วันนี้ (12 มิถุนายน 2550) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่า หลังจากที่ กกต. และ คณะรัฐมนตรียกเลิกมติห้ามพรรคการเมืองดำเนินกิจกรรมทางการเมืองแล้ว พรรคฯ มีภาระที่จะต้องดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมายพรรคการเมือง คือมีการประชุมใหญ่ ซึ่งได้กำหนดไว้ในวันที่ 19 กรกฎาคมนี้ โดยจะเชิญอดีต ส.ส. และประธานสาขาพรรคมาร่วมประชุมด้วย เพื่อที่จะปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย รับรองงบการเงิน และเพื่อจะเป็นเวทีสำคัญในการที่จะพูดคุยเรื่องของนโยบายให้เรียบร้อย นอกจากนั้นจะได้เตรียมจัดให้มีกิจกรรมระดมทุน และทำกิจกรรมในเรื่องของการพบปะประชาชนทุกกลุ่ม เพื่อที่จะสร้างความเข้าใจร่วมกันเกี่ยวกับทิศทางของประเทศ อันนี้ก็จะเป็นเรื่องหลัก ๆ
สำหรับในเรื่องการคัดตัวผู้สมัครในการลงเลือกตั้งปลายปีนั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ก็ให้ว่าไปตามปกติ คือพรรคฯ มีกลไกดูแลอยู่แล้ว และก็คงจะต้องรอดูเรื่องของรัฐธรรมนูญ เพราะว่าจนถึงขณะนี้ยังไม่ทราบว่ามีกี่เขต เขตเล็ก เขตใหญ่ อย่างไร เพราะฉะนั้นตอนนี้ก็ยังคงต้องรอดูตรงนั้นอยู่ ถ้าเป็นอดีต ส.ส. ที่ไม่ได้มีปัญหาอะไร โดยหลักก็จะได้รับการพิจารณาก่อนอยู่แล้ว ส่วนที่เป็นอดีตผู้สมัครก็คงจะต้องดูในแง่ของการทำกิจกรรมที่ต่อเนื่องกับพรรค และศักยภาพต่าง ๆ
ส่วนในวันพรุ่งนี้ (20 มิถุนายน) ที่จะมีการประชุม 3 พรรคร่วมนั้น นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า คงจะเป็นเรื่องของการประเมินสถานการณ์ในปัจจุบันมากกว่า และก็คงจะมีการแสดงท่าทีต่อปัญหาที่หลายฝ่ายเผชิญอยู่ คงไม่ใช่เรื่องที่จะไปเกี่ยวข้องกับการทำงานหลังการเลือกตั้ง
นอกจากนี้นายอภิสิทธิ์ยังแสดงความเห็นต่อกรณีที่คตส.อายัดทรัพย์ของพ.ต.ท.ทักษิณ และคุณหญิงพจมาน ชินวัตรว่า เป็นไปตามกระบวนการ ฉะนั้นทางพ.ต.ท.ทักษิณ คุณหญิงพจมาน และผู้ที่เกี่ยวข้อง ก็ควรจะได้ใช้สิทธิ์ตามกฎหมายในเรื่องการอุทธรณ์หรือร้องมาเพื่อชี้แจงโดยว่าไปตามกระบวนการ ส่วนคนอื่น ๆ ตนคิดว่าน่าจะปล่อยให้กระบวนการดำเนินไป
