวมทั้งเพื่อรับทราบแนวนโยบายของรัฐบาลออสเตรเลียต่อชุมชนมุสลิม
สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงไคโร กรุงธากา และ กรุงอิสลามาบัด นำสื่อมวลชน รวมทั้งจากซูดานมาเยือนประเทศไทย
นอกจากนั้น ในเดือนเมษายน ศกนี้ รัฐมนตรีว่าการฯ และรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศมีกำหนดเยือนประเทศมุสลิมในเอเชียใต้ แอฟริกา และตะวันออกกลาง เพื่อสนับสนุนการดำเนินภารกิจตามยุทธศาสตร์ไทยต่อโลกมุสลิม พบปะชุมชนนักศึกษาไทยมุสลิม และเพื่อชี้แจงทำความเข้าใจการดำเนินการของไทยในการแก้ปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ดังนี้
4-7 เมษายน — รัฐมนตรีช่วยฯ เยือนปากีสถาน
17-21 เมษายน — รัฐมนตรีช่วยฯ เยือนอิยิปต์และซูดาน
20-25 เมษายน — รัฐมนตรีว่าการฯ เยือนบาห์เรน และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
กระทรวงการต่างประเทศตระหนักดีถึงภารกิจสำคัญในการชี้แจงทำความเข้าใจประเทศมุสลิมเกี่ยวกับการแก้ปัญหาภาคใต้ของไทย ซึ่งได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องและได้ผลเป็นที่น่าพอใจ ไม่ว่าจะเป็นการเยือนประเทศมุสลิมของรัฐมนตรี การสั่งการให้สถานเอกอัครราชทูต และสถานกงสุลใหญ่ในประเทศมุสลิมทั่วโลก ดำเนินโครงการเพื่อสนองยุทธศาสตร์ไทยต่อโลกมุสลิม เพื่อส่งเสริมปฏิสัมพันธ์ของสถานทูตกับนักศึกษาไทยมุสลิม ส่งเสริมให้นักศึกษาไทยมุสลิมมีทางเลือกในการประกอบอาชีพมากขึ้น รวมถึงการดำเนินโครงการเสริมสร้างความเข้าใจด้วยการเพิ่มการมีปฏิสัมพันธ์กับประเทศมุสลิมเพื่อให้เข้าใจสภาพที่แท้จริงของชุมชนมุสลิมในไทย
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5170 โทรสาร. 643-5169 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--
-พห-