19 สค. 50 นายนริศ ขำนุรักษ์ อดีต ส.ส.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์รายงานจากพื้นที่จังหวัดพัทลุงว่า หลังจากการลงประชามติ รัฐธรรมนูญปี 2550 ผ่านไปแล้วนั้น ทุกฝ่ายควรสรุปเป็นบทเรียนเพื่อนำไปใช้สำหรับการเดินหน้าทำงานเพื่อบ้านเมืองต่อไป เช่น
1.กกต. ก็ควรสรุปบทเรียนเกี่ยวกับการใช้เงินซื้อเสียง หรือการทุจริตการเลือกตั้ง ว่าควรมีกลไกหรือเครื่องมือใดๆ ในการป้องกันและปราบปรามพฤติกรรมดังกล่าว เพื่อจะได้นำบทเรียนนี้ไปใช้ในการเลือกตั้ง ส.ส. และสว.หรือการจัดการเลือกตั้งอื่นๆ ต่อไป ตลอดจนกลวิธีการรณรงค์เพื่อเพิ่มจำนวนผู้ใช้สิทธิลงคะแนน
2.สนช. ก็ควรเร่งออกกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญหรือกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้ง เพื่อปิดช่องโหว่ของความบกพร่องผิดพลาดทั้งในอดีตและในวันที่ 19 สิงหาคมที่ผ่านมาโดยเร็วที่สุด
3.กลุ่มเคลื่อนไหวต่อต้านไม่รับร่างรัฐธรรมนูญก็ควรยุติความเคลื่อนไหวและยอมรับผลของประชามติ เพื่อให้การเมืองกลับสู่ประชาธิปไตยด้วยการเลือกตั้ง โดยเฉพาะผู้ปล่อยท่อน้ำเลี้ยงก็ควรยุติบทบาทและพฤติกรรมดังกล่าว ปล่อยให้มีการแข่งขันกันในเวทีเลือกตั้งโดยไม่อยู่เบื้องหลังใดๆทั้งสิ้น เพื่อให้ได้สภาฯและรัฐบาลมาจากเจตนารมย์ของประชาชนส่วนใหญ่อย่างแท้จริง
4.คตส. ปปช.และสตง. ควรเข้าไปตรวจสอบการใช้เงินหรือความเคลื่อนไหวทางการเงินของกลุ่มการเมืองที่เข้ามาอยู่เบื้องหลังประชามติในครั้งนี้ และดำเนินการทางกฎหมายอย่างเด็ดขาดต่อไป
5.รัฐบาลและทหารเองก็ควรสรุปบทเรียนได้ว่า การปล่อยให้กลุ่มอำนาจเก่าที่มีทั้งอำนาจและเงินเกิดขึ้นและสามารถเคลื่อนไหวและต่อสู้อย่างมีอิสระ จะเป็นเรื่องที่ลำบากหนักหน่วงที่จะทำลายล้างได้ และจะเป็นผลร้ายต่อบ้านเมืองเป็นอย่างยิ่งในอนาคต
6.ประชาชนควรมีบทเรียนเช่นเดียวกันว่าการสนับสนุนให้กลุ่มการเมืองเกิดขึ้นและหาผลประโยชน์จนร่ำรวยมหาศาล เพียงแค่ตนเองได้รับเศษเงินในวันเลือกตั้งเพียง 200-500 บาท จะทำให้เกิดความวุ่นวายและเสียหายต่อบ้านเมืองตามมา เพราะกลุ่มการเมืองดังกล่าวจะตามมาทวงคืนเงินและอำนาจที่สูญเสียไป สร้างความวุ่นวายไม่รู้จักจบสิ้น
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 19 ส.ค. 2550--จบ--
1.กกต. ก็ควรสรุปบทเรียนเกี่ยวกับการใช้เงินซื้อเสียง หรือการทุจริตการเลือกตั้ง ว่าควรมีกลไกหรือเครื่องมือใดๆ ในการป้องกันและปราบปรามพฤติกรรมดังกล่าว เพื่อจะได้นำบทเรียนนี้ไปใช้ในการเลือกตั้ง ส.ส. และสว.หรือการจัดการเลือกตั้งอื่นๆ ต่อไป ตลอดจนกลวิธีการรณรงค์เพื่อเพิ่มจำนวนผู้ใช้สิทธิลงคะแนน
2.สนช. ก็ควรเร่งออกกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญหรือกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้ง เพื่อปิดช่องโหว่ของความบกพร่องผิดพลาดทั้งในอดีตและในวันที่ 19 สิงหาคมที่ผ่านมาโดยเร็วที่สุด
3.กลุ่มเคลื่อนไหวต่อต้านไม่รับร่างรัฐธรรมนูญก็ควรยุติความเคลื่อนไหวและยอมรับผลของประชามติ เพื่อให้การเมืองกลับสู่ประชาธิปไตยด้วยการเลือกตั้ง โดยเฉพาะผู้ปล่อยท่อน้ำเลี้ยงก็ควรยุติบทบาทและพฤติกรรมดังกล่าว ปล่อยให้มีการแข่งขันกันในเวทีเลือกตั้งโดยไม่อยู่เบื้องหลังใดๆทั้งสิ้น เพื่อให้ได้สภาฯและรัฐบาลมาจากเจตนารมย์ของประชาชนส่วนใหญ่อย่างแท้จริง
4.คตส. ปปช.และสตง. ควรเข้าไปตรวจสอบการใช้เงินหรือความเคลื่อนไหวทางการเงินของกลุ่มการเมืองที่เข้ามาอยู่เบื้องหลังประชามติในครั้งนี้ และดำเนินการทางกฎหมายอย่างเด็ดขาดต่อไป
5.รัฐบาลและทหารเองก็ควรสรุปบทเรียนได้ว่า การปล่อยให้กลุ่มอำนาจเก่าที่มีทั้งอำนาจและเงินเกิดขึ้นและสามารถเคลื่อนไหวและต่อสู้อย่างมีอิสระ จะเป็นเรื่องที่ลำบากหนักหน่วงที่จะทำลายล้างได้ และจะเป็นผลร้ายต่อบ้านเมืองเป็นอย่างยิ่งในอนาคต
6.ประชาชนควรมีบทเรียนเช่นเดียวกันว่าการสนับสนุนให้กลุ่มการเมืองเกิดขึ้นและหาผลประโยชน์จนร่ำรวยมหาศาล เพียงแค่ตนเองได้รับเศษเงินในวันเลือกตั้งเพียง 200-500 บาท จะทำให้เกิดความวุ่นวายและเสียหายต่อบ้านเมืองตามมา เพราะกลุ่มการเมืองดังกล่าวจะตามมาทวงคืนเงินและอำนาจที่สูญเสียไป สร้างความวุ่นวายไม่รู้จักจบสิ้น
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 19 ส.ค. 2550--จบ--