นายนริศ ชัยสูตร ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง เปิดเผยว่า กระทรวงการคลัง โดยสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ร่วมกับ ธนาคารโลก ธนาคารพัฒนาเอเชีย สภานักธุรกิจเอเปค และสำนักเลขาธิการเอเปค จะจัดการประชุมเชิงนโยบายภายใต้กรอบการประชุมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเอเปค ในหัวข้อเรื่องบทบาทของภาคเอกชนในการโน้มน้าวให้ประชาชนเปลี่ยนการส่งเงินจากนอกระบบ มาใช้ในระบบ (The Role of Private Sector in Shifting from Informal to Formal Remittance Systems)
นายนริศฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า การประชุมเชิงนโยบายในครั้งนี้ เป็นการประชุมอันเนื่องมาจากมาตรการริเริ่ม APEC Initiative on Remittance Systems ภายใต้กรอบการประชุมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเอเปค ซึ่งมีสหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น สิงคโปร์ เม็กซิโก และไทย เป็นผู้ประสานงานหลัก โดยเมื่อครั้งการจัดประชุมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเอเปคครั้งที่ 10 ในปี 2546 ที่ไทยเป็นเจ้าภาพได้มีการหารือเพื่อให้สมาชิกเอเปคตระหนักถึงความสำคัญของการส่งเงิน ซึ่งหากทำให้ผู้ส่งเงินที่ใช้บริการนอกระบบ (Informal Systems) หันมาใช้ระบบการส่งเงินแบบเป็นทางการมากขึ้น (Formal System) จะช่วยให้มีเงินหมุนเวียนเข้าสู่ระบบเงินตรา และสามารถตรวจสอบแหล่งที่มาของเงินได้ ซึ่งจะช่วยป้องกันอาชญากรรมทางการเงิน (Financial Crime) อาทิ การส่งเงินไปใช้เพื่อการฟอกเงิน (Money Laundering) และสนับสนุนการก่อการร้าย (Financing for Terrorism) เป็นต้น ผลการประชุมในครั้งนี้ จะนำเสนอต่อที่ประชุมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเอเปค ครั้งที่ 12 ณ เมืองเจจู สาธารณรัฐเกาหลี
ระหว่างวันที่ 8-9 กันยายน 2548
สำหรับผู้เข้าร่วมการประชุมเชิงนโยบายในครั้งนี้จะประกอบด้วยผู้แทนจากหน่วยงานกำกับดูแลการส่งเงิน นักวิชาการ ผู้เชี่ยวชาญ และผู้ประกอบการด้านการส่งเงิน ทั้งจากภาคราชการและภาคเอกชน ซึ่งมาจากเขตเศรษฐกิจต่างๆ ทั้งที่เป็นสมาชิกเอเปค และไม่ใช่สมาชิกเอเปค จำนวนประมาณ 150 คน โดยการประชุมจะจัดขึ้น ณ ห้องบอลล์รูม โรงแรมอมารี วอเตอร์เกต กรุงเทพฯ ระหว่างวันที่ 26 — 27 พฤษภาคม 2548 ตั้งแต่เวลา 8.30 น. — 17.30 น. บุคคลภายนอกที่สนใจสามารถติดตามรายละเอียดผลการประชุมได้ที่ http://www.remittance-initiative.org/index.html
--ข่าวสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ฉบับที่ 7/2548 25 พฤษภาคม 2548--
นายนริศฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า การประชุมเชิงนโยบายในครั้งนี้ เป็นการประชุมอันเนื่องมาจากมาตรการริเริ่ม APEC Initiative on Remittance Systems ภายใต้กรอบการประชุมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเอเปค ซึ่งมีสหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น สิงคโปร์ เม็กซิโก และไทย เป็นผู้ประสานงานหลัก โดยเมื่อครั้งการจัดประชุมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเอเปคครั้งที่ 10 ในปี 2546 ที่ไทยเป็นเจ้าภาพได้มีการหารือเพื่อให้สมาชิกเอเปคตระหนักถึงความสำคัญของการส่งเงิน ซึ่งหากทำให้ผู้ส่งเงินที่ใช้บริการนอกระบบ (Informal Systems) หันมาใช้ระบบการส่งเงินแบบเป็นทางการมากขึ้น (Formal System) จะช่วยให้มีเงินหมุนเวียนเข้าสู่ระบบเงินตรา และสามารถตรวจสอบแหล่งที่มาของเงินได้ ซึ่งจะช่วยป้องกันอาชญากรรมทางการเงิน (Financial Crime) อาทิ การส่งเงินไปใช้เพื่อการฟอกเงิน (Money Laundering) และสนับสนุนการก่อการร้าย (Financing for Terrorism) เป็นต้น ผลการประชุมในครั้งนี้ จะนำเสนอต่อที่ประชุมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเอเปค ครั้งที่ 12 ณ เมืองเจจู สาธารณรัฐเกาหลี
ระหว่างวันที่ 8-9 กันยายน 2548
สำหรับผู้เข้าร่วมการประชุมเชิงนโยบายในครั้งนี้จะประกอบด้วยผู้แทนจากหน่วยงานกำกับดูแลการส่งเงิน นักวิชาการ ผู้เชี่ยวชาญ และผู้ประกอบการด้านการส่งเงิน ทั้งจากภาคราชการและภาคเอกชน ซึ่งมาจากเขตเศรษฐกิจต่างๆ ทั้งที่เป็นสมาชิกเอเปค และไม่ใช่สมาชิกเอเปค จำนวนประมาณ 150 คน โดยการประชุมจะจัดขึ้น ณ ห้องบอลล์รูม โรงแรมอมารี วอเตอร์เกต กรุงเทพฯ ระหว่างวันที่ 26 — 27 พฤษภาคม 2548 ตั้งแต่เวลา 8.30 น. — 17.30 น. บุคคลภายนอกที่สนใจสามารถติดตามรายละเอียดผลการประชุมได้ที่ http://www.remittance-initiative.org/index.html
--ข่าวสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ฉบับที่ 7/2548 25 พฤษภาคม 2548--