ในช่วงไตรมาสที่ 3 ของปี 2549 อุตสาหกรรมยางและผลิตภัณฑ์ยางของไทย มีเรื่องน่ายินดีจากผลสำเร็จจากการประชุมสุดยอดยางโลก
ครั้งที่ 1 ระหว่างวันที่ 26 — 29 กรกฎาคม 2549 งานนี้ได้ช่วยกระตุ้นให้เกษตรกรตื่นตัวเรื่องการสร้างมูลค่าเพิ่ม (Value Added) และการสร้าง
คุณค่าเพิ่ม (Value Creation) ของผลิตภัณฑ์ยางสำเร็จรูปเป็นการเพิ่มมูลค่าแทนการขายยางในรูปยางแปรรูปขั้นต้นมากขึ้น โดยในไตรมาสที่สามของ
ปี 2549 ไทยมีมูลค่าการส่งออกของยางพาราและผลิตภัณฑ์ยางรวมทั้งสิ้น 2,401.5 ล้านเหรียญสหรัฐ แบ่งออกเป็นมูลค่าการส่งออกประเภทยางพารา
หรือยางแปรรูปขั้นต้น 1,564.9 ล้านเหรียญสหรัฐคิดเป็นร้อยละ 65.16 และมูลค่าการส่งออกผลิตภัณฑ์ยาง 836.6 ล้านเหรียญสหรัฐคิดเป็นร้อยละ
34.84 ซึ่งเมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 2 ปี 2549 แล้วการส่งออกยางพาราแปรรูปขั้นต้นเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 31.97 ขณะที่การส่งออกผลิตภัณฑ์ยางเพิ่มขึ้นร้อย
ละ 10.97 หากพิจารณาจากราคายางดิบหรือยางแปรรูปขั้นต้นที่ซื้อขาย ณ ตลาดกลางยางพาราหาดใหญ่ในไตรมาส 3 ปี 2549 นั้น ณ เดือนกรกฎาคม
ราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 85.15 บาทต่อกิโลกรัม ณ เดือนสิงหาคมราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 73.17 บาทต่อกิโลกรัม และ ณ เดือนกันยายนราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 59.5 บาท
ต่อกิโลกรัม พบว่าราคาได้ลดลงอย่างต่อเนื่องเมื่อเทียบกับเดือนมิถุนายน ในไตรมาสที่ 2 ซึ่งราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 97.58 บาทต่อกิโลกรัม เนื่องมาจาก
สาเหตุของราคาน้ำมันในตลาดโลกอ่อนตัวลงและค่าเงินบาทแข็ง ประกอบกับช่วงเดือนกันยายนเป็นฤดูกาลกรีดยางมีน้ำยางออกสู่ตลาดเป็นจำนวนมาก
ราคาจึงลดลงเรื่อย ๆ
1. การผลิต
ในส่วนของการผลิตยางแปรรูปขั้นต้นในไตรมาสที่ 3 ของปี 2549 มีการผลิตยางแท่งจำนวน 232,026.72 ตัน เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อน
คิดเป็นร้อยละ 5.39 และยางแผ่นมีการผลิตจำนวน 65,785.72ตัน เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนคิดเป็นร้อยละ 9.35 แต่หากเทียบกับไตรมาสเดียวกันของ
ปีก่อน การผลิตยางแท่ง เพิ่มขึ้นคิดเป็นร้อยละ 28.24 โดยที่ยางแผ่นลดลงคิดเป็นร้อยละ 22.66
สำหรับการผลิตของผลิตภัณฑ์ยางในไตรมาส 3 ของปี 2549 ส่วนใหญ่มีปริมาณการผลิตที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น เนื่องจากราคายางพาราแปรรูปขั้น
ต้นมีการปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งมีบางผลิตภัณฑ์ที่ปริมาณการผลิตลดลงซึ่งก็ไม่มากนัก โดยการผลิตยางนอกรถยนต์นั่ง มีจำนวน 3,339,516 เส้น
ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนคิดเป็นร้อยละ 9.04 ยางนอกรถบรรทุกและรถโดยสาร มีจำนวน 1,234,953.เส้น ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนคิด
เป็นร้อยละ 4.05 ยางนอกรถจักรยานยนต์ จำนวน 5,700,365 เส้น เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนคิดเป็นร้อยละ 1.35 ยางนอกรถจักรยาน จำนวน
5,297,222 เส้น เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนคิดเป็นร้อยละ 10.07 ยางในรถบรรทุกและรถโดยสาร จำนวน 630,832 เส้น เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนคิด
เป็นร้อยละ 28.76 ยางในรถจักรยานยนต์ จำนวน 8,459,107 เส้น เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนคิดเป็นร้อยละ 0.67 ยางในรถจักรยาน จำนวน
5,056,003 เส้น เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนคิดเป็นร้อยละ 5 ยางรอง จำนวน 1,073,558 เส้น เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนคิดเป็นร้อยละ 9.92 ยาง
หล่อดอก จำนวน 47,002 เส้น เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนคิดเป็นร้อยละ 5.59 และยางรัดของ จำนวน 3,946.08 ตัน เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนคิดเป็น
ร้อยละ 11.4
ตารางที่ 1 ปริมาณการผลิตผลิตภัณฑ์ยาง
ปริมาณการผลิต หน่วย ไตรมาสที่ 3/2548 ไตรมาสที่ 4/2548 2548 ไตรมาสที่ 2/2549 ไตรมาสที่ 3/25491 D% D%
Mar-49 Mar-49
Feb-49 Mar-48
ยางนอกรถยนต์นั่ง เส้น 3,453,390.00 3,284,790.00 13,416,169.00 3,062,765.00 3,339,516.00 9.04 -3.3
ยางนอกรถกะบะ เส้น 1,454,559.00 1,515,718.00 5,635,959.00 1,456,604.00 1,363,509.00 -6.39 -6.26
ยางนอกรถบรรทุกและรถโดยสาร เส้น 1,074,583.00 1,026,685.00 4,303,606.00 1,186,864.00 1,234,953.00 4.05 14.92
ยางนอกรถจักรยานยนต์ เส้น 5,498,049.00 5,752,119.00 21,752,485.00 5,624,624.00 5,700,365.00 1.35 3.68
ยางนอกรถจักรยาน เส้น 5,724,226.00 4,972,308.00 21,783,763.00 4,812,423.00 5,297,222.00 10.07 -7.46
ยางนอกรถแทรกเตอร์ เส้น 47,436.00 45,255.00 190,397.00 46,845.00 38,189.00 -18.48 -19.49
ยางนอกอื่น ๆ เส้น 423,771.00 425,486.00 1,888,013.00 446,351.00 436,102.00 -2.3 2.91
ยางในรถบรรทุกและรถโดยสาร เส้น 542,131.00 550,400.00 2,135,262.00 489,939.00 630,832.00 28.76 16.36
ยางในรถจักรยานยนต์ เส้น 8,874,737.00 9,110,286.00 34,512,902.00 8,402,809.00 8,459,107.00 0.67 -4.68
ยางในรถจักรยาน เส้น 5,253,116.00 4,521,736.00 20,822,467.00 4,815,035.00 5,056,003.00 5 -3.75
ยางรอง เส้น 772,870.00 716,138.00 2,839,211.00 976,636.00 1,073,558.00 9.92 38.91
ยางหล่อดอก เส้น 60,655.00 62,704.00 227,810.00 44,515.00 47,002.00 5.59 -22.51
ถุงมือยางถุงมือตรวจ ชิ้น 2,081,393,992 2,356,689,549 9,567,164,856 2,240,552,621 2,215,557,695 -1.12 6.45
