ข่าวเศรษฐกิจในประเทศ
1. ธปท.เตรียมนำปัญหาซับไพร์มของ สรอ.เข้าสู่การพิจารณาของ กนง. นางสุชาดา กิระกุล ผู้ช่วยผู้ว่าการเปิดเผยว่า
การประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ในวันที่ 29 ส.ค.นี้ จะนำปัญหาสินเชื่ออสังหาริมทรัพย์ด้อยคุณภาพ (ซับไพร์ม) ของ สรอ.
เข้าพิจารณาในที่ประชุมด้วย ซึ่ง ธปท.ได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด แต่ยังประเมินผลกระทบที่ชัดเจนไม่ได้ ต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่ง
เพราะภาวะตลาดยังมีความผัวผวน โดย ธปท.จะดูผลต่อภาพรวมของเศรษฐกิจโลก แต่เท่าที่เห็นเป็นเรื่องสภาพคล่องในระบบการเงินมากกว่า
ทั้งนี้ ในการปรับประมาณการการขยายตัวทางเศรษฐกิจของไทยครั้งล่าสุด กนง.ได้ปรับสมมติฐานไปแล้วว่าเศรษฐกิจ สรอ.จะชะลอตัวลง
เนื่องจากในช่วงครึ่งปีแรกการส่งออกของไทยไป สรอ.ขยายตัวเพียง 0.2% เท่านั้น สำหรับในช่วงครึ่งหลังของปี ธปท.คาดการณ์ไว้แล้วว่า
เศรษฐกิจ สรอ.และเศรษฐกิจโลกจะชะลอตัวลง (โลกวันนี้, มติชน)
2. คณะกรรมการนโยบายสถาบันการเงินมีความเป็นห่วงเอ็นพีแอลที่เพิ่มขึ้นในช่วงไตรมาสที่ 2 ของปีนี้ นายไพบูลย์ กิตติศรีกังวาน
ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายกลยุทธ์สถาบันการเงิน ในฐานะโฆษกคณะกรรมการนโยบายสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า
ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายสถาบันการเงิน ได้มีความเป็นห่วงพิเศษในส่วนของหนี้ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) ของระบบสถาบันการเงิน
เนื่องจากตั้งแต่ต้นปี 46-49 ยอดเอ็นพีแอลลดลง อย่างต่อเนื่อง แต่หลังจากไตรมาส 2 ของปีนี้ กลับเพิ่มขึ้นจากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลง
จึงมีความกังวลว่าในช่วงครึ่งหลังของปี ยอดเอ็นพีแอลจะเพิ่มขึ้นต่อไป อย่างไรก็ตาม หากปัจจัยความไม่แน่นอนต่างๆ เริ่มคลี่คลายในทิศทางที่ดี
ประกอบกับการที่ภาครัฐมีการเบิกจ่ายเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจและความเชื่อมั่นของนักลงทุนกลับมาได้ จึงอาจลดแรงกดดัน
ให้เอ็นพีแอลเพิ่มขึ้นไม่มาก โดยในส่วนของ ธปท.ก็จะมีการจับตาดูแลสถาบันการเงินในระบบอย่างใกล้ชิดด้วย (ผู้จัดการรายวัน 18-19)
3. ช่วง 7 เดือนแรกปี 50 คำขอรับส่งเสริมการลงทุนเพิ่มขึ้น 17.2% เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ)
เปิดเผยว่า ในช่วง 7 เดือนแรกของปี 2550 (ม.ค.-ก.ค.) มียอดคำขอรับส่งเสริมการลงทุนทั้งสิ้น 756 โครงการ มูลค่าลงทุนรวม
272,516.1 ล.บาท โดยในจำนวนดังกล่าว เป็นการขอรับส่งเสริมการลงทุนจากต่างชาติ 467 โครงการ รวมมูลค่าเงินทุนทั้งสิ้น 176,923 ล.บาท
เพิ่มขึ้นประมาณ 17.2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีที่ผ่านมา ซึ่งมีมูลค่าเงินทุน 150,989 ล.บาท สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นจากนักลงทุน
ต่างประเทศ สำหรับประเทศที่เข้ามาลงทุนมากที่สุด ยังคงเป็นโครงการลงทุนจากญี่ปุ่น โดยมีโครงการที่ยื่นขอรับส่งเสริมจำนวน 187 โครงการ
