อย่าให้ประเทศต้องวิกฤตซ้ำสอง
โดย บัญญัติ บรรทัดฐาน
14 มิถุนายน 2550
เรื่องที่ร้อนสุด ๆ ในช่วง 3 — 4 วันที่ผ่านมานี้ ก็คือเรื่องที่ คตส. มีมติให้อายัดเงินในบัญชีเงินฝากของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และครอบครัวโดยมีข้อกล่าวหาว่าเป็นทรัพย์สินที่ได้มาจากการกระทำความผิด รวม 5 คดีด้วยกัน รวมทั้งข้อกล่าวหาว่าร่ำรวยผิดปรกติอีกด้วย
ที่เห็นว่าร้อนสุด ๆ ก็เพราะว่า ในทันทีที่ คตส. ได้แจ้งมติดังกล่าวต่อสื่อมวลชน ก็มีการแถลงตอบโต้จากฝ่ายของ พ.ต.ท.ทักษิณ ตามมาอย่างทันทีทันควัน ในทุกข้อ ทุกประเด็น รวมทั้งมีการให้ข่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ อาจจะเดินทางกลับประเทศไทย เพื่อกลับมาต่อสู้ด้วยตนเองในเร็ว ๆ นี้ และที่น่าจะถือได้ว่าร้อนสุด ๆ จริง ๆ และคงไม่มีใครคาดคิดมาก่อนก็คือการที่บริษัท เบเกอร์ บอตส์ บริษัทกฎหมายชื่อดังในประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งมีสำนักงานใหญ่อยู่ในนครฮุสตัน รัฐเท็กซัส ซึ่งได้รับการว่าจ้างจาก พ.ต.ท.ทักษิณ ได้ออกแถลงการณ์ตอบโต้รัฐบาลไทยและคมช.อย่างรุนแรงด้วยการเรียกร้องให้ชุมชนนานาชาติ พิจารณาว่าควรหรือไม่ที่จะลงโทษประเทศไทยด้วยการปิดกั้นการลงทุนของนักลงทุนเหล่านั้น
ผลที่เกิดขึ้นตามมาในทันทีเช่นเดียวกันก็คือความวิตกกังวลของผู้คนที่ติดตามการเมือง รวมทั้งนักธุรกิจน้อยใหญ่ที่ต่างก็มีความรู้สึกอยู่ก่อนแล้วว่า เศรษฐกิจมีปัญหาเพราะการเมืองยังหาความชัดเจนแน่นอนไม่ได้ แม้นายกรัฐมนตรีพลเอกสุรยุทธ์ จะประกาศแล้วประกาศอีกว่ามีเลือกตั้งแน่นอนในเดือนธันวาคมปีนี้แล้วก็ตาม
เพราะเพียงลำพังการชุมนุมของแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการที่เรียกชื่อย่อว่า นปก. โดยมีกลุ่ม พีทีวี พลพรรคเก่าของพรรคไทยรักไทยเดิมเป็นแกนนำที่ชุมนุมกันอยู่ทุกวันนี้ ก็ชวนให้ใจหายใจคว่ำกันอยู่แล้ว เพราะดูนับวันจะมีความรุนแรงมากยิ่งขึ้นทุกที เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาก็ถึงขนาด ฝ่าด่านตำรวจไปได้ถึงหน้ากองบัญชาการกองทัพบก แถมยังมีการรุมสกรัม อดีต ส.ว. ไกรศักดิ์ ชุนหวัณ ที่เผลอตัวไปสังเกตการณ์เสียเกือบจะย่ำแย่ ดีแต่เจ้าหน้าที่ตำรวจมาขวางไว้ทัน เมื่อมีอาการดับเครื่องชนของ พ.ต.ท.ทักษิณ และพลพรรคเพิ่มเติมขึ้นมาอีกเช่นนี้ ก็เลยยิ่งวิตกกังวลกันไปใหญ่
