สุกร
สรุปภาวะการผลิต การตลาดและราคาในประเทศ
ภาวะตลาดสุกรในสัปดาห์นี้ราคาสุกรมีชีวิตที่เกษตรกรขายได้สูงขึ้นเมื่อเทียบกับสัปดาห์ที่ผ่านมา เนื่องจากสุกรที่ออกสู่ตลาดมีปริมาณลดลง ขณะที่ความต้องการบริโภคเนื้อสุกรยังคงมีอย่างต่อเนื่อง แนวโน้มคาดว่าราคาจะสูงขึ้น
ราคาที่เกษตรกรขายได้เฉลี่ยทั้งประเทศ
สุกรมีชีวิตพันธุ์ผสมน้ำหนัก 100 กิโลกรัมขึ้นไป ราคาที่เกษตรกรขายได้เฉลี่ยทั้งประเทศ กิโลกรัมละ 41.25 บาท สูงขึ้นจากกิโลกรัมละ 40.64 บาท ของสัปดาห์ก่อน ร้อยละ 1.50 โดยแยกเป็นรายภาคดังนี้ ภาคเหนือ กิโลกรัมละ 40.56 บาท ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ กิโลกรัมละ 40.76 บาท ภาคกลางกิโลกรัมละ 42.80 บาท และภาคใต้กิโลกรัมละ 39.90 บาท ส่วนราคาลูกสุกรตามประกาศของบริษัท ซี.พี ในสัปดาห์นี้ ตัวละ 1,300 บาท (บวกลบ 44 บาท) ทรงตัวเท่ากับสัปดาห์ก่อน
ราคาขายส่งในตลาดกรุงเทพฯ
ราคาขายส่งสุกรมีชีวิตในตลาดกรุงเทพฯจากกรมการค้าภายใน เฉลี่ยกิโลกรัมละ 45.50 บาท และราคาขายส่งสุกรชำแหละเฉลี่ยกิโลกรัมละ 54.50 บาท ทรงตัวเท่ากับสัปดาห์ก่อน
ไก่เนื้อ
สรุปภาวะการผลิต การตลาดและราคาในประเทศ
ในสัปดาห์นี้ราคาไก่เนื้อมีชีวิตที่เกษตรกรขายได้ลดลงเมื่อเทียบกับสัปดาห์ที่ผ่านมา เนื่องจากมีฝนตกทั่วทุกพื้นที่ทำให้ผู้บริโภคหันไปบริโภคสัตว์น้ำตามธรรมชาติมากขึ้น ส่งผลให้ความต้องการบริโภคไก่เนื้อลดลง แนวโน้มคาดว่าราคาจะลดลง
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รายงานหลังจากการที่คณะผู้บริหารสภาเทศบาลสหรัฐอาหรับ เอมิเรตส์ หรือยูเออี (UAE) ได้เดินทางมาตรวจประเมินระบบรับรองฮาลาลของไทย ทั้งนี้ทางยูเออีได้มีมติรับรองตราฮาลาลของสำนักงานคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทยแล้ว และยังให้การ รับรองโรงเชือดไก่ที่ถูกต้องตามหลักศาสนาอิสลาม (ฮาลาล) จำนวน 24 โรงงาน และโรงงานแปรรูปเนื้อไก่ของไทยอีก 36 โรงงาน โดยยูเออีได้อนุญาตให้ประเทศไทยสามารถส่งออกไก่ต้มสุกฮาลาลไปยังยูเออีได้แล้วตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป การตรวจรับรองของยูเออีนี้ ถือเป็นการตรวจรับรองตามมาตรฐานของประเทศกลุ่มอ่าวอาหรับ (GCC) ประกอบด้วยประเทศสมาชิกในตะวันออกกลางจำนวน 6 ประเทศ ได้ ยูเออี ซาอุดิอาระเบีย การ์ตา คูเวต โอมาน และบาห์เรน ซึ่งมีข้อตกลงร่วมกันว่า หากประเทศใดผ่านการตรวจรับรองจากประเทศสมาชิกใดสมาชิกหนึ่งแล้ว