มูลค่าเงินลงทุน 69,371 ล.บาท สูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน 13.5% โดยส่วนใหญ่เป็นอุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วน และอิเล็กทรอนิกส์
(ผู้จัดการรายวัน)
4. ยอดขายรถยนต์ในประเทศลดลงต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ โฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรม
แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ยอดขายรถยนต์ในประเทศลดลงต่อเนื่องมาเป็นปีที่ 2 เป็นผลจากผู้บริโภคชะลอการซื้อและความไม่ชัดเจนทาง
การเมือง โดยเฉพาะการเลือกตั้ง โดยในปี 50 นี้คาดว่าจะมียอดขาย 6.3-6.4 แสนคัน เทียบกับปีที่ผ่านมาอยู่ที่ 6.8 แสนคัน (ไทยโพสต์)
5. ผลการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ในช่วง 6 เดือนแรกปี 50 ลดลง 17% นางภัทรียา เบญจพลชัย
กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผย ผลการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียนประจำงวด 6 เดือนสิ้นสุดวันที่ 30 มิ.ย.50
ว่า บริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ จำนวน 469 บริษัทที่นำส่งงบการเงิน จากบริษัทจดทะเบียนทั้งหมด 492 บริษัทรวมกองทุนอสังหาริมทรัพย์
มีกำไรสุทธิรวม 229,403 ล.บาท ลดลงจากงวดเดียวกันของปีก่อน 47,674 ล.บาท หรือลดลง 17% โดยมีบริษัทที่มีกำไรสุทธิ 367 บริษัทและ
ขาดทุนสุทธิ 102 บริษัท คิดเป็นสัดส่วน 78 ต่อ 22 ในขณะที่ผลการดำเนินงานโดยรวมในงวดไตรมาส 2 ปี 50 มีกำไรสุทธิ 114,578 ล.บาท
ลดลง 10% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน สำหรับสาเหตุที่ผลการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียนลดลง มาจากต้นทุนขายเพิ่มขึ้น ประกอบกับ
กำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนลดลง ซึ่งเป็นผลมาจากเงินบาทแข็งค่าขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งกลุ่ม ธพ.มีการตั้งสำรองค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญเพิ่มตาม
เกณฑ์ใหม่ของ ธปท. เพื่อให้สอดคล้องกับมาตรฐานการบัญชีระหว่างประเทศ หรือ IAS39 (กรุงเทพธุรกิจ 18, ผู้จัดการรายวัน 18-19)
6. ปตท.ยังไม่ปรับเปลี่ยนราคาน้ำมันขายปลีกในประเทศในช่วงสัปดาห์นี้ นายวิทยา หวังจิตรารักษ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่
การตลาดขายปลีก กลุ่มธุรกิจน้ำมัน บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในสัปดาห์นี้ ปตท.จะยังไม่ปรับเปลี่ยนราคาน้ำมันขายปลีกในประเทศ
เนื่องจากกำลังติดตามทิศทางราคาน้ำมันตลาดโลก ที่มีข่าวพายุจะพัดเข้าอ่าวเม็กซิโก ซึ่งหากพายุดังกล่าวสร้างผลกระทบในแหล่งน้ำมันบริเวณ
ดังกล่าว จะทำให้ราคาน้ำมันตลาดโลกปรับตัวขึ้น ดังนั้น ปตท.จะขอติดตามราคาตลาดโลกสัปดาห์หน้าก่อนว่าจะเป็นอย่างไร (ข่าวสด 18)
ข่าวเศรษฐกิจต่างประเทศ
1. ธ.กลาง สรอ. ปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินให้กู้ยืมแก่ ธพ. เพื่อช่วยผ่อนคลายวิกฤติสินเชื่อในขณะนี้ รายงานจากวอชิงตัน เมื่อ
วันที่ 17 ส.ค. 50 วิกฤติสินเชื่ออสังหาริมทรัพย์ของ สรอ. ในขณะนี้ส่งผลให้ ธ.กลาง สรอ. ต้องปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ยืมที่ให้แก่ ธพ.