ความจริงการดำเนินการของ คตส. ในเรื่องนี้กล่าวได้ว่า ได้กระทำด้วยความระมัดระวังมากทีเดียวนับตั้งแต่การตรวจสอบและไต่สวนคดีต่าง ๆ ของคณะกรรมการเอง ซึ่งได้ดำเนินการมาหลายเดือนจนถึงขั้นมีพยานหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่า พ.ต.ท.ทักษิณ กับพวกได้ทุจริตประพฤติมิชอบ และร่ำรวยผิดปกติได้ทรัพย์สินมาโดยมิสมควรจากการใช้อำนาจหน้าที่จึงได้มีการประชุมกันและมีมติดังกล่าว ทั้งมติที่ออกมาก็ยังเปิดช่องให้บุคคลที่เกี่ยวข้องสามารถแสวงหาความเป็นธรรมสำหรับตนเองได้ โดยอาศัยข้อกำหนดในคำสั่งของ คตส. ให้บุคคลที่กล่าวอ้างว่าเป็นเจ้าของที่แท้จริงของทรัพย์สินที่ถูกอายัด และมิใช่ทรัพย์สินที่ได้มาจากการกระทำความผิด หรือมิได้เป็นทรัพย์สินที่ได้มาจากการร่ำรวยผิดปรกติ สามารถยื่นคำร้องเพื่อพิสูจน์ต่อคณะกรรมการตรวจสอบได้ภายใน 60 วัน ซึ่งก็หมายความว่า หากพิสูจน์ได้ดังว่า ก็ไม่มีปัญหาใด ๆ
อย่างไรก็ตามเรื่องนี้ก็ได้กลายเป็นแรงกดดันให้เกิดการขับเคลื่อนทางการเมืองอย่างขนานใหญ่ ไม่น้อยไปกว่า กรณีที่ตุลาการรัฐธรรมนูญได้มีคำสั่งยุบพรรคไทยรักไทย เมื่อวันที่ 30 พฤษภาคมที่ผ่านมา ซึ่งได้ส่งผลให้เพิ่มทั้งจำนวนคนและเพิ่มทั้งความร้อนแรงในการชุมนุมที่ท้องสนามหลวงไปแล้ว
ผมไม่คิดว่า พ.ต.ท.ทักษิณ จะเดินทางกลับประเทศไทยในขณะนี้ เพื่อต่อสู้เรื่องนี้ด้วยตนเองตามที่ได้มีการออกข่าว เพราะผมเข้าใจว่านั่นเป็นเพียงกลยุทธ์ในการสร้างข่าวเพื่อสร้างความมั่นใจต่อเครือข่ายที่จะต้องขับเคลื่อนต่อไปเท่านั้นเอง แต่ที่ผมคิดและคาดหมายว่าน่าจะเป็นไปได้แน่นอน ก็คือการชุมนุมที่ท้องสนามหลวงของกลุ่มแนวร่วม นปก.ที่มีกลุ่ม พีทีวี ซึ่งเป็นพลพรรคเก่าของพรรคไทยรักไทยเดิม เป็นหัวหอกในตอนปลายสัปดาห์นี้จะมีการชักนำผู้คนมาชุมนุมกันมากและจะมีความร้อนแรงเป็นพิเศษ
ผมจึงไม่อยากเห็นรัฐบาลและคมช.รวมทั้งผู้เกี่ยวข้องตั้งอยู่ในความประมาท เพราะเมื่อพิจารณาดูแล้ว ไม่ใช่เรื่องของน้ำผึ้งหยดเดียวเสียแล้ว หากแต่เป็นน้ำมันเชื้อเพลิงจำนวนมากที่อาจ ลุกเป็นไฟเผาผลาญบ้านเมืองให้เสียหายได้
การตัดไฟเสียตั้งแต่ต้นลม เพื่อไม่ให้เผาผลาญบ้านเมือง ด้วยการช่วยกันลดความร้อนแรงและหลีกเลี่ยงมิให้เกิดเหตุรุนแรงในการชุมนุมจึงเป็นเรื่องสำคัญยิ่ง
เห็นข่าวกระทรวงมหาดไทย สั่งการไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดต่าง ๆ ให้รายงานความเคลื่อนไหวการเดินทางของผู้ที่จะเข้ามาร่วมชุมนุมเป็นระยะ ๆ ก็เข้าใจได้ว่าเป็นความพยายามที่จะลดจำนวนผู้ที่จะเข้ามาร่วมชุมนุมอีกด้านหนึ่งนั่นเอง