ให้ถือว่าสามารถส่งออกไปยังประเทศสมาชิกอื่นๆ ในกลุ่มได้ ดังนั้น จึงเป็นโอกาสดีของไทยที่สามารถส่งออกไก่ต้มสุกฮาลาลไปยัง 6 ประเทศดังกล่าวได้ ในปี 2550 นี้ คาดว่าประเทศไทยจะสามารถส่งออกเนื้อไก่ และผลิตภัณฑ์ไปยังกลุ่มตะวันออกกลางได้ไม่ต่ำกว่า 10,000 ตัน คิดเป็นมูลค่ากว่า 700 ล้านบาท และปีถัดไปคาดว่า มูลค่าการส่งออกจะเพิ่มสูงขึ้นถึง 3,500 ล้านบาท
ราคาที่เกษตรกรขายได้เฉลี่ยทั้งประเทศ
ราคาไก่เนื้อที่เกษตรกรขายได้เฉลี่ยทั้งประเทศ กิโลกรัมละ 36.03 บาท ลดลงจากกิโลกรัมละ 36.40 บาท ของสัปดาห์ก่อน ร้อยละ 1.02 โดยแยกเป็นรายภาคดังนี้ ภาคเหนือ กิโลกรัมละ 41.00 บาท ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ กิโลกรัมละ 34.84 บาท ภาคกลางกิโลกรัมละ 32.78 บาท และภาคใต้กิโลกรัมละ 37.62 บาท ส่วนราคาลูกไก่เนื้อตามประกาศของบริษัท ซี.พี ตัวละ 14.50 บาท ทรงตัวเท่ากับสัปดาห์ก่อน
ราคาขายส่งในตลาดกรุงเทพฯ
ราคาขายส่งไก่มีชีวิตในตลาดกรุงเทพฯ จากกรมการค้าภายในเฉลี่ยกิโลกรัมละ 36.50 บาท และราคาขายส่งไก่สดกิโลกรัมละ 46.50 บาท ทรงตัวเท่ากับสัปดาห์ก่อน
ไข่ไก่
สรุปภาวะการผลิต การตลาดและราคาในประเทศ
ตลาดไข่ไก่ในสัปดาห์นี้ราคาที่เกษตรกรขายได้ลดลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับสัปดาห์ที่ผ่านมา เนื่องจากผลการดำเนินการแก้ไขปัญหาราคาไข่ไก่ตกต่ำได้ต่ำกว่าเป้าหมาย โดยการปลดแม่ไก่ไข่ที่มีเป้าหมาย 2 ล้านตัว สามารถปลดได้ 1.75 ล้านตัว การผลักดันการส่งออกที่มีเป้าหมาย 40 ล้านฟอง สามารถส่งออกได้ 48 ล้านฟอง แต่ก็ส่งผลให้ปริมาณผลผลิตไข่ไก่ลดลง และเริ่มสมดุลกับความต้องการบริโภค แนวโน้มคาดว่าราคาจะทรงตัว
ราคาที่เกษตรกรขายได้เฉลี่ยทั้งประเทศ
ราคาไข่ไก่ที่เกษตรกรขายได้เฉลี่ยทั้งประเทศ เฉลี่ยร้อยฟองละ 214 บาท ลดลงจากร้อยฟองละ 215 บาท ของสัปดาห์ก่อนร้อยละ 0.47 โดยแยกเป็นรายภาคดังนี้ ภาคเหนือร้อยฟองละ 222 บาท ภาคตะวันออกเฉียงเหนือร้อยฟองละ 217 บาท ภาคกลางร้อยฟองละ 207 บาท และภาคใต้ร้อยฟองละ 228 บาท ส่วนราคาลูกไก่ไข่ตามประกาศของบริษัท ซี.พี.ตัวละ 20.00 บาท ทรงตัวเท่ากับสัปดาห์ก่อน
ราคาขายส่งในตลาดกรุงเทพฯ
ราคาขายส่งในตลาดกรุงเทพฯจากกรมการค้าภายใน (เฉลี่ย เบอร์ 0-4) ร้อยฟองละ 239 บาท ทรงตัวเท่ากับสัปดาห์ก่อน
ไข่เป็ด
ราคาที่เกษตรกรขายได้เฉลี่ยทั้งประเทศ