(Discount rate) ลงร้อยละ 0.50 อยู่ที่ร้อยละ 5.75 ลดลงจากร้อยละ 6.25 เพื่อลดต้นทุนทางการเงินให้แก่ ธพ. ทั้งนี้ตลาดสินเชื่อ สรอ.
ได้รับผลกระทบจากหนี้เสียจากภาคอสังหาริมทรัพย์และได้ส่งผลกระทบต่อตลาดการเงินทั่วโลกซึ่ง ธ.กลาง สรอ.ได้พยายามที่จะลดผลกระทบ
ดังกล่าว โดยที่ผ่านมาได้อัดฉีดเงินเข้าสู่ระบบเพื่อเพิ่มสภาพคล่องในตลาดการเงิน ซึ่งนักเศรษฐศาสตร์คาดว่า ธ.กลางสรอ. จะต้องปรับลด
Discount rate ลงอีกในไม่ช้านี้ ทั้งนี้ภาวะตลาดเงินปัจจุบันของ สรอ. มีความเสี่ยงจากความไม่แน่นอนและคาดว่าจะส่งผลกระทบต่อการ
เติบโตทางเศรษฐกิจ แม้ว่าตัวเลขทางเศรษฐกิจเมื่อเร็วๆนี้จะบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจกำลังเติบโตอย่างต่อเนื่องก็ตาม แต่เมื่อ 10 วันที่ผ่านมา
ธ.กลาง สรอ. ได้กล่าวว่าอัตราเงินเฟ้อไม่ได้เพิ่มขึ้นซึ่งเป็นเรื่องที่น่าวิตกเนื่องจาก ธ.กลางไม่ต้องการให้นักลงทุนได้รับผลกระทบจากสินเชื่อ
อสังหาริมทรัพย์ที่ต่ำกว่ามาตรฐาน จึงได้มีมาตรการให้การช่วยเหลือดังกล่าว (รอยเตอร์)
2. ราคาบ้านในอังกฤษและเวลล์ช่วงต้นเดือน ส.ค.50 เพิ่มขึ้นร้อยละ 12.8 เทียบต่อปี ขณะที่เทียบต่อเดือนเพิ่มขึ้นถึง 2 เท่า
จากเดือนก่อนหน้า รายงานจากลอนดอน เมื่อ 20 ส.ค.50 Property Website Rightmove เปิดเผยว่า ราคาบ้านในอังกฤษและเวลล์
ในช่วงต้นเดือน ส.ค.50 เพิ่มขึ้นร้อยละ 12.8 เทียบต่อปี จากร้อยละ 10.3 ในช่วงต้นเดือน ก.ค.50 และหากเทียบต่อเดือน เพิ่มขึ้นถึง
ร้อยละ 0.6 นับเป็นการเพิ่มขึ้น 2 เท่าจากเดือน ก.ค.50 โดยมีราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 241,474 ปอนด์ต่อหลัง ทั้งนี้ จากตัวเลขดังกล่าวบ่งชี้ว่า
ตลาดที่อยู่อาศัยของอังกฤษยังคงอยู่ในภาวะปกติ แม้ ธ.กลางอังกฤษจะปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยนโยบายมาแล้วถึง 5 ครั้งตั้งแต่ปี 49 อย่างไรก็ตาม
แม้ตัวเลขราคาบ้านเมื่อเทียบต่อเดือนเพิ่มขึ้นอย่างมากแต่ยังคงเพิ่มขึ้นน้อยกว่าที่เพิ่มขึ้นในช่วงต้นปี และ Rightmove กล่าวคาดการณ์ว่า ราคา
บ้านจะชะลอตัวลงในเดือนถัดไป อนึ่ง จากผลสำรวจราคาบ้านในลอนดอนรายเดือนพบว่าลดลงเป็นครั้งแรกในรอบปี อันเป็นสัญญาณเตือนภัยว่า
ภาวะเศรษฐกิจของลอนดอนมีอิทธิพลต่อตลาดที่อยู่อาศัย (รอยเตอร์)
3. คาดว่า ธ.กลางญี่ปุ่นจะยังไม่ขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมในวันที่ 22-23 ส.ค.50 นี้ รายงานจากโตเกียว เมื่อ