ยางรัดของ ตัน 3,970.67 3,603.42 16,965.58 3,542.31 3,946.08 11.4 -0.62
ยางแผ่น ตัน 85,061.42 68,673.37 297,119.04 60,157.95 65,785.72 9.35 -22.66
ยางแท่ง ตัน 180,929.60 182,603.67 787,880.94 220,153.45 232,026.72 5.39 28.24
ที่มา : ศูนย์สารสนเทศเศรษฐกิจอุตสาหกรรม สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม
หมายเหตุ : 1. เป็นข้อมูลประมาณการเบื้องต้น
2. การตลาด
2.1 ตลาดส่งออก ประเภทสินค้าที่ผลิตและส่งออกในอุตสาหกรรมยางและผลิตภัณฑ์ยางแบ่งเป็น 2 ประเภท คือ
1) ยางแปรรูปขั้นต้น ประกอบด้วย ยางแผ่น ยางแท่ง ยางเครฟ น้ำยางข้น และยางพาราอื่น ๆ โดยมีมูลค่าการส่งออกใน
ไตรมาสที่ 3 ของปี 2549 จำนวน 1,564.90 ล้านเหรียญสหรัฐ มีมูลค่าปรับตัวเพิ่มขึ้นจากไตรมาสที่แล้วถึงร้อยละ 31.97 และหากเปรียบเทียบไตร
มาสเดียวกันกับปีที่แล้วมีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 52.38 โดยตลาดส่งออกสำคัญในหมวดนี้อันดับ 1 และ 2 ยังคงเป็นประเทศจีนและญี่ปุ่น รอง
ลงมาเป็น มาเลเซีย สหรัฐอเมริกา เกาหลีใต้ สิงคโปร์ อิตาลี และเยอรมนี
2) ผลิตภัณฑ์ยาง ประกอบด้วย ยางยานพาหนะ ถุงมือยาง ยางรัดของ หลอดและท่อ สายพานลำเลียงและส่งกำลัง โดยมี
มูลค่าการส่งออกในไตรมาสที่ 3 ปี 2549 จำนวน 836.60 ล้านเหรียญสหรัฐ มีมูลค่าเพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนร้อยละ 10.97 และเติบโตจากไตรมาส
เดียวกันกับปีก่อนร้อยละ 33.37 โดยตลาดส่งออกสำคัญในหมวดนี้อันดับ 1 ได้แก่ ประเทศสหรัฐอเมริกา รองลงมาประกอบไปด้วยญี่ปุ่น จีน มาเลเซีย
อิตาลี และเยอรมนี
ตารางที่ 2 มูลค่าการส่งออกของสินค้ายางและผลิตภัณฑ์ยาง
สินค้า 2547 2548 ไตรมาสที่ 3/2548 ไตรมาสที่ 4/2548 ไตรมาสที่ 2/2549 ไตรมาสที่
3/2549 3/2549 3/2549
2/2549 3/2548
ยางพารา 3,428.80 3,710.00 1,027.00 1,095.20 1,185.80 1,564.90 31.97 52.38
ยางแผ่น 1,325.40 1,318.00 376.6 407.9 365.6 562.3 53.8 49.31
ยางแท่ง 1,325.30 1,565.00 418.2 434.9 496.9 643.9 29.58 53.97
น้ำยางข้น 713.7 757.2 215.3 232.3 302.9 337.1 11.29 56.57
ยางพาราอื่น ๆ 64.4 69.8 16.9 20.1 20.4 21.6 5.88 27.81
ผลิตภัณฑ์ยาง 1,944.50 2,351.20 627.2 637.1 753.9 836.6 10.97 33.37
ยางยานพาหนะ 679.7 900.4 244.6 249.1 288.1 324.1 12.5 32.5
ถุงมือยาง 489.4 515.7 132.5 138.5 134.6 143.3 6.46 8.15
ยางรัดของ 45.9 47.8 12.3 12.1 14.9 18.4 23.49 49.59
หลอดและท่อ 73 86.5 23.1 23.9 24.4 28.6 17.21 23.81
สายพานลำเลียงและส่งกำลัง 23.7 31.3 8.6 8.4 11.2 12.2 8.93 41.86
ผลิตภัณฑ์ยางที่ใช้ทางเภสัชกรรม 151.1 189.2 47.4 49.2 54.8 51.7 -5.66 9.07
ยางวัลแคไนซ์ 120.5 147.7 38.1 37.4 57 60.1 5.44 57.74
ผลิตภัณฑ์ยางอื่น ๆ 361.2 432.6 120.7 118.4 168.9 198.2 17.35 64.21
