“ปชป.”ย้ำ รัฐธรรมนูญและการเลือกตั้งคือหัวใจผ่าทางตันวิกฤติการณ์ประเทศ ห่วงสสร.พิจารณาร่างรัฐธรรมนูญอืด อาจเสร็จไม่ทันตามกำหนดกระทบแผนฟื้นฟูประชาธิปไตยเพราะยังเหลือบทบัญญัติอีกเกือบ 200 มาตราโดยเฉพาะหมวดสำคัญๆ แนะเพิ่มวันประชุมเสาร์อาทิตย์และจัดทำบัญชีผู้แปรญัตติล่วงหน้าพร้อมกำหนดเวลาการพิจารณาแต่ละหมวด
วันนี้(16 มิ.ย.50) นายอลงกรณ์ พลบุตร รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์แถลงที่พรรคประชาธิปัตย์ ให้ความเห็นเกี่ยวกับการพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ของสภาร่างรัฐธรรมนูญว่า พรรคประชาธิปัตย์ยืนยันว่าแนวทางการฟื้นฟูประชาธิปไตยที่มีรัฐธรรมนูญที่เป็นประชาธิปไตยและการเลือกตั้งที่เสรีและเป็นธรรมภายในปีนี้คือหัวใจสำคัญของการผ่าทางตันวิกฤติการณ์ของประเทศชาติ แต่รู้สึกกังวลต่อการพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญของสภาร่างรัฐธรรมนูญที่ค่อนข้างล่าช้าเพราะเพิ่งพิจารณาถึงมาตรา 67 จากทั้งหมด 299 มาตราและเหลือเวลาอีกเพียง 2 สัปดาห์ก็จะครบกำหนดการพิจารณาของ สสร. จึงขอเสนอให้ สสร.เพิ่มวันประชุมสุดสัปดาห์เพิ่มเติมและประธานสสร.ควรจัดทำบัญชีผู้อภิปรายล่วงหน้าเพื่อให้ผู้แปรญัตติตกลงกันเองภายในกลุ่มสำหรับมาตราที่แปรญัตติตรงกันเพื่อลดการอภิปรายที่ความซ้ำซ้อนและสิ้นเปลืองเวลาโดยใช่เหตุ อย่างไรก็ตามการพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญจะต้องเป็นไปอย่างรอบคอบและรับฟังความเห็นของผู้แปรญัตติอย่างรอบด้านเพื่อให้กระบวนการพิจารณาเป็นไปตามครรลองที่ชอบธรรม
รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าวว่า จากประสบการณ์ของพรรคประชาธิปัตย์เกี่ยวกับ การพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญเห็นว่า ขณะนี้สสร.ยังพิจารณาอยู่ในหมวด 3 จากทั้งหมด 15 หมวด และบทเฉพาะกาล ซึ่งยังมีบทบัญญัติสำคัญที่คาดว่าจะใช้เวลาในการพิจารณาเช่น หมวด 5 แนวนโยบายพื้นฐานแห่งรัฐ หมวด 6 รัฐสภา หมวด 7 การมีส่วนร่วมทางการเมืองโดยตรงของประชาชน หมวด 12 การตรวจสอบการใช้อำนาจรัฐ หมวด 14 การปกครองส่วนท้องถิ่นและบทเฉพาะกาล ดังนั้นประธาน สสร.ควรกำหนดเวลาในการพิจารณาแต่ละหมวดตามความสำคัญของแต่ละหมวดอย่างเคร่งครัดเพื่อให้การพิจารณาเป็นไปอย่างมีกฎเกณฑ์ที่แน่นอนมากขึ้น
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 16 มิ.ย. 2550--จบ--
วันนี้(16 มิ.ย.50) นายอลงกรณ์ พลบุตร รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์แถลงที่พรรคประชาธิปัตย์ ให้ความเห็นเกี่ยวกับการพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ของสภาร่างรัฐธรรมนูญว่า พรรคประชาธิปัตย์ยืนยันว่าแนวทางการฟื้นฟูประชาธิปไตยที่มีรัฐธรรมนูญที่เป็นประชาธิปไตยและการเลือกตั้งที่เสรีและเป็นธรรมภายในปีนี้คือหัวใจสำคัญของการผ่าทางตันวิกฤติการณ์ของประเทศชาติ แต่รู้สึกกังวลต่อการพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญของสภาร่างรัฐธรรมนูญที่ค่อนข้างล่าช้าเพราะเพิ่งพิจารณาถึงมาตรา 67 จากทั้งหมด 299 มาตราและเหลือเวลาอีกเพียง 2 สัปดาห์ก็จะครบกำหนดการพิจารณาของ สสร. จึงขอเสนอให้ สสร.เพิ่มวันประชุมสุดสัปดาห์เพิ่มเติมและประธานสสร.ควรจัดทำบัญชีผู้อภิปรายล่วงหน้าเพื่อให้ผู้แปรญัตติตกลงกันเองภายในกลุ่มสำหรับมาตราที่แปรญัตติตรงกันเพื่อลดการอภิปรายที่ความซ้ำซ้อนและสิ้นเปลืองเวลาโดยใช่เหตุ อย่างไรก็ตามการพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญจะต้องเป็นไปอย่างรอบคอบและรับฟังความเห็นของผู้แปรญัตติอย่างรอบด้านเพื่อให้กระบวนการพิจารณาเป็นไปตามครรลองที่ชอบธรรม
รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าวว่า จากประสบการณ์ของพรรคประชาธิปัตย์เกี่ยวกับ การพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญเห็นว่า ขณะนี้สสร.ยังพิจารณาอยู่ในหมวด 3 จากทั้งหมด 15 หมวด และบทเฉพาะกาล ซึ่งยังมีบทบัญญัติสำคัญที่คาดว่าจะใช้เวลาในการพิจารณาเช่น หมวด 5 แนวนโยบายพื้นฐานแห่งรัฐ หมวด 6 รัฐสภา หมวด 7 การมีส่วนร่วมทางการเมืองโดยตรงของประชาชน หมวด 12 การตรวจสอบการใช้อำนาจรัฐ หมวด 14 การปกครองส่วนท้องถิ่นและบทเฉพาะกาล ดังนั้นประธาน สสร.ควรกำหนดเวลาในการพิจารณาแต่ละหมวดตามความสำคัญของแต่ละหมวดอย่างเคร่งครัดเพื่อให้การพิจารณาเป็นไปอย่างมีกฎเกณฑ์ที่แน่นอนมากขึ้น
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 16 มิ.ย. 2550--จบ--