18 ส.ค.50 นสพ.หลายฉบับของญี่ปุ่นคาดว่า ธ.กลางญี่ปุ่นจะยังไม่ขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมในวันที่ 22-23 ส.ค.50 นี้ โดย
ผลสำรวจความเห็นของนักลงทุนส่วนใหญ่คาดว่ามีโอกาสเพียงร้อยละ 10 ที่ ธ.กลางญี่ปุ่นจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกร้อยละ 0.25 เป็น
ร้อยละ 0.75 ต่อปี ลดลงจากร้อยละ 75 จากผลสำรวจเมื่อสัปดาห์ก่อน ทั้งนี้ คาดว่าเป็นผลจากสภาพความวุ่นวายในตลาดการเงินทั่วโลก
ในขณะนี้จากปัญหาหนี้ด้อยคุณภาพของสรอ. และเมื่อวันที่ 17 ส.ค.50 ที่ผ่านมา ธ.กลาง สรอ.ได้ลดอัตราดอกเบี้ยเงินให้สินเชื่อแก่ ธ.พาณิชย์
ลงถึงร้อยละ 0.50 เหลือร้อยละ 5.75 ในขณะที่ยังคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ร้อยละ 5.25 ต่อปี โดยคาดว่า ธ.กลางญี่ปุ่นจะคงอัตรา
ดอกเบี้ยไว้ที่ร้อยละ 0.50 ต่อปีต่อไปจนถึงเดือน ก.ย.50 หรือหลังจากนั้นจนกว่าความวุ่นวายในตลาดการเงินดังกล่าวจะสงบลง (รอยเตอร์)
4. คาดว่าการส่งออกของจีนในปีนี้จะเติบโตถึงร้อยละ 27 รายงานจากกรุงปักกิ่ง ประเทศจีน เมื่อวันที่ 20 ส.ค.50
Yu Guangzhou รมช.พาณิชย์ของจีน คาดการณ์ว่าการส่งออกของจีนในปีนี้จะขยายตัวสูงถึงร้อยละ 27 มูลค่ากว่า 1.231 ล้านล้านดอลลาร์
สรอ. ซึ่งจะใกล้เคียงกับปีก่อนที่ขยายตัวร้อยละ 27.3 มูลค่า 969.1 พันล้านดอลลาร์ สรอ. โดยในช่วง 7 เดือนแรกของปีนี้การส่งออกของจีน
เพิ่มขึ้นร้อยละ 28.6 จากปีก่อน มูลค่า 654.4 พันล้านดอลลาร์ สรอ. และจะทำให้การส่งออกของจีนไล่ทัน สรอ. และกลายเป็นประเทศ
ผู้ส่งออกรายใหญ่อันดับ 2 ของโลกในปีนี้ (รอยเตอร์)
ข้อมูลเศรษฐกิจ 20 ส.ค. 50 17 ส.ค. 50 29 ธ.ค. 49 แหล่งข้อมูล
อัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยระหว่างธนาคาร (Bht/1US$) 34.632 36.044 ธปท.
อัตราซื้อถัวเฉลี่ยตั๋วเงิน/อัตราขายถัวเฉลี่ยของ ธพ. (Bht/1US$) 34.4181/34.7444 35.8601/36.2308 ธปท.
อัตราดอกเบี้ยกู้ยืมระหว่าง ธพ. ขนาดใหญ่ระยะ 7 วัน (ร้อยละ) 3.38063 5.12813 รอยเตอร์
ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฯ (จุด)/มูลค่าซื้อ/ขาย (พันล้านบาท) 758.42/23.55 679.84/9.22 ตลท.
ราคาทองคำแท่ง (ซื้อ/ขายบาทละ) 10,600/10,700 10,600/10,700 10,750/10,650 สมาคมค้าทองคำ
ราคาน้ำมันดิบดูไบ (US$/บาเรล) 66.59 66.45 56.48 ปตท./รอยเตอร์
ราคาน้ำมันเบนซิน 95/ดีเซล(บาท) 28.39*/25.34* 28.39*/25.34* 26.49/23.34 ปตท.
