ทุนนอกจี้รัฐปลุกเศรษฐกิจตื่น ดึงไทยค้าขาย-ลงทุนในอินเดีย

          นายปราโมด  นารายณ์  ดูเบย์ รองประธานการตลาดบริษัท อินโดรามา โพลีเมอร์ส จำกัด(มหาชน)หรือ IRP เปิดเผยว่า รัฐบาลจำเป็นต้องเร่งกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยเฉพาะในภาวะที่เผชิญแรงกดดันจากค่าเงินบาทแข็งค่าทำให้มีมูลค่าจากการส่งออกลดลง ซึ่งสถานการณ์แบบนี้มาตรการที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจได้ทางหนึ่งคือ ภาคเอกชนไทยควรจะออกไปขายสินค้า หรือไปลงทุนในต่างประเทศมากขึ้นโดยเฉพาะในประเทศอินเดีย ซึ่งรัฐบาลมีข้อตกลงเปิดเขตการค้าเสรี (เอฟทีเอ) ระหว่างไทยกับอินเดียในสินค้า 82 รายการ และภายใน 1-2 ปี นับจากนี้ไปจะเปิดอีก 500 รายการ
          ส่วนการออกไปลงทุนในอินเดีย ขณะนี้มี 6 กุล่มอุตสาหกรรมเด่นที่น่าลงทุนมาก คือ   
          1. ธุรกิจศูนย์การค้า เช่นห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล เดอะมอลล์ เป็นธุรกิจที่คนอินเดียสนใจมาก ล่าสุด วอล-มาร์ต (Wal-mart) ของสหรัฐฯเข้าไปลงทุนแล้ว
          2. ธุรกิจร้านอาหารและอุตสาหกรรมอาหาร โดยคนอินเดียนิยมรับประทานอาหารไทย
          3. ธุรกิจอะไหล่ยานยนต์ ขณะนี้มีผู้ประกอบการจากกลุ่มไทยซัมมิท ประสบความสำเร็จโดยมีโรงงานผลิตแล้วประมาณ 6 แห่งซึ่งทุนไทยกลุ่มนี้สามารถขยายโรงงานได้อีก 40-50 แห่ง 
          4. ธุรกิจก่อสร้างและวัสดุ ขณะนี้มีเพียงกลุ่มอิตัลไทยเข้าไปรับเหมาก่อสร้าง ซึ่งยังมีการเข้าไปลงทุนในอุตสาหกรรมนี้น้อยมาก
          5. ธุรกิจโรงแรม ขณะนี้ค่ายโรงแรมดุสิตได้เข้าไปลงทุนแล้ว
          6. ธุรกิจสปา มีแนวโน้มจะเป็นธุรกิจที่ใหญ่มาก ในอนาคตหากผู้ประกอบการไทยเข้าไปลงทุนในช่วงนี้น่าจะเป็นธุรกิจที่ทำเงินได้ต่อปีเป็นมูลค่าไม่ต่ำกว่าหมื่นล้านบาทเป็นต้นไป
          ปัจจุบันบริษัทเอกชนในอินเดียจดทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์อินเดียกว่า 9,000 บริษัท ใน 23 ตลาดหลักทรัพย์ มีมูลค่าในตลาดสูงถึง 200,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ มีประชากร 1,100 คน ในจำนวนนี้มีประชากรที่มีอายุไม่ถึง 30 ปี เป็นสัดส่วน 40% จากองค์ประกอบเหล่านี้ชี้ให้เห็นว่าอินเดียมีเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ โดยมีการเติบโตของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) 7-8% ต่อปี
          สอดคล้องกับนายสาธิต  ชาญเชาน์กุล เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) กล่าวว่าได้พิจารณาอนุมัตินโยบายส่งเสริมการลงทุนไทยในต่างประเทศ เพื่อเชื่อมโยงและเสริมสร้างความเข้มแข็งแก่อุตสาหกรรมไทย และช่วยให้เกิดการแสวงหาแหล่งวัตถุดิบใหม่ ๆ เช่น เกษตร เหมืองแร่ ประมง อัญมณีและพลังงาน ช่วยสร้างโอกาสในการขยายตลาดสินค้า เช่น ชิ้นส่วนยานยนต์ อาหารสัตว์ สินค้าเกษตรและแปรรูป โดยกำหนดประเทศเป้าหมายได้แก่  อินเดีย กัมพูชา จีน พม่า เวียดนาม อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ และขยายไปยังบังกลาเทศ ปากีสถาน กลุ่มประเทศตะวันออกกลางและแอฟริกา
                              สถิติการลงทุนไทยในต่างประเทศ
ประเทศ       จำนวนโครงการ       เงินลงทุน         ช่วงเวลา       ลำดับที่ของไทย
                            (ล้านเหรียญสหรัฐ)                   ในแต่ละประเทศ 
จีน              3,792            2,968         ณ สิ้นปี 2549          18
ลาว               330            2,407         2531 — 2548          1
เวียตนาม           132            1,469        ณ 20 มิ.ย.2549        11
พม่า                56            1,346         2531 — 2549          3
กัมพูชา              57              135         2537 — 2547          9
อินเดีย              na               78         2534 — 2549         26
ที่มา: หน่วยงานส่งเสริมการลงทุนของประเทศต่าง ๆ 
          ที่มา: http://www.depthai.go.th