ที่มา : สำนักบริหารสารสนเทศและการสื่อสาร กระทรวงพาณิชย์ โดยความร่วมมือของกรมศุลกากร กระทรวงการคลัง
ตารางที่ 3 มูลค่าการนำเข้าของสินค้ายางพาราและผลิตภัณฑ์ยาง
หน่วย : ล้านเหรียญสหรัฐ
สินค้า 2547 2548 ไตรมาสที่ 3/2548 ไตรมาสที่ 4/2548 ไตรมาสที่ 2/2549 ไตรมาสที่ 3/2549 3/2549 3/2549
2/2549 3/2548
ผลิตภัณฑ์ยาง 469.1 533 133 132.8 153.6 175 13.93 31.58
ท่อหรือข้อต่อและสายพานลำเลียง 81.6 96.1 24.8 23.9 26.7 30.6 14.61 23.39
ผลิตภัณฑ์ยางวัลแคไนซ์ 260.7 287.1 70.4 70.9 74 88.7 19.86 25.99
เช่น ประเก็น ฝารอง และซีล
ผลิตภัณฑ์ยางอื่น ๆ 126.8 149.8 37.8 38 52.9 55.7 5.29 47.35
ที่มา : 1. สำนักบริหารสารสนเทศและการสื่อสาร กระทรวงพาณิชย์ โดยความร่วมมือของกรมศุลกากร กระทรวงการคลัง
2.2 ตลาดนำเข้า ประเภทผลิตภัณฑ์ยางที่ประเทศไทยยังคงมีการนำเข้า ได้แก่ ท่อหรือข้อต่อและสายพานลำเลียง ผลิตภัณฑ์ยางวัลแคไน
ซ์ เช่น ประเก็น ฝารอง และซีล และผลิตภัณฑ์ยางอื่นๆ ซึ่งต้องอาศัยเทคโนโลยีชั้นสูงในการผลิตให้ได้มาตรฐาน โดยในไตรมาสที่ 3 ปี 2549 มีมูลค่า
การนำเข้า 175 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 13.93 เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 2 ปี 2549 และหากเปรียบเทียบกับไตรมาสที่ 3 ปี 2548 มีอัตรา
การขยายตัวสูงถึงร้อยละ 31.58 โดยผลิตภัณฑ์ประเภทท่อหรือข้อต่อ และสายพานลำเลียง มีการนำเข้า 30.60 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นจากไตรมาส
ที่ 2 ปี 2549 คิดเป็นร้อยละ 14.61 ส่วนผลิตภัณฑ์ประเภทยางวัลแคไนซ์ มีมูลค่าการนำเข้า 88.70 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 19.86 เมื่อ
เทียบกับไตรมาสที่ 2 ปี 2549 และหากเปรียบเทียบกับไตรมาสที่ 3 ปี 2548 มีอัตราการขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 25.99 ส่วนผลิตภัณฑ์ยางอื่น ๆ มี
มูลค่าการนำเข้า 55.70 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นจากไตรมาสที่ 2 ปี 2549 เล็กน้อยคือร้อยละ 5.29 แต่เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสที่ 3 ของปี
2548 มีอัตราขยายตัวเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 47.35
3. สรุปและแนวโน้ม
ภาวะโดยรวมของอุตสาหกรรมยางและผลิตภัณฑ์ยางในไตรมาสที่ 3 ของ ปี 2549 สามารถแบ่งการพิจารณาเป็น 2 ส่วนคือ กลุ่มผู้ผลิต
ยางแปรรูปขั้นต้นหรือผู้ผลิตในกลุ่มต้นน้ำควรจะวางแผนค่าใช้จ่ายของกิจการอย่างรัดกุมเพราะรายรับรวมลดลง เนื่องจากราคายางแปรรูปขั้นต้นที่ได้ปรับ
ตัวลดลงอย่างต่อเนื่องจากที่เคยทำสถิติสูงสุดเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามการส่งออกยางแปรรูปขั้นต้นไปประเทศจีน ญี่ปุ่น ยังอยู่ในเกณฑ์
ขยายตัว นั่นคือตลาดยังมีความต้องการอยู่ ฉะนั้นผู้ผลิตยางแปรรูปขั้นต้นต้องรักษาคุณภาพผลผลิตไว้ให้ดี ส่วนกลุ่มผู้ผลิตผลิตภัณฑ์ยางหรือกลุ่มปลายน้ำ ใน