* ปรับเลดสิตรละ 40 สตางค์ เมื่อ 9 ส.ค. 50
--ธนาคารแห่งประเทศไทย--
1. ธปท.เตรียมนำปัญหาซับไพร์มของ สรอ.เข้าสู่การพิจารณาของ กนง. นางสุชาดา กิระกุล ผู้ช่วยผู้ว่าการเปิดเผยว่า
การประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ในวันที่ 29 ส.ค.นี้ จะนำปัญหาสินเชื่ออสังหาริมทรัพย์ด้อยคุณภาพ (ซับไพร์ม) ของ สรอ.
เข้าพิจารณาในที่ประชุมด้วย ซึ่ง ธปท.ได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด แต่ยังประเมินผลกระทบที่ชัดเจนไม่ได้ ต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่ง
เพราะภาวะตลาดยังมีความผัวผวน โดย ธปท.จะดูผลต่อภาพรวมของเศรษฐกิจโลก แต่เท่าที่เห็นเป็นเรื่องสภาพคล่องในระบบการเงินมากกว่า
ทั้งนี้ ในการปรับประมาณการการขยายตัวทางเศรษฐกิจของไทยครั้งล่าสุด กนง.ได้ปรับสมมติฐานไปแล้วว่าเศรษฐกิจ สรอ.จะชะลอตัวลง
เนื่องจากในช่วงครึ่งปีแรกการส่งออกของไทยไป สรอ.ขยายตัวเพียง 0.2% เท่านั้น สำหรับในช่วงครึ่งหลังของปี ธปท.คาดการณ์ไว้แล้วว่า
เศรษฐกิจ สรอ.และเศรษฐกิจโลกจะชะลอตัวลง (โลกวันนี้, มติชน)
2. คณะกรรมการนโยบายสถาบันการเงินมีความเป็นห่วงเอ็นพีแอลที่เพิ่มขึ้นในช่วงไตรมาสที่ 2 ของปีนี้ นายไพบูลย์ กิตติศรีกังวาน
ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายกลยุทธ์สถาบันการเงิน ในฐานะโฆษกคณะกรรมการนโยบายสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า
ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายสถาบันการเงิน ได้มีความเป็นห่วงพิเศษในส่วนของหนี้ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) ของระบบสถาบันการเงิน
เนื่องจากตั้งแต่ต้นปี 46-49 ยอดเอ็นพีแอลลดลง อย่างต่อเนื่อง แต่หลังจากไตรมาส 2 ของปีนี้ กลับเพิ่มขึ้นจากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลง
จึงมีความกังวลว่าในช่วงครึ่งหลังของปี ยอดเอ็นพีแอลจะเพิ่มขึ้นต่อไป อย่างไรก็ตาม หากปัจจัยความไม่แน่นอนต่างๆ เริ่มคลี่คลายในทิศทางที่ดี
ประกอบกับการที่ภาครัฐมีการเบิกจ่ายเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจและความเชื่อมั่นของนักลงทุนกลับมาได้ จึงอาจลดแรงกดดัน
ให้เอ็นพีแอลเพิ่มขึ้นไม่มาก โดยในส่วนของ ธปท.ก็จะมีการจับตาดูแลสถาบันการเงินในระบบอย่างใกล้ชิดด้วย (ผู้จัดการรายวัน 18-19)
3. ช่วง 7 เดือนแรกปี 50 คำขอรับส่งเสริมการลงทุนเพิ่มขึ้น 17.2% เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ)
เปิดเผยว่า ในช่วง 7 เดือนแรกของปี 2550 (ม.ค.-ก.ค.) มียอดคำขอรับส่งเสริมการลงทุนทั้งสิ้น 756 โครงการ มูลค่าลงทุนรวม
272,516.1 ล.บาท โดยในจำนวนดังกล่าว เป็นการขอรับส่งเสริมการลงทุนจากต่างชาติ 467 โครงการ รวมมูลค่าเงินทุนทั้งสิ้น 176,923 ล.บาท
เพิ่มขึ้นประมาณ 17.2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีที่ผ่านมา ซึ่งมีมูลค่าเงินทุน 150,989 ล.บาท สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นจากนักลงทุน
ต่างประเทศ สำหรับประเทศที่เข้ามาลงทุนมากที่สุด ยังคงเป็นโครงการลงทุนจากญี่ปุ่น โดยมีโครงการที่ยื่นขอรับส่งเสริมจำนวน 187 โครงการ
