แท็ก
มหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์
มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ
กระทรวงการต่างประเทศ
สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
มหาวิทยาลัยบูรพา
โรงแรมคอนราด
กรุงเทพ--24 เม.ย.--กระทรวงการต่างประเทศ
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศไทย-สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) ลงนามความตกลงความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ การค้า และวิชาการ เพื่อจัดตั้งคณะกรรมาธิการร่วมไทย-ยูเออี ซึ่งจะเป็นกลไกสำคัญในการส่งเสริมความร่วมมือระหว่างสองประเทศในด้านต่างๆ ให้ใกล้ชิดกันยิ่งขึ้น
เมื่อวันที่ 22 เมษายน 2550 นายนิตย์ พิบูลสงคราม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งอยู่ระหว่างการเดินทางเยือนสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) อย่างเป็นทางการในฐานะแขกของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้เข้าเฝ้า H.H. General Sheikh Mohammed bin Zayed Al Nahyan มกุฎราชกุมารแห่งรัฐอาบูดาบี และเยี่ยมคารวะ H.H. Sheikh Abdullah bin Zayed Al Nahyan รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศยูเออี
โอกาสนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศไทยและยูเออีได้ลงนามความตกลงว่าด้วยความร่วมมือทางเศรษฐกิจ การค้า และวิชาการ เพื่อจัดตั้งคณะกรรมาธิการร่วม (JC) ซึ่งจะเป็นกลไกสำคัญในการส่งเสริมความร่วมมือระหว่างสองประเทศในด้านต่างๆ ให้ใกล้ชิดกันยิ่งขึ้น
สำหรับประเด็นสำคัญของการหารือฯ ยูเออีแสดงความสนใจที่จะเพิ่มการลงทุนในประเทศไทย ซึ่งเป็นประเทศที่มีพัฒนาการทางเศรษฐกิจที่รวดเร็ว และทั้งสองประเทศมีการจัดทำความตกลงยกเว้นการเก็บภาษีซ้อนระหว่างกันแล้ว นอกจากนี้ ยูเออีประสงค์ที่จ้างแรงงานไทยทำงานเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก เนื่องจากเห็นว่าแรงงานไทยเป็นแรงงานที่ดีที่สุด มีความขยัน มีวินัย และฝีมือปราณีต โดยขอให้มีการเร่งรัดการจัดทำบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือในสาขาแรงงาน (MOU on the Cooperation in the Field of Manpower) ระหว่างกระทรวงแรงงานของสองประเทศ ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศรับที่จะนำเรื่องนี้ไปหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของไทยต่อไป
ในด้านการท่องเที่ยว มีชาวยูเออีเดินทางเยือนไทยปีละประมาณ 80,000 คน ในจำนวนนี้ 45,000 คนเดินทางมารับการรักษาพยาบาลทางการแพทย์ในไทย โดยนอกจากปัจจัยสำคัญเรื่องคุณภาพการรักษาพยาบาลของไทยแล้ว ชาวยูเออียังประทับใจในอัธยาศัยและความโอบอ้อมอารี (hospitality) ของคนไทยด้วย
โอกาสนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศไทยได้เล่าถึงพัฒนาการทางการเมืองไทย ซึ่งรัฐบาลกำลังดำเนินการต่างๆ ตามขั้นตอนและกรอบเวลาในการร่างรัฐธรรมนูญและจัดการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตย ซึ่งฝ่ายยูเออีได้ให้กำลังใจและขอให้การดำเนินการของรัฐบาลไทยประสบความสำเร็จด้วยดี
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศยังได้อธิบายข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งรัฐบาลไทยมีความมุ่งมั่นในการเสริมสร้างความยุติธรรมและขยายโอกาสด้านการศึกษา การจ้างงาน และเสริมสร้างศักยภาพด้านการประกอบการแก่เยาวชนในพื้นที่ ซึ่งทางยูเออีเข้าใจปัญหาที่เกิดขึ้นและสนับสนุนแนวทางของรัฐบาลไทย โดยขอให้นึกเสมอว่ายูเออีเป็นเพื่อน หากมีสิ่งใดที่รัฐบาลไทยต้องการ ยูเออีพร้อมที่จะให้การสนับสนุนทุกด้าน ทั้งนี้ ปัจจุบันยูเออีได้ให้ทุนการศึกษาแก่นักศึกษาไทยจำนวนหนึ่งให้มาเรียนที่ยูเออี และพร้อมที่จะขยายความร่วมมือระหว่างกันในด้านนี้ต่อไป ยูเออีไม่เห็นด้วยกับผู้ที่ใช้ความรุนแรง เนื่องจากไม่ใช่สิ่งที่ศาสนาสั่งสอนดังนั้น จึงต้องช่วยกันควบคุมและดูให้ดีว่าการตีความคำสอนทางศาสนาต้องใช้ดุลพินิจที่ถูกต้อง ยูเออีสนับสนุนการสอนศาสนาในแนวทางสายกลาง สนับสนุนการประกอบอาชีพสามัญควบคู่กันไป และพร้อมที่จะให้การสนับสนุนไทยในด้านนี้
ในช่วงบ่าย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้พบปะกับนักเรียน/นักศึกษาไทยในยูเออี และขอให้นักเรียน/นักศึกษาเหล่านี้ตระหนักและใช้โอกาสในการแสวงหาประโยชน์ด้านอาชีพการงานต่อตนเอง ครอบครัว และชุมชน