“ผมคิดว่าหลาย ๆ คนที่เกี่ยวข้องกับคุณทักษิณ น่าจะมองบ้านเมืองและตัวระบบเป็นหลัก คือมองทุกอย่างพุ่งให้คุณทักษิณเป็นศูนย์กลางก็จะเข้าใจอยู่อย่างนั้น แต่ว่าเรื่องนี้มันก็ไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่อะไรเลย ก็ทราบอยู่แล้วว่าเป็นเรื่องที่ คตส. สอบสวนอยู่ บางฝ่ายบอกว่าช้าไป บางฝ่ายบอกว่าเร็วไป เขาจะออกมาจังหวะไหนก็คงมีการวิพากษ์วิจารณ์แต่ว่ามันมีช่องทางของการต่อสู้อยู่ซึ่งก็เป็นช่องทางทางกฎหมาย และคุณทักษิณก็มีสิทธิ์เต็มที่ อย่าเอามาเป็นเงื่อนไขที่สร้างอารมณ์ที่เกิดความแตกแยกมากไปกว่านี้” นายอภิสิทธิ์กล่าว
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 12 มิ.ย. 2550--จบ--
สำหรับในเรื่องการคัดตัวผู้สมัครในการลงเลือกตั้งปลายปีนั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ก็ให้ว่าไปตามปกติ คือพรรคฯ มีกลไกดูแลอยู่แล้ว และก็คงจะต้องรอดูเรื่องของรัฐธรรมนูญ เพราะว่าจนถึงขณะนี้ยังไม่ทราบว่ามีกี่เขต เขตเล็ก เขตใหญ่ อย่างไร เพราะฉะนั้นตอนนี้ก็ยังคงต้องรอดูตรงนั้นอยู่ ถ้าเป็นอดีต ส.ส. ที่ไม่ได้มีปัญหาอะไร โดยหลักก็จะได้รับการพิจารณาก่อนอยู่แล้ว ส่วนที่เป็นอดีตผู้สมัครก็คงจะต้องดูในแง่ของการทำกิจกรรมที่ต่อเนื่องกับพรรค และศักยภาพต่าง ๆ
ส่วนในวันพรุ่งนี้ (20 มิถุนายน) ที่จะมีการประชุม 3 พรรคร่วมนั้น นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า คงจะเป็นเรื่องของการประเมินสถานการณ์ในปัจจุบันมากกว่า และก็คงจะมีการแสดงท่าทีต่อปัญหาที่หลายฝ่ายเผชิญอยู่ คงไม่ใช่เรื่องที่จะไปเกี่ยวข้องกับการทำงานหลังการเลือกตั้ง
นอกจากนี้นายอภิสิทธิ์ยังแสดงความเห็นต่อกรณีที่คตส.อายัดทรัพย์ของพ.ต.ท.ทักษิณ และคุณหญิงพจมาน ชินวัตรว่า เป็นไปตามกระบวนการ ฉะนั้นทางพ.ต.ท.ทักษิณ คุณหญิงพจมาน และผู้ที่เกี่ยวข้อง ก็ควรจะได้ใช้สิทธิ์ตามกฎหมายในเรื่องการอุทธรณ์หรือร้องมาเพื่อชี้แจงโดยว่าไปตามกระบวนการ ส่วนคนอื่น ๆ ตนคิดว่าน่าจะปล่อยให้กระบวนการดำเนินไป
“ผมคิดว่าหลาย ๆ คนที่เกี่ยวข้องกับคุณทักษิณ น่าจะมองบ้านเมืองและตัวระบบเป็นหลัก คือมองทุกอย่างพุ่งให้คุณทักษิณเป็นศูนย์กลางก็จะเข้าใจอยู่อย่างนั้น แต่ว่าเรื่องนี้มันก็ไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่อะไรเลย ก็ทราบอยู่แล้วว่าเป็นเรื่องที่ คตส. สอบสวนอยู่ บางฝ่ายบอกว่าช้าไป บางฝ่ายบอกว่าเร็วไป เขาจะออกมาจังหวะไหนก็คงมีการวิพากษ์วิจารณ์แต่ว่ามันมีช่องทางของการต่อสู้อยู่ซึ่งก็เป็นช่องทางทางกฎหมาย และคุณทักษิณก็มีสิทธิ์เต็มที่ อย่าเอามาเป็นเงื่อนไขที่สร้างอารมณ์ที่เกิดความแตกแยกมากไปกว่านี้” นายอภิสิทธิ์กล่าว
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 12 มิ.ย. 2550--จบ--