ไตรมาสที่ 3 นี้คงมีต้นทุนวัตถุดิบลดลง ซึ่งเป็นผลดีและผลจากการที่ราคายางประเภทยางแปรรูปขั้นต้นมีการปรับตัวลดลงนั้นก็ส่งผลให้เกิดการผลิตเพิ่มขึ้น
ในการผลิตผลิตภัณฑ์ยางในเกือบทุกหมวด และเมื่อพิจารณาในส่วนของมูลค่าการส่งออกของกลุ่มผลิตภัณฑ์ยางพบว่า มีการขยายตัวอย่างต่อเนื่องในเกือบ
ทุกรายการยกเว้นผลิตภัณฑ์ยางที่ใช้ทางเภสัชกรรม
สำหรับไตรมาสที่ 4 ปี 2549 แนวโน้มราคายางดิบหรือยางแปรรูปขั้นต้นมีแนวโน้มแกว่งตัวมีการปรับตัวลดลงเล็กน้อยซึ่งจะปรับตัวไปใน
แนวทางเดียวกับราคาน้ำมันในตลาดโลก ประกอบกับเป็นช่วงฤดูกาลผลิตทำให้ปริมาณยางออกสู่ตลาดมากขึ้น อย่างไรก็ตามในภาพรวมแล้วคาดว่าราคา
ยางน่าจะทรงตัวหรือลดลงเล็กน้อยในระดับราคา 55 - 65 บาทต่อกิโลกรัม อันจะเป็นผลดีต่อการส่งออกยางพาราเพราะราคาได้ลดลงมามากจากที่
เคยสูงถึง 100 บาทต่อกิโลกรัม ซึ่งประเทศจีนและญี่ปุ่นยังคงเป็นตลาดส่งออกสำคัญของไทย แต่ในระยะประมาณ 4 - 5 ปีข้างหน้าความต้องการซื้อใน
ตลาดโลกมีแนวโน้มขยายตัวในอัตราลดลง ขึ้นอยู่กับดีมานต์ ซัพพลาย ของตลาดประเทศจีนเป็นหลัก เนื่องจากประเทศจีนได้มีการร่วมลงทุนปลูก
ยางพาราในประเทศเวียดนาม และลาว ในระยะนี้ผู้ผลิตผลิตภัณฑ์ยางยังสามารถวางแผนการผลิตและการจำหน่ายได้ เนื่องจากระดับราคาวัตถุดิบ
เปลี่ยนแปลงไม่มาก แต่อุปสรรคสำคัญของการส่งออกในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2549 คงไม่พ้นความผันผวนของค่าเงินบาทเมื่อเทียบกับเงินดอลล่าร์
สหรัฐที่ปรับตัวแข็งขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้า
--สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม--
-พห-
ครั้งที่ 1 ระหว่างวันที่ 26 — 29 กรกฎาคม 2549 งานนี้ได้ช่วยกระตุ้นให้เกษตรกรตื่นตัวเรื่องการสร้างมูลค่าเพิ่ม (Value Added) และการสร้าง
คุณค่าเพิ่ม (Value Creation) ของผลิตภัณฑ์ยางสำเร็จรูปเป็นการเพิ่มมูลค่าแทนการขายยางในรูปยางแปรรูปขั้นต้นมากขึ้น โดยในไตรมาสที่สามของ
ปี 2549 ไทยมีมูลค่าการส่งออกของยางพาราและผลิตภัณฑ์ยางรวมทั้งสิ้น 2,401.5 ล้านเหรียญสหรัฐ แบ่งออกเป็นมูลค่าการส่งออกประเภทยางพารา
หรือยางแปรรูปขั้นต้น 1,564.9 ล้านเหรียญสหรัฐคิดเป็นร้อยละ 65.16 และมูลค่าการส่งออกผลิตภัณฑ์ยาง 836.6 ล้านเหรียญสหรัฐคิดเป็นร้อยละ
34.84 ซึ่งเมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 2 ปี 2549 แล้วการส่งออกยางพาราแปรรูปขั้นต้นเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 31.97 ขณะที่การส่งออกผลิตภัณฑ์ยางเพิ่มขึ้นร้อย
ละ 10.97 หากพิจารณาจากราคายางดิบหรือยางแปรรูปขั้นต้นที่ซื้อขาย ณ ตลาดกลางยางพาราหาดใหญ่ในไตรมาส 3 ปี 2549 นั้น ณ เดือนกรกฎาคม
ราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 85.15 บาทต่อกิโลกรัม ณ เดือนสิงหาคมราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 73.17 บาทต่อกิโลกรัม และ ณ เดือนกันยายนราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 59.5 บาท
ต่อกิโลกรัม พบว่าราคาได้ลดลงอย่างต่อเนื่องเมื่อเทียบกับเดือนมิถุนายน ในไตรมาสที่ 2 ซึ่งราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 97.58 บาทต่อกิโลกรัม เนื่องมาจาก
สาเหตุของราคาน้ำมันในตลาดโลกอ่อนตัวลงและค่าเงินบาทแข็ง ประกอบกับช่วงเดือนกันยายนเป็นฤดูกาลกรีดยางมีน้ำยางออกสู่ตลาดเป็นจำนวนมาก
ราคาจึงลดลงเรื่อย ๆ
1. การผลิต
ในส่วนของการผลิตยางแปรรูปขั้นต้นในไตรมาสที่ 3 ของปี 2549 มีการผลิตยางแท่งจำนวน 232,026.72 ตัน เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อน
คิดเป็นร้อยละ 5.39 และยางแผ่นมีการผลิตจำนวน 65,785.72ตัน เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนคิดเป็นร้อยละ 9.35 แต่หากเทียบกับไตรมาสเดียวกันของ
ปีก่อน การผลิตยางแท่ง เพิ่มขึ้นคิดเป็นร้อยละ 28.24 โดยที่ยางแผ่นลดลงคิดเป็นร้อยละ 22.66
สำหรับการผลิตของผลิตภัณฑ์ยางในไตรมาส 3 ของปี 2549 ส่วนใหญ่มีปริมาณการผลิตที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น เนื่องจากราคายางพาราแปรรูปขั้น
ต้นมีการปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งมีบางผลิตภัณฑ์ที่ปริมาณการผลิตลดลงซึ่งก็ไม่มากนัก โดยการผลิตยางนอกรถยนต์นั่ง มีจำนวน 3,339,516 เส้น
ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนคิดเป็นร้อยละ 9.04 ยางนอกรถบรรทุกและรถโดยสาร มีจำนวน 1,234,953.เส้น ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนคิด
เป็นร้อยละ 4.05 ยางนอกรถจักรยานยนต์ จำนวน 5,700,365 เส้น เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนคิดเป็นร้อยละ 1.35 ยางนอกรถจักรยาน จำนวน
5,297,222 เส้น เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนคิดเป็นร้อยละ 10.07 ยางในรถบรรทุกและรถโดยสาร จำนวน 630,832 เส้น เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนคิด
เป็นร้อยละ 28.76 ยางในรถจักรยานยนต์ จำนวน 8,459,107 เส้น เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนคิดเป็นร้อยละ 0.67 ยางในรถจักรยาน จำนวน
5,056,003 เส้น เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนคิดเป็นร้อยละ 5 ยางรอง จำนวน 1,073,558 เส้น เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนคิดเป็นร้อยละ 9.92 ยาง
หล่อดอก จำนวน 47,002 เส้น เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนคิดเป็นร้อยละ 5.59 และยางรัดของ จำนวน 3,946.08 ตัน เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนคิดเป็น
ร้อยละ 11.4
ตารางที่ 1 ปริมาณการผลิตผลิตภัณฑ์ยาง
ปริมาณการผลิต หน่วย ไตรมาสที่ 3/2548 ไตรมาสที่ 4/2548 2548 ไตรมาสที่ 2/2549 ไตรมาสที่ 3/25491 D% D%
