กรุงเทพ--2 ก.พ.--กระทรวงการต่างประเทศ
เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2548 ดร. สุรเกียรติ์ เสถียรไทย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการ ต่างประเทศ ได้ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนก่อนเข้าร่วมการประชุมคณะรัฐมนตรีเกี่ยวกับกรณีทางการ มาเลเซียจับกุมตัวนายเจ๊ะกูแม กูเต๊ะ แกนนำสำคัญกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดน ภาคใต้ ซึ่งรัฐบาลไทยต้องการให้มาเลเซียส่งตัวมาดำเนินคดีในไทย สาระสำคัญสรุปได้ดังนี้
1. การส่งผู้ร้ายข้ามแดนระหว่างไทยและมาเลเซียจะเป็นไปตามสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนที่ทำขึ้นระหว่างไทยกับอังกฤษเมื่อปี 2454 ซึ่งต่อมาเมื่อมีการก่อตั้งประเทศมาเลเซียเมื่อปี 2502 ทั้งสองประเทศได้มีการทำหนังสือแลกเปลี่ยนยืนยันพันธะกรณีตามสนธิสัญญาฯ และล่าสุดเมื่อปี 2547 ทางการมาเลเซียได้มีหนังสือมาขอทบทวนสนธิสัญญาฯ ฝ่ายไทยจึงถือว่ากระบวนการส่งผู้ร้ายข้ามแดนระหว่างไทยและมาเลเซียเป็นไปตามบทบัญญัติของสนธิสัญญาฯ ซึ่งได้มีการยืนยัน พันธะเรื่องนี้ระหว่างกันมาโดยตลอด
2. การดำเนินการส่งผู้ร้ายข้ามแดนฯ ตามสนธิสัญญาฯ ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของหน่วยงานที่รับผิดชอบด้านกฎหมายระหว่างประเทศของไทยและมาเลเซีย ซึ่งในส่วนของไทยนั้นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้มอบหมายให้กรมสนธิสัญญาและกฎหมายประสานกับกระทรวงมหาดไทยตรวจสอบสัญชาตินายเจ๊ะกูแม กูเต๊ะ ว่าเป็นบุคคลสัญชาติไทยหรือมาเลเซีย เพื่อจะได้ ติดต่อประสานกับทางการมาเลเซียเพื่อดูในเรื่องบทบัญญัติต่างๆ ของสนธิสัญญาฯ ว่าจะสามารถกระทำได้หรือไม่ และจะดำเนินการอย่างไร
3. ในชั้นนี้ขั้นตอนสำคัญที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องของไทยจะต้องกระทำคือการเร่งพิสูจน์ให้ ชัดเจนว่านายเจ๊ะกูแม กูเต๊ะ เป็นบุคคลสัญชาติไทยหรือไม่ เพื่อจะได้ดำเนินการติดต่อประสานกับ ทางการมาเลเซียตามช่องทางและกระบวนการที่กำหนดไว้ ทั้งนี้ กฎหมายภายในของมาเลเซียไม่ รับรองบุคคลสองสัญชาติ ดังนั้น เมื่อมีกรณีบุคคลสองสัญชาติเกี่ยวข้องในการส่งผู้ร้ายข้ามแดน ทางการมาเลเซียก็ต้องดำเนินการถอนสัญชาติมาเลเซียก่อน ซึ่งจะทำให้เหลือเพียงสัญชาติเดียว ซึ่งในกรณีของนายเจ๊ะกูแม กูเต๊ะ ขึ้นอยู่กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของไทยว่ามีข้อมูลชัดเจนว่านาย เจ๊ะกูแม กูเต๊ะ มีสัญชาติไทยหรือไม่
4. หากหลักฐานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของไทยในเรื่องนี้มีความชัดเจน ก็คาดว่าในวันนี้ (1 กุมภาพันธ์) กรมสนธิสัญญาและกฎหมายและกระทรวงมหาดไทยน่าจะสามารถยืนยันความชัดเจนในเรื่องสัญชาติของนายเจ๊ะกูแม กูเต๊ะ ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศจะได้ติดต่อประสานกับทางการ มาเลเซียเพื่อขอให้พิจารณาดำเนินการตามบทบัญญัติของสนธิสัญญาฯ ต่อไป
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5105 โทรสาร. 643-5106-7 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--