เพราะฉะนั้นเพื่อให้ความมุ่งหมายในการลดความร้อนแรงและลดจำนวนคนที่จะเข้ามาร่วมการชุมนุมเป็นไปอย่างได้ผล ผมมีความเห็นว่า
1. รัฐบาล คมช. และผู้เกี่ยวข้องจะต้องเข้าใจว่าวิธีการที่จะช่วยได้เป็นอย่างดีทางหนึ่งก็คือการตัดกระแสแห่งความสับสนด้วยการสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องในเรื่องที่เกิดขึ้นอย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะอย่างยิ่งต่อกลุ่มผู้คนเป้าหมายที่อาจจะมาร่วมชุมนุมหรือมีการชักนำให้มาร่วมชุมนุม
2. โดยเหตุที่ทั้งกรณีพรรคไทยรักไทยถูกยุบและกรณีพ.ต.ท.ทักษิณและครอบครัวถูกอายัดบัญชีเงินฝากได้กลายเป็นประเด็นแห่งความสับสนการจัดทำเอกสารที่แสดงถึงความเป็นจริงทั้งในสองกรณีนี้ เพื่อเผยแพร่ให้เป็นที่เข้าใจอย่างกว้างขวาง จึงเป็นเรื่องจำเป็นเร่งด่วน
3. ที่จะต้องดำเนินการควบคู่กันไปก็คือการเร่งสร้างความเข้าใจให้เชื่อมั่นและยอมรับการดำเนินการตามกระบวนการยุติธรรมตามกฎหมาย ซึ่งทั้งสองกรณีก็เป็นการดำเนินการตามกระบวนการดังกล่าว อย่างอิสระ และเป็นธรรม ทั้งยังมีโอกาสให้แสวงหาความเป็นธรรมต่อไปได้ เช่นกรณีถูกอายัดบัญชีเงินฝาก เจ้าของก็อาจยื่นคำร้องเพื่อพิสูจน์ความจริงได้ว่า มิได้เป็นทรัพย์สินที่ได้มาจากการกระทำความผิดหรือที่เกี่ยวข้องกับความร่ำรวยที่ผิดปรกติแต่อย่างใด และทั้งยังมีสิทธิที่จะฟ้องร้อง คตส. ต่อศาลที่มีอำนาจได้ ซึ่งขณะนี้ คุณหญิงพจมาน ชินวัตร ก็ได้ยื่นฟ้อง ต่อศาลอาญาแล้ว และการถูกยุบพรรคก็มีสิทธิที่จะขอจดแจ้งการจัดตั้งพรรคใหม่ได้
ผมมีความเชื่อมั่นว่า ถ้าได้ช่วยกันตัดกระแสแห่งความสับสน โดยเร่งสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องอย่างกว้างขวางจริง ๆ ก็น่าจะที่จะช่วยลดความร้อนแรงและลดจำนวนคนที่จะเข้าร่วมการชุมนุมได้มากทีเดียว ที่สำคัญที่สุดก็คือต้องช่วยกันระมัดระวังมิให้มีเหตุการณ์รุนแรงใด ๆ เกิดขึ้นอันจะนำประเทศไปสู่วิกฤตซ้ำสอง
ผมเห็นว่าประเทศไทยวันนี้ไม่มีทางเลือกอื่นที่จะดีไปกว่า การช่วยกันประคับประคองสถานการณ์มิให้เลวร้ายกว่าที่เป็นอยู่ ช่วยกันสร้างรัฐธรรมนูญที่พอจะเอื้ออำนวยให้มีการปฏิรูปการเมืองต่อไปได้ เร่งสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องเพื่อรองรับการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นโดยใช้บทเรียนที่ผ่านมาอย่างคุ้มค่า และมีความพร้อมในการจัดการเลือกตั้งให้เป็นไปตามเจตนารมณ์แห่งรัฐธรรมนูญและกฎหมายที่เกี่ยวข้องอย่างจริงจังเพียงเท่านี้ก็จะสามารถนำพาประเทศของเราให้ฝ่าวิกฤตไปได้.