มูลค่าเงินลงทุน 69,371 ล.บาท สูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน 13.5% โดยส่วนใหญ่เป็นอุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วน และอิเล็กทรอนิกส์
(ผู้จัดการรายวัน)
4. ยอดขายรถยนต์ในประเทศลดลงต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ โฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรม
แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ยอดขายรถยนต์ในประเทศลดลงต่อเนื่องมาเป็นปีที่ 2 เป็นผลจากผู้บริโภคชะลอการซื้อและความไม่ชัดเจนทาง
การเมือง โดยเฉพาะการเลือกตั้ง โดยในปี 50 นี้คาดว่าจะมียอดขาย 6.3-6.4 แสนคัน เทียบกับปีที่ผ่านมาอยู่ที่ 6.8 แสนคัน (ไทยโพสต์)
5. ผลการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ในช่วง 6 เดือนแรกปี 50 ลดลง 17% นางภัทรียา เบญจพลชัย
กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผย ผลการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียนประจำงวด 6 เดือนสิ้นสุดวันที่ 30 มิ.ย.50
ว่า บริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ จำนวน 469 บริษัทที่นำส่งงบการเงิน จากบริษัทจดทะเบียนทั้งหมด 492 บริษัทรวมกองทุนอสังหาริมทรัพย์
มีกำไรสุทธิรวม 229,403 ล.บาท ลดลงจากงวดเดียวกันของปีก่อน 47,674 ล.บาท หรือลดลง 17% โดยมีบริษัทที่มีกำไรสุทธิ 367 บริษัทและ
ขาดทุนสุทธิ 102 บริษัท คิดเป็นสัดส่วน 78 ต่อ 22 ในขณะที่ผลการดำเนินงานโดยรวมในงวดไตรมาส 2 ปี 50 มีกำไรสุทธิ 114,578 ล.บาท
ลดลง 10% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน สำหรับสาเหตุที่ผลการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียนลดลง มาจากต้นทุนขายเพิ่มขึ้น ประกอบกับ
กำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนลดลง ซึ่งเป็นผลมาจากเงินบาทแข็งค่าขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งกลุ่ม ธพ.มีการตั้งสำรองค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญเพิ่มตาม
เกณฑ์ใหม่ของ ธปท. เพื่อให้สอดคล้องกับมาตรฐานการบัญชีระหว่างประเทศ หรือ IAS39 (กรุงเทพธุรกิจ 18, ผู้จัดการรายวัน 18-19)
6. ปตท.ยังไม่ปรับเปลี่ยนราคาน้ำมันขายปลีกในประเทศในช่วงสัปดาห์นี้ นายวิทยา หวังจิตรารักษ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่
การตลาดขายปลีก กลุ่มธุรกิจน้ำมัน บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในสัปดาห์นี้ ปตท.จะยังไม่ปรับเปลี่ยนราคาน้ำมันขายปลีกในประเทศ
เนื่องจากกำลังติดตามทิศทางราคาน้ำมันตลาดโลก ที่มีข่าวพายุจะพัดเข้าอ่าวเม็กซิโก ซึ่งหากพายุดังกล่าวสร้างผลกระทบในแหล่งน้ำมันบริเวณ
ดังกล่าว จะทำให้ราคาน้ำมันตลาดโลกปรับตัวขึ้น ดังนั้น ปตท.จะขอติดตามราคาตลาดโลกสัปดาห์หน้าก่อนว่าจะเป็นอย่างไร (ข่าวสด 18)
ข่าวเศรษฐกิจต่างประเทศ
1. ธ.กลาง สรอ. ปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินให้กู้ยืมแก่ ธพ. เพื่อช่วยผ่อนคลายวิกฤติสินเชื่อในขณะนี้ รายงานจากวอชิงตัน เมื่อ
วันที่ 17 ส.ค. 50 วิกฤติสินเชื่ออสังหาริมทรัพย์ของ สรอ. ในขณะนี้ส่งผลให้ ธ.กลาง สรอ. ต้องปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ยืมที่ให้แก่ ธพ.