Mar-49 Mar-49
Feb-49 Mar-48
ยางนอกรถยนต์นั่ง เส้น 3,453,390.00 3,284,790.00 13,416,169.00 3,062,765.00 3,339,516.00 9.04 -3.3
ยางนอกรถกะบะ เส้น 1,454,559.00 1,515,718.00 5,635,959.00 1,456,604.00 1,363,509.00 -6.39 -6.26
ยางนอกรถบรรทุกและรถโดยสาร เส้น 1,074,583.00 1,026,685.00 4,303,606.00 1,186,864.00 1,234,953.00 4.05 14.92
ยางนอกรถจักรยานยนต์ เส้น 5,498,049.00 5,752,119.00 21,752,485.00 5,624,624.00 5,700,365.00 1.35 3.68
ยางนอกรถจักรยาน เส้น 5,724,226.00 4,972,308.00 21,783,763.00 4,812,423.00 5,297,222.00 10.07 -7.46
ยางนอกรถแทรกเตอร์ เส้น 47,436.00 45,255.00 190,397.00 46,845.00 38,189.00 -18.48 -19.49
ยางนอกอื่น ๆ เส้น 423,771.00 425,486.00 1,888,013.00 446,351.00 436,102.00 -2.3 2.91
ยางในรถบรรทุกและรถโดยสาร เส้น 542,131.00 550,400.00 2,135,262.00 489,939.00 630,832.00 28.76 16.36
ยางในรถจักรยานยนต์ เส้น 8,874,737.00 9,110,286.00 34,512,902.00 8,402,809.00 8,459,107.00 0.67 -4.68
ยางในรถจักรยาน เส้น 5,253,116.00 4,521,736.00 20,822,467.00 4,815,035.00 5,056,003.00 5 -3.75
ยางรอง เส้น 772,870.00 716,138.00 2,839,211.00 976,636.00 1,073,558.00 9.92 38.91
ยางหล่อดอก เส้น 60,655.00 62,704.00 227,810.00 44,515.00 47,002.00 5.59 -22.51
ถุงมือยางถุงมือตรวจ ชิ้น 2,081,393,992 2,356,689,549 9,567,164,856 2,240,552,621 2,215,557,695 -1.12 6.45
ยางรัดของ ตัน 3,970.67 3,603.42 16,965.58 3,542.31 3,946.08 11.4 -0.62
ยางแผ่น ตัน 85,061.42 68,673.37 297,119.04 60,157.95 65,785.72 9.35 -22.66
ยางแท่ง ตัน 180,929.60 182,603.67 787,880.94 220,153.45 232,026.72 5.39 28.24
ที่มา : ศูนย์สารสนเทศเศรษฐกิจอุตสาหกรรม สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม
หมายเหตุ : 1. เป็นข้อมูลประมาณการเบื้องต้น
2. การตลาด
2.1 ตลาดส่งออก ประเภทสินค้าที่ผลิตและส่งออกในอุตสาหกรรมยางและผลิตภัณฑ์ยางแบ่งเป็น 2 ประเภท คือ
1) ยางแปรรูปขั้นต้น ประกอบด้วย ยางแผ่น ยางแท่ง ยางเครฟ น้ำยางข้น และยางพาราอื่น ๆ โดยมีมูลค่าการส่งออกใน
ไตรมาสที่ 3 ของปี 2549 จำนวน 1,564.90 ล้านเหรียญสหรัฐ มีมูลค่าปรับตัวเพิ่มขึ้นจากไตรมาสที่แล้วถึงร้อยละ 31.97 และหากเปรียบเทียบไตร
มาสเดียวกันกับปีที่แล้วมีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 52.38 โดยตลาดส่งออกสำคัญในหมวดนี้อันดับ 1 และ 2 ยังคงเป็นประเทศจีนและญี่ปุ่น รอง
ลงมาเป็น มาเลเซีย สหรัฐอเมริกา เกาหลีใต้ สิงคโปร์ อิตาลี และเยอรมนี
2) ผลิตภัณฑ์ยาง ประกอบด้วย ยางยานพาหนะ ถุงมือยาง ยางรัดของ หลอดและท่อ สายพานลำเลียงและส่งกำลัง โดยมี