****************************************
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 14 มิ.ย. 2550--จบ--
โดย บัญญัติ บรรทัดฐาน
14 มิถุนายน 2550
เรื่องที่ร้อนสุด ๆ ในช่วง 3 — 4 วันที่ผ่านมานี้ ก็คือเรื่องที่ คตส. มีมติให้อายัดเงินในบัญชีเงินฝากของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และครอบครัวโดยมีข้อกล่าวหาว่าเป็นทรัพย์สินที่ได้มาจากการกระทำความผิด รวม 5 คดีด้วยกัน รวมทั้งข้อกล่าวหาว่าร่ำรวยผิดปรกติอีกด้วย
ที่เห็นว่าร้อนสุด ๆ ก็เพราะว่า ในทันทีที่ คตส. ได้แจ้งมติดังกล่าวต่อสื่อมวลชน ก็มีการแถลงตอบโต้จากฝ่ายของ พ.ต.ท.ทักษิณ ตามมาอย่างทันทีทันควัน ในทุกข้อ ทุกประเด็น รวมทั้งมีการให้ข่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ อาจจะเดินทางกลับประเทศไทย เพื่อกลับมาต่อสู้ด้วยตนเองในเร็ว ๆ นี้ และที่น่าจะถือได้ว่าร้อนสุด ๆ จริง ๆ และคงไม่มีใครคาดคิดมาก่อนก็คือการที่บริษัท เบเกอร์ บอตส์ บริษัทกฎหมายชื่อดังในประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งมีสำนักงานใหญ่อยู่ในนครฮุสตัน รัฐเท็กซัส ซึ่งได้รับการว่าจ้างจาก พ.ต.ท.ทักษิณ ได้ออกแถลงการณ์ตอบโต้รัฐบาลไทยและคมช.อย่างรุนแรงด้วยการเรียกร้องให้ชุมชนนานาชาติ พิจารณาว่าควรหรือไม่ที่จะลงโทษประเทศไทยด้วยการปิดกั้นการลงทุนของนักลงทุนเหล่านั้น
ผลที่เกิดขึ้นตามมาในทันทีเช่นเดียวกันก็คือความวิตกกังวลของผู้คนที่ติดตามการเมือง รวมทั้งนักธุรกิจน้อยใหญ่ที่ต่างก็มีความรู้สึกอยู่ก่อนแล้วว่า เศรษฐกิจมีปัญหาเพราะการเมืองยังหาความชัดเจนแน่นอนไม่ได้ แม้นายกรัฐมนตรีพลเอกสุรยุทธ์ จะประกาศแล้วประกาศอีกว่ามีเลือกตั้งแน่นอนในเดือนธันวาคมปีนี้แล้วก็ตาม
เพราะเพียงลำพังการชุมนุมของแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการที่เรียกชื่อย่อว่า นปก. โดยมีกลุ่ม พีทีวี พลพรรคเก่าของพรรคไทยรักไทยเดิมเป็นแกนนำที่ชุมนุมกันอยู่ทุกวันนี้ ก็ชวนให้ใจหายใจคว่ำกันอยู่แล้ว เพราะดูนับวันจะมีความรุนแรงมากยิ่งขึ้นทุกที เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาก็ถึงขนาด ฝ่าด่านตำรวจไปได้ถึงหน้ากองบัญชาการกองทัพบก แถมยังมีการรุมสกรัม อดีต ส.ว. ไกรศักดิ์ ชุนหวัณ ที่เผลอตัวไปสังเกตการณ์เสียเกือบจะย่ำแย่ ดีแต่เจ้าหน้าที่ตำรวจมาขวางไว้ทัน เมื่อมีอาการดับเครื่องชนของ พ.ต.ท.ทักษิณ และพลพรรคเพิ่มเติมขึ้นมาอีกเช่นนี้ ก็เลยยิ่งวิตกกังวลกันไปใหญ่
