คาดสหรัฐเสียแชมป์ศก.ใน10ปี

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday July 18, 2007 11:34 —กรมส่งเสริมการส่งออก

          สำนักข่าวเอพีรายงานวานนี้ (17 ก.ค.) เผยผลสำรวจของชโรเดอร์ส บริษัทจัดการด้านการลงทุนของอังกฤษว่า นักลงทุนชาวอเมริกันส่วนใหญ่เชื่อว่าสหรัฐจะสูญเสียตำแหน่งผู้นำทางเศรษฐกิจของโลกใน 10 ปีข้างหน้า แต่คนส่วนใหญ่ก็ยังไม่หันไปลงทุนในต่างแดน  ผลสำรวจดังกล่าวซึ่งได้จากการสอบถามนักลงทุน1,030 คน พบว่า 38% เชื่อว่าสหรัฐจะยังเป็นผู้นำเศรษฐกิจโลกใน 10 ปีข้างหน้า ขณะที่ 45% มองว่าจีนจะไต่อันดับไปครองตำแหน่งผู้นำได้ และมีไม่ถึง 5% ที่เชื่อว่าอินเดีย รัสเซีย หรือเยอรมนี จะกลายเป็นผู้นำเศรษฐกิจโลก
อย่างไรก็ดี มีนักลงทุนสหรัฐเพียง 13% ที่เข้าซื้อหุ้นต่างประเทศ และ 32% ของจำนวนนักลงทุนที่ลงทุนในกองทุนรวม มีพอร์ตการลงทุนในต่างแดน โดยการเติบโตอย่างต่อเนื่องของตลาดหุ้นต่างชาติ โดยเฉพาะในจีนและอินเดีย อาจช่วยกระตุ้นนักลงทุนให้หันไปลงทุนต่างแดนมากขึ้น โดยผลสำรวจพบว่านักลงทุนสหรัฐ 19% มีแผนจะลงทุนในตลาดหุ้นต่างชาติช่วง 5 ปีข้างหน้า
ด้านหนังสือพิมพ์วอลล์สตรีท เจอร์นัล เอเชีย รายงานว่า รัฐบาลจีนจะแถลงคาดการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจ ในวันพรุ่งนี้ (19 ก.ค.) และคาดว่าผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) มีแนวโน้มแซงหน้าเยอรมนีขึ้นเป็นประเทศที่มีเศรษฐกิจขนาดใหญ่อันดับ 3 ของโลก รองจากสหรัฐและญี่ปุ่นในปีนี้ นับว่าเร็วกว่าที่คาดไว้ และเป็นสัญญาณตอกย้ำว่าดุลอำนาจทางเศรษฐกิจกำลังเปลี่ยนขั้วมายังเอเชีย
ข้อมูลจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ระบุว่าจีดีพีจีนเมื่อปีที่แล้วอยู่ที่ 2.8 ล้านล้านดอลลาร์ เตรียมแซงหน้าจีดีพีของเยอรมนีซึ่งอยู่ที่ 2.9 ล้านล้านดอลลาร์ ส่วนสหรัฐมีจีดีพี 13.2 ล้านล้านดอลลาร์ และญี่ปุ่นมีจีดีพี 4.4 ล้านล้านดอลลาร์
คาดกันว่าเศรษฐกิจจะเติบโตที่ 11% ซึ่งนักเศรษฐศาสตร์มองว่าน่าจะเป็นอัตราการเติบโตตลอดทั้งปี และหากจีนยังสามารถรักษาแนวโน้มการเติบโตของจีดีพีในระดับปัจจุบัน ก็อาจแซงหน้าญี่ปุ่นขึ้นเป็นอันดับ 2 ได้ภายใน 1 ทศวรรษ
ที่มา: http://www.depthai.go.th

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