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5170 โทรสาร. 643-5169 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--
-พห-
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศไทย-สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) ลงนามความตกลงความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ การค้า และวิชาการ เพื่อจัดตั้งคณะกรรมาธิการร่วมไทย-ยูเออี ซึ่งจะเป็นกลไกสำคัญในการส่งเสริมความร่วมมือระหว่างสองประเทศในด้านต่างๆ ให้ใกล้ชิดกันยิ่งขึ้น
เมื่อวันที่ 22 เมษายน 2550 นายนิตย์ พิบูลสงคราม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งอยู่ระหว่างการเดินทางเยือนสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) อย่างเป็นทางการในฐานะแขกของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้เข้าเฝ้า H.H. General Sheikh Mohammed bin Zayed Al Nahyan มกุฎราชกุมารแห่งรัฐอาบูดาบี และเยี่ยมคารวะ H.H. Sheikh Abdullah bin Zayed Al Nahyan รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศยูเออี
โอกาสนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศไทยและยูเออีได้ลงนามความตกลงว่าด้วยความร่วมมือทางเศรษฐกิจ การค้า และวิชาการ เพื่อจัดตั้งคณะกรรมาธิการร่วม (JC) ซึ่งจะเป็นกลไกสำคัญในการส่งเสริมความร่วมมือระหว่างสองประเทศในด้านต่างๆ ให้ใกล้ชิดกันยิ่งขึ้น
สำหรับประเด็นสำคัญของการหารือฯ ยูเออีแสดงความสนใจที่จะเพิ่มการลงทุนในประเทศไทย ซึ่งเป็นประเทศที่มีพัฒนาการทางเศรษฐกิจที่รวดเร็ว และทั้งสองประเทศมีการจัดทำความตกลงยกเว้นการเก็บภาษีซ้อนระหว่างกันแล้ว นอกจากนี้ ยูเออีประสงค์ที่จ้างแรงงานไทยทำงานเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก เนื่องจากเห็นว่าแรงงานไทยเป็นแรงงานที่ดีที่สุด มีความขยัน มีวินัย และฝีมือปราณีต โดยขอให้มีการเร่งรัดการจัดทำบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือในสาขาแรงงาน (MOU on the Cooperation in the Field of Manpower) ระหว่างกระทรวงแรงงานของสองประเทศ ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศรับที่จะนำเรื่องนี้ไปหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของไทยต่อไป
ในด้านการท่องเที่ยว มีชาวยูเออีเดินทางเยือนไทยปีละประมาณ 80,000 คน ในจำนวนนี้ 45,000 คนเดินทางมารับการรักษาพยาบาลทางการแพทย์ในไทย โดยนอกจากปัจจัยสำคัญเรื่องคุณภาพการรักษาพยาบาลของไทยแล้ว ชาวยูเออียังประทับใจในอัธยาศัยและความโอบอ้อมอารี (hospitality) ของคนไทยด้วย
โอกาสนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศไทยได้เล่าถึงพัฒนาการทางการเมืองไทย ซึ่งรัฐบาลกำลังดำเนินการต่างๆ ตามขั้นตอนและกรอบเวลาในการร่างรัฐธรรมนูญและจัดการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตย ซึ่งฝ่ายยูเออีได้ให้กำลังใจและขอให้การดำเนินการของรัฐบาลไทยประสบความสำเร็จด้วยดี
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศยังได้อธิบายข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งรัฐบาลไทยมีความมุ่งมั่นในการเสริมสร้างความยุติธรรมและขยายโอกาสด้านการศึกษา การจ้างงาน และเสริมสร้างศักยภาพด้านการประกอบการแก่เยาวชนในพื้นที่ ซึ่งทางยูเออีเข้าใจปัญหาที่เกิดขึ้นและสนับสนุนแนวทางของรัฐบาลไทย โดยขอให้นึกเสมอว่ายูเออีเป็นเพื่อน หากมีสิ่งใดที่รัฐบาลไทยต้องการ ยูเออีพร้อมที่จะให้การสนับสนุนทุกด้าน ทั้งนี้ ปัจจุบันยูเออีได้ให้ทุนการศึกษาแก่นักศึกษาไทยจำนวนหนึ่งให้มาเรียนที่ยูเออี และพร้อมที่จะขยายความร่วมมือระหว่างกันในด้านนี้ต่อไป ยูเออีไม่เห็นด้วยกับผู้ที่ใช้ความรุนแรง เนื่องจากไม่ใช่สิ่งที่ศาสนาสั่งสอนดังนั้น จึงต้องช่วยกันควบคุมและดูให้ดีว่าการตีความคำสอนทางศาสนาต้องใช้ดุลพินิจที่ถูกต้อง ยูเออีสนับสนุนการสอนศาสนาในแนวทางสายกลาง สนับสนุนการประกอบอาชีพสามัญควบคู่กันไป และพร้อมที่จะให้การสนับสนุนไทยในด้านนี้
ในช่วงบ่าย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้พบปะกับนักเรียน/นักศึกษาไทยในยูเออี และขอให้นักเรียน/นักศึกษาเหล่านี้ตระหนักและใช้โอกาสในการแสวงหาประโยชน์ด้านอาชีพการงานต่อตนเอง ครอบครัว และชุมชน
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5170 โทรสาร. 643-5169 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--
-พห-