-พห-
เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2548 ดร. สุรเกียรติ์ เสถียรไทย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการ ต่างประเทศ ได้ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนก่อนเข้าร่วมการประชุมคณะรัฐมนตรีเกี่ยวกับกรณีทางการ มาเลเซียจับกุมตัวนายเจ๊ะกูแม กูเต๊ะ แกนนำสำคัญกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดน ภาคใต้ ซึ่งรัฐบาลไทยต้องการให้มาเลเซียส่งตัวมาดำเนินคดีในไทย สาระสำคัญสรุปได้ดังนี้
1. การส่งผู้ร้ายข้ามแดนระหว่างไทยและมาเลเซียจะเป็นไปตามสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนที่ทำขึ้นระหว่างไทยกับอังกฤษเมื่อปี 2454 ซึ่งต่อมาเมื่อมีการก่อตั้งประเทศมาเลเซียเมื่อปี 2502 ทั้งสองประเทศได้มีการทำหนังสือแลกเปลี่ยนยืนยันพันธะกรณีตามสนธิสัญญาฯ และล่าสุดเมื่อปี 2547 ทางการมาเลเซียได้มีหนังสือมาขอทบทวนสนธิสัญญาฯ ฝ่ายไทยจึงถือว่ากระบวนการส่งผู้ร้ายข้ามแดนระหว่างไทยและมาเลเซียเป็นไปตามบทบัญญัติของสนธิสัญญาฯ ซึ่งได้มีการยืนยัน พันธะเรื่องนี้ระหว่างกันมาโดยตลอด
2. การดำเนินการส่งผู้ร้ายข้ามแดนฯ ตามสนธิสัญญาฯ ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของหน่วยงานที่รับผิดชอบด้านกฎหมายระหว่างประเทศของไทยและมาเลเซีย ซึ่งในส่วนของไทยนั้นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้มอบหมายให้กรมสนธิสัญญาและกฎหมายประสานกับกระทรวงมหาดไทยตรวจสอบสัญชาตินายเจ๊ะกูแม กูเต๊ะ ว่าเป็นบุคคลสัญชาติไทยหรือมาเลเซีย เพื่อจะได้ ติดต่อประสานกับทางการมาเลเซียเพื่อดูในเรื่องบทบัญญัติต่างๆ ของสนธิสัญญาฯ ว่าจะสามารถกระทำได้หรือไม่ และจะดำเนินการอย่างไร
3. ในชั้นนี้ขั้นตอนสำคัญที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องของไทยจะต้องกระทำคือการเร่งพิสูจน์ให้ ชัดเจนว่านายเจ๊ะกูแม กูเต๊ะ เป็นบุคคลสัญชาติไทยหรือไม่ เพื่อจะได้ดำเนินการติดต่อประสานกับ ทางการมาเลเซียตามช่องทางและกระบวนการที่กำหนดไว้ ทั้งนี้ กฎหมายภายในของมาเลเซียไม่ รับรองบุคคลสองสัญชาติ ดังนั้น เมื่อมีกรณีบุคคลสองสัญชาติเกี่ยวข้องในการส่งผู้ร้ายข้ามแดน ทางการมาเลเซียก็ต้องดำเนินการถอนสัญชาติมาเลเซียก่อน ซึ่งจะทำให้เหลือเพียงสัญชาติเดียว ซึ่งในกรณีของนายเจ๊ะกูแม กูเต๊ะ ขึ้นอยู่กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของไทยว่ามีข้อมูลชัดเจนว่านาย เจ๊ะกูแม กูเต๊ะ มีสัญชาติไทยหรือไม่
4. หากหลักฐานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของไทยในเรื่องนี้มีความชัดเจน ก็คาดว่าในวันนี้ (1 กุมภาพันธ์) กรมสนธิสัญญาและกฎหมายและกระทรวงมหาดไทยน่าจะสามารถยืนยันความชัดเจนในเรื่องสัญชาติของนายเจ๊ะกูแม กูเต๊ะ ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศจะได้ติดต่อประสานกับทางการ มาเลเซียเพื่อขอให้พิจารณาดำเนินการตามบทบัญญัติของสนธิสัญญาฯ ต่อไป
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5105 โทรสาร. 643-5106-7 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--
-พห-