ความจริงการดำเนินการของ คตส. ในเรื่องนี้กล่าวได้ว่า ได้กระทำด้วยความระมัดระวังมากทีเดียวนับตั้งแต่การตรวจสอบและไต่สวนคดีต่าง ๆ ของคณะกรรมการเอง ซึ่งได้ดำเนินการมาหลายเดือนจนถึงขั้นมีพยานหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่า พ.ต.ท.ทักษิณ กับพวกได้ทุจริตประพฤติมิชอบ และร่ำรวยผิดปกติได้ทรัพย์สินมาโดยมิสมควรจากการใช้อำนาจหน้าที่จึงได้มีการประชุมกันและมีมติดังกล่าว ทั้งมติที่ออกมาก็ยังเปิดช่องให้บุคคลที่เกี่ยวข้องสามารถแสวงหาความเป็นธรรมสำหรับตนเองได้ โดยอาศัยข้อกำหนดในคำสั่งของ คตส. ให้บุคคลที่กล่าวอ้างว่าเป็นเจ้าของที่แท้จริงของทรัพย์สินที่ถูกอายัด และมิใช่ทรัพย์สินที่ได้มาจากการกระทำความผิด หรือมิได้เป็นทรัพย์สินที่ได้มาจากการร่ำรวยผิดปรกติ สามารถยื่นคำร้องเพื่อพิสูจน์ต่อคณะกรรมการตรวจสอบได้ภายใน 60 วัน ซึ่งก็หมายความว่า หากพิสูจน์ได้ดังว่า ก็ไม่มีปัญหาใด ๆ
อย่างไรก็ตามเรื่องนี้ก็ได้กลายเป็นแรงกดดันให้เกิดการขับเคลื่อนทางการเมืองอย่างขนานใหญ่ ไม่น้อยไปกว่า กรณีที่ตุลาการรัฐธรรมนูญได้มีคำสั่งยุบพรรคไทยรักไทย เมื่อวันที่ 30 พฤษภาคมที่ผ่านมา ซึ่งได้ส่งผลให้เพิ่มทั้งจำนวนคนและเพิ่มทั้งความร้อนแรงในการชุมนุมที่ท้องสนามหลวงไปแล้ว
ผมไม่คิดว่า พ.ต.ท.ทักษิณ จะเดินทางกลับประเทศไทยในขณะนี้ เพื่อต่อสู้เรื่องนี้ด้วยตนเองตามที่ได้มีการออกข่าว เพราะผมเข้าใจว่านั่นเป็นเพียงกลยุทธ์ในการสร้างข่าวเพื่อสร้างความมั่นใจต่อเครือข่ายที่จะต้องขับเคลื่อนต่อไปเท่านั้นเอง แต่ที่ผมคิดและคาดหมายว่าน่าจะเป็นไปได้แน่นอน ก็คือการชุมนุมที่ท้องสนามหลวงของกลุ่มแนวร่วม นปก.ที่มีกลุ่ม พีทีวี ซึ่งเป็นพลพรรคเก่าของพรรคไทยรักไทยเดิม เป็นหัวหอกในตอนปลายสัปดาห์นี้จะมีการชักนำผู้คนมาชุมนุมกันมากและจะมีความร้อนแรงเป็นพิเศษ
ผมจึงไม่อยากเห็นรัฐบาลและคมช.รวมทั้งผู้เกี่ยวข้องตั้งอยู่ในความประมาท เพราะเมื่อพิจารณาดูแล้ว ไม่ใช่เรื่องของน้ำผึ้งหยดเดียวเสียแล้ว หากแต่เป็นน้ำมันเชื้อเพลิงจำนวนมากที่อาจ ลุกเป็นไฟเผาผลาญบ้านเมืองให้เสียหายได้
การตัดไฟเสียตั้งแต่ต้นลม เพื่อไม่ให้เผาผลาญบ้านเมือง ด้วยการช่วยกันลดความร้อนแรงและหลีกเลี่ยงมิให้เกิดเหตุรุนแรงในการชุมนุมจึงเป็นเรื่องสำคัญยิ่ง
เห็นข่าวกระทรวงมหาดไทย สั่งการไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดต่าง ๆ ให้รายงานความเคลื่อนไหวการเดินทางของผู้ที่จะเข้ามาร่วมชุมนุมเป็นระยะ ๆ ก็เข้าใจได้ว่าเป็นความพยายามที่จะลดจำนวนผู้ที่จะเข้ามาร่วมชุมนุมอีกด้านหนึ่งนั่นเอง
เพราะฉะนั้นเพื่อให้ความมุ่งหมายในการลดความร้อนแรงและลดจำนวนคนที่จะเข้ามาร่วมการชุมนุมเป็นไปอย่างได้ผล ผมมีความเห็นว่า