ราคาไข่เป็ดที่เกษตรกรขายได้เฉลี่ยทั้งประเทศ ร้อยฟองละ 256 บาท สูงขึ้นจากร้อยฟองละ 250 บาท ของสัปดาห์ก่อนร้อยละ 2.40 โดยแยกเป็นรายภาคดังนี้ ภาคเหนือร้อยฟองละ 221 บาท ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ร้อยฟองละ 254 บาท ภาคกลางร้อยฟองละ 271 บาท และภาคใต้ร้อยฟองละ 284 บาท
ราคาขายส่งในตลาดกรุงเทพฯ
ราคาขายส่งในตลาดกรุงเทพฯ จากกรมการค้าภายใน เฉลี่ยร้อยฟองละ 300 บาท ทรงตัวเท่ากับสัปดาห์ก่อน
โค
ราคาที่เกษตรกรขายได้เฉลี่ยทั้งประเทศ
ราคาโค (ขนาดกลาง) ที่เกษตรกรขายได้เฉลี่ยทั้งประเทศ กิโลกรัมละ 47.03 บาท ลดลงจากกิโลกรัมละ 47.78 บาท ของสัปดาห์ก่อนร้อยละ 1.57 โดยแยกเป็นรายภาคดังนี้ ภาคเหนือกิโลกรัมละ 44.38 บาท ภาคตะวันออกเฉียงเหนือกิโลกรัมละ 48.34 บาท ภาคกลางกิโลกรัมละ 44.07 บาท และภาคใต้กิโลกรัมละ 50.75 บาท
กระบือ
ราคาที่เกษตรกรขายได้เฉลี่ยทั้งประเทศ
ราคากระบือ (ขนาดกลาง) ที่เกษตรกรขายได้เฉลี่ยทั้งประเทศ กิโลกรัมละ 34.91 บาท ลดลงจากกิโลกรัมละ 36.57 บาท ของสัปดาห์ก่อน ร้อยละ 4.54 โดยแยกเป็นรายภาคดังนี้ ภาคเหนือกิโลกรัมละ 38.00 บาท ภาคตะวันออกเฉียงเหนือกิโลกรัมละ 32.70 บาท ภาคกลางกิโลกรัมละ 48.42 บาท ส่วนภาคใต้ไม่มีรายงานราคา
--ข่าวการผลิต การตลาด ผลิตผลการเกษตร ประจำวันที่ 6-12 ส.ค. 2550--
-พห-
สรุปภาวะการผลิต การตลาดและราคาในประเทศ
ภาวะตลาดสุกรในสัปดาห์นี้ราคาสุกรมีชีวิตที่เกษตรกรขายได้สูงขึ้นเมื่อเทียบกับสัปดาห์ที่ผ่านมา เนื่องจากสุกรที่ออกสู่ตลาดมีปริมาณลดลง ขณะที่ความต้องการบริโภคเนื้อสุกรยังคงมีอย่างต่อเนื่อง แนวโน้มคาดว่าราคาจะสูงขึ้น
ราคาที่เกษตรกรขายได้เฉลี่ยทั้งประเทศ
สุกรมีชีวิตพันธุ์ผสมน้ำหนัก 100 กิโลกรัมขึ้นไป ราคาที่เกษตรกรขายได้เฉลี่ยทั้งประเทศ กิโลกรัมละ 41.25 บาท สูงขึ้นจากกิโลกรัมละ 40.64 บาท ของสัปดาห์ก่อน ร้อยละ 1.50 โดยแยกเป็นรายภาคดังนี้ ภาคเหนือ กิโลกรัมละ 40.56 บาท ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ กิโลกรัมละ 40.76 บาท ภาคกลางกิโลกรัมละ 42.80 บาท และภาคใต้กิโลกรัมละ 39.90 บาท ส่วนราคาลูกสุกรตามประกาศของบริษัท ซี.พี ในสัปดาห์นี้ ตัวละ 1,300 บาท (บวกลบ 44 บาท) ทรงตัวเท่ากับสัปดาห์ก่อน
ราคาขายส่งในตลาดกรุงเทพฯ
ราคาขายส่งสุกรมีชีวิตในตลาดกรุงเทพฯจากกรมการค้าภายใน เฉลี่ยกิโลกรัมละ 45.50 บาท และราคาขายส่งสุกรชำแหละเฉลี่ยกิโลกรัมละ 54.50 บาท ทรงตัวเท่ากับสัปดาห์ก่อน
ไก่เนื้อ
สรุปภาวะการผลิต การตลาดและราคาในประเทศ