(Discount rate) ลงร้อยละ 0.50 อยู่ที่ร้อยละ 5.75 ลดลงจากร้อยละ 6.25 เพื่อลดต้นทุนทางการเงินให้แก่ ธพ. ทั้งนี้ตลาดสินเชื่อ สรอ.
ได้รับผลกระทบจากหนี้เสียจากภาคอสังหาริมทรัพย์และได้ส่งผลกระทบต่อตลาดการเงินทั่วโลกซึ่ง ธ.กลาง สรอ.ได้พยายามที่จะลดผลกระทบ
ดังกล่าว โดยที่ผ่านมาได้อัดฉีดเงินเข้าสู่ระบบเพื่อเพิ่มสภาพคล่องในตลาดการเงิน ซึ่งนักเศรษฐศาสตร์คาดว่า ธ.กลางสรอ. จะต้องปรับลด
Discount rate ลงอีกในไม่ช้านี้ ทั้งนี้ภาวะตลาดเงินปัจจุบันของ สรอ. มีความเสี่ยงจากความไม่แน่นอนและคาดว่าจะส่งผลกระทบต่อการ
เติบโตทางเศรษฐกิจ แม้ว่าตัวเลขทางเศรษฐกิจเมื่อเร็วๆนี้จะบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจกำลังเติบโตอย่างต่อเนื่องก็ตาม แต่เมื่อ 10 วันที่ผ่านมา
ธ.กลาง สรอ. ได้กล่าวว่าอัตราเงินเฟ้อไม่ได้เพิ่มขึ้นซึ่งเป็นเรื่องที่น่าวิตกเนื่องจาก ธ.กลางไม่ต้องการให้นักลงทุนได้รับผลกระทบจากสินเชื่อ
อสังหาริมทรัพย์ที่ต่ำกว่ามาตรฐาน จึงได้มีมาตรการให้การช่วยเหลือดังกล่าว (รอยเตอร์)
2. ราคาบ้านในอังกฤษและเวลล์ช่วงต้นเดือน ส.ค.50 เพิ่มขึ้นร้อยละ 12.8 เทียบต่อปี ขณะที่เทียบต่อเดือนเพิ่มขึ้นถึง 2 เท่า
จากเดือนก่อนหน้า รายงานจากลอนดอน เมื่อ 20 ส.ค.50 Property Website Rightmove เปิดเผยว่า ราคาบ้านในอังกฤษและเวลล์
ในช่วงต้นเดือน ส.ค.50 เพิ่มขึ้นร้อยละ 12.8 เทียบต่อปี จากร้อยละ 10.3 ในช่วงต้นเดือน ก.ค.50 และหากเทียบต่อเดือน เพิ่มขึ้นถึง
ร้อยละ 0.6 นับเป็นการเพิ่มขึ้น 2 เท่าจากเดือน ก.ค.50 โดยมีราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 241,474 ปอนด์ต่อหลัง ทั้งนี้ จากตัวเลขดังกล่าวบ่งชี้ว่า
ตลาดที่อยู่อาศัยของอังกฤษยังคงอยู่ในภาวะปกติ แม้ ธ.กลางอังกฤษจะปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยนโยบายมาแล้วถึง 5 ครั้งตั้งแต่ปี 49 อย่างไรก็ตาม
แม้ตัวเลขราคาบ้านเมื่อเทียบต่อเดือนเพิ่มขึ้นอย่างมากแต่ยังคงเพิ่มขึ้นน้อยกว่าที่เพิ่มขึ้นในช่วงต้นปี และ Rightmove กล่าวคาดการณ์ว่า ราคา
บ้านจะชะลอตัวลงในเดือนถัดไป อนึ่ง จากผลสำรวจราคาบ้านในลอนดอนรายเดือนพบว่าลดลงเป็นครั้งแรกในรอบปี อันเป็นสัญญาณเตือนภัยว่า
ภาวะเศรษฐกิจของลอนดอนมีอิทธิพลต่อตลาดที่อยู่อาศัย (รอยเตอร์)
3. คาดว่า ธ.กลางญี่ปุ่นจะยังไม่ขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมในวันที่ 22-23 ส.ค.50 นี้ รายงานจากโตเกียว เมื่อ