1. รัฐบาล คมช. และผู้เกี่ยวข้องจะต้องเข้าใจว่าวิธีการที่จะช่วยได้เป็นอย่างดีทางหนึ่งก็คือการตัดกระแสแห่งความสับสนด้วยการสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องในเรื่องที่เกิดขึ้นอย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะอย่างยิ่งต่อกลุ่มผู้คนเป้าหมายที่อาจจะมาร่วมชุมนุมหรือมีการชักนำให้มาร่วมชุมนุม
2. โดยเหตุที่ทั้งกรณีพรรคไทยรักไทยถูกยุบและกรณีพ.ต.ท.ทักษิณและครอบครัวถูกอายัดบัญชีเงินฝากได้กลายเป็นประเด็นแห่งความสับสนการจัดทำเอกสารที่แสดงถึงความเป็นจริงทั้งในสองกรณีนี้ เพื่อเผยแพร่ให้เป็นที่เข้าใจอย่างกว้างขวาง จึงเป็นเรื่องจำเป็นเร่งด่วน
3. ที่จะต้องดำเนินการควบคู่กันไปก็คือการเร่งสร้างความเข้าใจให้เชื่อมั่นและยอมรับการดำเนินการตามกระบวนการยุติธรรมตามกฎหมาย ซึ่งทั้งสองกรณีก็เป็นการดำเนินการตามกระบวนการดังกล่าว อย่างอิสระ และเป็นธรรม ทั้งยังมีโอกาสให้แสวงหาความเป็นธรรมต่อไปได้ เช่นกรณีถูกอายัดบัญชีเงินฝาก เจ้าของก็อาจยื่นคำร้องเพื่อพิสูจน์ความจริงได้ว่า มิได้เป็นทรัพย์สินที่ได้มาจากการกระทำความผิดหรือที่เกี่ยวข้องกับความร่ำรวยที่ผิดปรกติแต่อย่างใด และทั้งยังมีสิทธิที่จะฟ้องร้อง คตส. ต่อศาลที่มีอำนาจได้ ซึ่งขณะนี้ คุณหญิงพจมาน ชินวัตร ก็ได้ยื่นฟ้อง ต่อศาลอาญาแล้ว และการถูกยุบพรรคก็มีสิทธิที่จะขอจดแจ้งการจัดตั้งพรรคใหม่ได้
ผมมีความเชื่อมั่นว่า ถ้าได้ช่วยกันตัดกระแสแห่งความสับสน โดยเร่งสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องอย่างกว้างขวางจริง ๆ ก็น่าจะที่จะช่วยลดความร้อนแรงและลดจำนวนคนที่จะเข้าร่วมการชุมนุมได้มากทีเดียว ที่สำคัญที่สุดก็คือต้องช่วยกันระมัดระวังมิให้มีเหตุการณ์รุนแรงใด ๆ เกิดขึ้นอันจะนำประเทศไปสู่วิกฤตซ้ำสอง
ผมเห็นว่าประเทศไทยวันนี้ไม่มีทางเลือกอื่นที่จะดีไปกว่า การช่วยกันประคับประคองสถานการณ์มิให้เลวร้ายกว่าที่เป็นอยู่ ช่วยกันสร้างรัฐธรรมนูญที่พอจะเอื้ออำนวยให้มีการปฏิรูปการเมืองต่อไปได้ เร่งสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องเพื่อรองรับการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นโดยใช้บทเรียนที่ผ่านมาอย่างคุ้มค่า และมีความพร้อมในการจัดการเลือกตั้งให้เป็นไปตามเจตนารมณ์แห่งรัฐธรรมนูญและกฎหมายที่เกี่ยวข้องอย่างจริงจังเพียงเท่านี้ก็จะสามารถนำพาประเทศของเราให้ฝ่าวิกฤตไปได้.
****************************************
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 14 มิ.ย. 2550--จบ--