ในสัปดาห์นี้ราคาไก่เนื้อมีชีวิตที่เกษตรกรขายได้ลดลงเมื่อเทียบกับสัปดาห์ที่ผ่านมา เนื่องจากมีฝนตกทั่วทุกพื้นที่ทำให้ผู้บริโภคหันไปบริโภคสัตว์น้ำตามธรรมชาติมากขึ้น ส่งผลให้ความต้องการบริโภคไก่เนื้อลดลง แนวโน้มคาดว่าราคาจะลดลง
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รายงานหลังจากการที่คณะผู้บริหารสภาเทศบาลสหรัฐอาหรับ เอมิเรตส์ หรือยูเออี (UAE) ได้เดินทางมาตรวจประเมินระบบรับรองฮาลาลของไทย ทั้งนี้ทางยูเออีได้มีมติรับรองตราฮาลาลของสำนักงานคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทยแล้ว และยังให้การ รับรองโรงเชือดไก่ที่ถูกต้องตามหลักศาสนาอิสลาม (ฮาลาล) จำนวน 24 โรงงาน และโรงงานแปรรูปเนื้อไก่ของไทยอีก 36 โรงงาน โดยยูเออีได้อนุญาตให้ประเทศไทยสามารถส่งออกไก่ต้มสุกฮาลาลไปยังยูเออีได้แล้วตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป การตรวจรับรองของยูเออีนี้ ถือเป็นการตรวจรับรองตามมาตรฐานของประเทศกลุ่มอ่าวอาหรับ (GCC) ประกอบด้วยประเทศสมาชิกในตะวันออกกลางจำนวน 6 ประเทศ ได้ ยูเออี ซาอุดิอาระเบีย การ์ตา คูเวต โอมาน และบาห์เรน ซึ่งมีข้อตกลงร่วมกันว่า หากประเทศใดผ่านการตรวจรับรองจากประเทศสมาชิกใดสมาชิกหนึ่งแล้ว ให้ถือว่าสามารถส่งออกไปยังประเทศสมาชิกอื่นๆ ในกลุ่มได้ ดังนั้น จึงเป็นโอกาสดีของไทยที่สามารถส่งออกไก่ต้มสุกฮาลาลไปยัง 6 ประเทศดังกล่าวได้ ในปี 2550 นี้ คาดว่าประเทศไทยจะสามารถส่งออกเนื้อไก่ และผลิตภัณฑ์ไปยังกลุ่มตะวันออกกลางได้ไม่ต่ำกว่า 10,000 ตัน คิดเป็นมูลค่ากว่า 700 ล้านบาท และปีถัดไปคาดว่า มูลค่าการส่งออกจะเพิ่มสูงขึ้นถึง 3,500 ล้านบาท
ราคาที่เกษตรกรขายได้เฉลี่ยทั้งประเทศ
ราคาไก่เนื้อที่เกษตรกรขายได้เฉลี่ยทั้งประเทศ กิโลกรัมละ 36.03 บาท ลดลงจากกิโลกรัมละ 36.40 บาท ของสัปดาห์ก่อน ร้อยละ 1.02 โดยแยกเป็นรายภาคดังนี้ ภาคเหนือ กิโลกรัมละ 41.00 บาท ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ กิโลกรัมละ 34.84 บาท ภาคกลางกิโลกรัมละ 32.78 บาท และภาคใต้กิโลกรัมละ 37.62 บาท ส่วนราคาลูกไก่เนื้อตามประกาศของบริษัท ซี.พี ตัวละ 14.50 บาท ทรงตัวเท่ากับสัปดาห์ก่อน
ราคาขายส่งในตลาดกรุงเทพฯ
ราคาขายส่งไก่มีชีวิตในตลาดกรุงเทพฯ จากกรมการค้าภายในเฉลี่ยกิโลกรัมละ 36.50 บาท และราคาขายส่งไก่สดกิโลกรัมละ 46.50 บาท ทรงตัวเท่ากับสัปดาห์ก่อน
ไข่ไก่
สรุปภาวะการผลิต การตลาดและราคาในประเทศ
