แท็ก
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
กระทรวงการต่างประเทศ
พรรคประชาธิปัตย์
ทักษิณ ชินวัตร
นายกรัฐมนตรี
สิงคโปร์
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่กระทรวงการต่างประเทศมีมาตรการตอบโต้รัฐบาลสิงคโปร์ หลังจากที่รองนายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เข้าพบ ว่า รัฐบาลต้องชี้แจงว่าการตัดสินใจที่จะใช้มาตรการต่างๆ ยืนอยู่บนพื้นฐานของข้อเท็จจริงและหลักการอะไร เพราะก่อนหน้านี้มีการพบปะกันระหว่างผู้นำไทยและสิงคโปร์ และพูดถึงการทำความเข้าใจถึงแนวทางความร่วมมือกันระหว่างสองประเทศมาก่อน การไปของอดีตนายกรัฐมนตรี ตนไม่เชื่อว่าเป็นเรื่องส่วนตัว แต่เชื่อว่าเป็นการพูดกันเรื่องธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ของประเทศไทยโดยตรง อย่างไรก็ตาม เมื่อไทยแสดงจุดยืนแล้ว ต่อไปก็อยู่ในขั้นของการปรับความเข้าใจกัน ทั้งนี้ นายอภิสิทธิ์ เห็นว่าไทยและสิงคโปร์เป็นมิตรประเทศในอาเซียน และขณะนี้อยู่ในภาวะที่เราต้องการเห็นความเป็นปึกแผ่นของอาเซียน ดังนั้น การจะทำอะไรน่าจะคำนึงถึงความรู้สึกของกันและกัน และน่าจะมีวิจารณญาณ โดยเฉพาะปัญหาของสิงคโปร์ตั้งแต่ปีที่ผ่านมา ตนก็ได้พยายามชี้ถึงปัญหาที่เกิดขึ้นกับกรณีของการซื้อขายหุ้น เพราะฉะนั้นไทยก็จำเป็นที่จะต้องส่งสัญญาณให้ชัดเหมือนกันว่าเรื่องเหล่านี้จำเป็นต้องมีคำตอบและมีความรับผิดชอบจากทางฝ่ายสิงคโปร์ด้วย
นอกจากนี้ นายอภิสิทธิ์ กล่าวด้วยว่า ที่ พ.ต.ท.ทักษิณ พูดว่าพอ คือพอ และเรียกร้องให้หยุดสร้างปัญหาให้กับประเทศ ซึ่งวันนี้สร้างปัญหาไปถึงระดับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศแล้ว ถ้าจริงใจที่จะให้ทุกสิ่งทุกอย่างเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ก็ควรที่จะหยุดเคลื่อนไหวในลักษณะที่สร้างปัญหาให้กับประเทศ
อย่างไรก็ตาม ทางฝ่ายสิงคโปร์ก็คงมีความกังวลในเรื่องผลกระทบที่เกิดขึ้นกับธุรกิจของสิงคโปร์ เพราะบริษัทที่ซื้อขายหุ้นในเครือชิน คอร์ปอเรชั่น จำกัด เป็นบริษัทของรัฐบาลสิงคโปร์ จึงเกิดความรับผิดชอบต่างๆ ที่เกิดขึ้น แต่หนทางที่ดีคือสิงคโปร์ควรต้องมาพูดคุยกับรัฐบาลไทย ว่าจะคลี่คลายปัญหาที่เกิดขึ้น หรือแก้สิ่งที่ผิดให้ถูกได้อย่างไร หรือจะทำอย่างไรให้สามารถเดินต่อไปได้ แต่การเกิดการเคลื่อนไหวในลักษณะนี้ย่อมทำให้เกิดความกระทบกระทั่งด้านความสัมพันธ์กัน
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 17 ม.ค. 2550--จบ--
นอกจากนี้ นายอภิสิทธิ์ กล่าวด้วยว่า ที่ พ.ต.ท.ทักษิณ พูดว่าพอ คือพอ และเรียกร้องให้หยุดสร้างปัญหาให้กับประเทศ ซึ่งวันนี้สร้างปัญหาไปถึงระดับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศแล้ว ถ้าจริงใจที่จะให้ทุกสิ่งทุกอย่างเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ก็ควรที่จะหยุดเคลื่อนไหวในลักษณะที่สร้างปัญหาให้กับประเทศ
อย่างไรก็ตาม ทางฝ่ายสิงคโปร์ก็คงมีความกังวลในเรื่องผลกระทบที่เกิดขึ้นกับธุรกิจของสิงคโปร์ เพราะบริษัทที่ซื้อขายหุ้นในเครือชิน คอร์ปอเรชั่น จำกัด เป็นบริษัทของรัฐบาลสิงคโปร์ จึงเกิดความรับผิดชอบต่างๆ ที่เกิดขึ้น แต่หนทางที่ดีคือสิงคโปร์ควรต้องมาพูดคุยกับรัฐบาลไทย ว่าจะคลี่คลายปัญหาที่เกิดขึ้น หรือแก้สิ่งที่ผิดให้ถูกได้อย่างไร หรือจะทำอย่างไรให้สามารถเดินต่อไปได้ แต่การเกิดการเคลื่อนไหวในลักษณะนี้ย่อมทำให้เกิดความกระทบกระทั่งด้านความสัมพันธ์กัน
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 17 ม.ค. 2550--จบ--