18 ส.ค.50 นสพ.หลายฉบับของญี่ปุ่นคาดว่า ธ.กลางญี่ปุ่นจะยังไม่ขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมในวันที่ 22-23 ส.ค.50 นี้ โดย
ผลสำรวจความเห็นของนักลงทุนส่วนใหญ่คาดว่ามีโอกาสเพียงร้อยละ 10 ที่ ธ.กลางญี่ปุ่นจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกร้อยละ 0.25 เป็น
ร้อยละ 0.75 ต่อปี ลดลงจากร้อยละ 75 จากผลสำรวจเมื่อสัปดาห์ก่อน ทั้งนี้ คาดว่าเป็นผลจากสภาพความวุ่นวายในตลาดการเงินทั่วโลก
ในขณะนี้จากปัญหาหนี้ด้อยคุณภาพของสรอ. และเมื่อวันที่ 17 ส.ค.50 ที่ผ่านมา ธ.กลาง สรอ.ได้ลดอัตราดอกเบี้ยเงินให้สินเชื่อแก่ ธ.พาณิชย์
ลงถึงร้อยละ 0.50 เหลือร้อยละ 5.75 ในขณะที่ยังคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ร้อยละ 5.25 ต่อปี โดยคาดว่า ธ.กลางญี่ปุ่นจะคงอัตรา
ดอกเบี้ยไว้ที่ร้อยละ 0.50 ต่อปีต่อไปจนถึงเดือน ก.ย.50 หรือหลังจากนั้นจนกว่าความวุ่นวายในตลาดการเงินดังกล่าวจะสงบลง (รอยเตอร์)
4. คาดว่าการส่งออกของจีนในปีนี้จะเติบโตถึงร้อยละ 27 รายงานจากกรุงปักกิ่ง ประเทศจีน เมื่อวันที่ 20 ส.ค.50
Yu Guangzhou รมช.พาณิชย์ของจีน คาดการณ์ว่าการส่งออกของจีนในปีนี้จะขยายตัวสูงถึงร้อยละ 27 มูลค่ากว่า 1.231 ล้านล้านดอลลาร์
สรอ. ซึ่งจะใกล้เคียงกับปีก่อนที่ขยายตัวร้อยละ 27.3 มูลค่า 969.1 พันล้านดอลลาร์ สรอ. โดยในช่วง 7 เดือนแรกของปีนี้การส่งออกของจีน
เพิ่มขึ้นร้อยละ 28.6 จากปีก่อน มูลค่า 654.4 พันล้านดอลลาร์ สรอ. และจะทำให้การส่งออกของจีนไล่ทัน สรอ. และกลายเป็นประเทศ
ผู้ส่งออกรายใหญ่อันดับ 2 ของโลกในปีนี้ (รอยเตอร์)
ข้อมูลเศรษฐกิจ 20 ส.ค. 50 17 ส.ค. 50 29 ธ.ค. 49 แหล่งข้อมูล
อัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยระหว่างธนาคาร (Bht/1US$) 34.632 36.044 ธปท.
อัตราซื้อถัวเฉลี่ยตั๋วเงิน/อัตราขายถัวเฉลี่ยของ ธพ. (Bht/1US$) 34.4181/34.7444 35.8601/36.2308 ธปท.
อัตราดอกเบี้ยกู้ยืมระหว่าง ธพ. ขนาดใหญ่ระยะ 7 วัน (ร้อยละ) 3.38063 5.12813 รอยเตอร์
ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฯ (จุด)/มูลค่าซื้อ/ขาย (พันล้านบาท) 758.42/23.55 679.84/9.22 ตลท.
ราคาทองคำแท่ง (ซื้อ/ขายบาทละ) 10,600/10,700 10,600/10,700 10,750/10,650 สมาคมค้าทองคำ
ราคาน้ำมันดิบดูไบ (US$/บาเรล) 66.59 66.45 56.48 ปตท./รอยเตอร์
ราคาน้ำมันเบนซิน 95/ดีเซล(บาท) 28.39*/25.34* 28.39*/25.34* 26.49/23.34 ปตท.
* ปรับเลดสิตรละ 40 สตางค์ เมื่อ 9 ส.ค. 50
--ธนาคารแห่งประเทศไทย--