ตลาดไข่ไก่ในสัปดาห์นี้ราคาที่เกษตรกรขายได้ลดลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับสัปดาห์ที่ผ่านมา เนื่องจากผลการดำเนินการแก้ไขปัญหาราคาไข่ไก่ตกต่ำได้ต่ำกว่าเป้าหมาย โดยการปลดแม่ไก่ไข่ที่มีเป้าหมาย 2 ล้านตัว สามารถปลดได้ 1.75 ล้านตัว การผลักดันการส่งออกที่มีเป้าหมาย 40 ล้านฟอง สามารถส่งออกได้ 48 ล้านฟอง แต่ก็ส่งผลให้ปริมาณผลผลิตไข่ไก่ลดลง และเริ่มสมดุลกับความต้องการบริโภค แนวโน้มคาดว่าราคาจะทรงตัว
ราคาที่เกษตรกรขายได้เฉลี่ยทั้งประเทศ
ราคาไข่ไก่ที่เกษตรกรขายได้เฉลี่ยทั้งประเทศ เฉลี่ยร้อยฟองละ 214 บาท ลดลงจากร้อยฟองละ 215 บาท ของสัปดาห์ก่อนร้อยละ 0.47 โดยแยกเป็นรายภาคดังนี้ ภาคเหนือร้อยฟองละ 222 บาท ภาคตะวันออกเฉียงเหนือร้อยฟองละ 217 บาท ภาคกลางร้อยฟองละ 207 บาท และภาคใต้ร้อยฟองละ 228 บาท ส่วนราคาลูกไก่ไข่ตามประกาศของบริษัท ซี.พี.ตัวละ 20.00 บาท ทรงตัวเท่ากับสัปดาห์ก่อน
ราคาขายส่งในตลาดกรุงเทพฯ
ราคาขายส่งในตลาดกรุงเทพฯจากกรมการค้าภายใน (เฉลี่ย เบอร์ 0-4) ร้อยฟองละ 239 บาท ทรงตัวเท่ากับสัปดาห์ก่อน
ไข่เป็ด
ราคาที่เกษตรกรขายได้เฉลี่ยทั้งประเทศ
ราคาไข่เป็ดที่เกษตรกรขายได้เฉลี่ยทั้งประเทศ ร้อยฟองละ 256 บาท สูงขึ้นจากร้อยฟองละ 250 บาท ของสัปดาห์ก่อนร้อยละ 2.40 โดยแยกเป็นรายภาคดังนี้ ภาคเหนือร้อยฟองละ 221 บาท ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ร้อยฟองละ 254 บาท ภาคกลางร้อยฟองละ 271 บาท และภาคใต้ร้อยฟองละ 284 บาท
ราคาขายส่งในตลาดกรุงเทพฯ
ราคาขายส่งในตลาดกรุงเทพฯ จากกรมการค้าภายใน เฉลี่ยร้อยฟองละ 300 บาท ทรงตัวเท่ากับสัปดาห์ก่อน
โค
ราคาที่เกษตรกรขายได้เฉลี่ยทั้งประเทศ
ราคาโค (ขนาดกลาง) ที่เกษตรกรขายได้เฉลี่ยทั้งประเทศ กิโลกรัมละ 47.03 บาท ลดลงจากกิโลกรัมละ 47.78 บาท ของสัปดาห์ก่อนร้อยละ 1.57 โดยแยกเป็นรายภาคดังนี้ ภาคเหนือกิโลกรัมละ 44.38 บาท ภาคตะวันออกเฉียงเหนือกิโลกรัมละ 48.34 บาท ภาคกลางกิโลกรัมละ 44.07 บาท และภาคใต้กิโลกรัมละ 50.75 บาท
กระบือ
ราคาที่เกษตรกรขายได้เฉลี่ยทั้งประเทศ
ราคากระบือ (ขนาดกลาง) ที่เกษตรกรขายได้เฉลี่ยทั้งประเทศ กิโลกรัมละ 34.91 บาท ลดลงจากกิโลกรัมละ 36.57 บาท ของสัปดาห์ก่อน ร้อยละ 4.54 โดยแยกเป็นรายภาคดังนี้ ภาคเหนือกิโลกรัมละ 38.00 บาท ภาคตะวันออกเฉียงเหนือกิโลกรัมละ 32.70 บาท ภาคกลางกิโลกรัมละ 48.42 บาท ส่วนภาคใต้ไม่มีรายงานราคา
--ข่าวการผลิต การตลาด ผลิตผลการเกษตร ประจำวันที่ 6-12 ส.ค. 2550--
-พห-