มูลค่าการส่งออกในไตรมาสที่ 3 ปี 2549 จำนวน 836.60 ล้านเหรียญสหรัฐ มีมูลค่าเพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนร้อยละ 10.97 และเติบโตจากไตรมาส
เดียวกันกับปีก่อนร้อยละ 33.37 โดยตลาดส่งออกสำคัญในหมวดนี้อันดับ 1 ได้แก่ ประเทศสหรัฐอเมริกา รองลงมาประกอบไปด้วยญี่ปุ่น จีน มาเลเซีย
อิตาลี และเยอรมนี
ตารางที่ 2 มูลค่าการส่งออกของสินค้ายางและผลิตภัณฑ์ยาง
สินค้า 2547 2548 ไตรมาสที่ 3/2548 ไตรมาสที่ 4/2548 ไตรมาสที่ 2/2549 ไตรมาสที่
3/2549 3/2549 3/2549
2/2549 3/2548
ยางพารา 3,428.80 3,710.00 1,027.00 1,095.20 1,185.80 1,564.90 31.97 52.38
ยางแผ่น 1,325.40 1,318.00 376.6 407.9 365.6 562.3 53.8 49.31
ยางแท่ง 1,325.30 1,565.00 418.2 434.9 496.9 643.9 29.58 53.97
น้ำยางข้น 713.7 757.2 215.3 232.3 302.9 337.1 11.29 56.57
ยางพาราอื่น ๆ 64.4 69.8 16.9 20.1 20.4 21.6 5.88 27.81
ผลิตภัณฑ์ยาง 1,944.50 2,351.20 627.2 637.1 753.9 836.6 10.97 33.37
ยางยานพาหนะ 679.7 900.4 244.6 249.1 288.1 324.1 12.5 32.5
ถุงมือยาง 489.4 515.7 132.5 138.5 134.6 143.3 6.46 8.15
ยางรัดของ 45.9 47.8 12.3 12.1 14.9 18.4 23.49 49.59
หลอดและท่อ 73 86.5 23.1 23.9 24.4 28.6 17.21 23.81
สายพานลำเลียงและส่งกำลัง 23.7 31.3 8.6 8.4 11.2 12.2 8.93 41.86
ผลิตภัณฑ์ยางที่ใช้ทางเภสัชกรรม 151.1 189.2 47.4 49.2 54.8 51.7 -5.66 9.07
ยางวัลแคไนซ์ 120.5 147.7 38.1 37.4 57 60.1 5.44 57.74
ผลิตภัณฑ์ยางอื่น ๆ 361.2 432.6 120.7 118.4 168.9 198.2 17.35 64.21
ที่มา : สำนักบริหารสารสนเทศและการสื่อสาร กระทรวงพาณิชย์ โดยความร่วมมือของกรมศุลกากร กระทรวงการคลัง
ตารางที่ 3 มูลค่าการนำเข้าของสินค้ายางพาราและผลิตภัณฑ์ยาง
หน่วย : ล้านเหรียญสหรัฐ
สินค้า 2547 2548 ไตรมาสที่ 3/2548 ไตรมาสที่ 4/2548 ไตรมาสที่ 2/2549 ไตรมาสที่ 3/2549 3/2549 3/2549
2/2549 3/2548
ผลิตภัณฑ์ยาง 469.1 533 133 132.8 153.6 175 13.93 31.58
ท่อหรือข้อต่อและสายพานลำเลียง 81.6 96.1 24.8 23.9 26.7 30.6 14.61 23.39
ผลิตภัณฑ์ยางวัลแคไนซ์ 260.7 287.1 70.4 70.9 74 88.7 19.86 25.99
เช่น ประเก็น ฝารอง และซีล
ผลิตภัณฑ์ยางอื่น ๆ 126.8 149.8 37.8 38 52.9 55.7 5.29 47.35
ที่มา : 1. สำนักบริหารสารสนเทศและการสื่อสาร กระทรวงพาณิชย์ โดยความร่วมมือของกรมศุลกากร กระทรวงการคลัง
2.2 ตลาดนำเข้า ประเภทผลิตภัณฑ์ยางที่ประเทศไทยยังคงมีการนำเข้า ได้แก่ ท่อหรือข้อต่อและสายพานลำเลียง ผลิตภัณฑ์ยางวัลแคไน
ซ์ เช่น ประเก็น ฝารอง และซีล และผลิตภัณฑ์ยางอื่นๆ ซึ่งต้องอาศัยเทคโนโลยีชั้นสูงในการผลิตให้ได้มาตรฐาน โดยในไตรมาสที่ 3 ปี 2549 มีมูลค่า
การนำเข้า 175 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 13.93 เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 2 ปี 2549 และหากเปรียบเทียบกับไตรมาสที่ 3 ปี 2548 มีอัตรา
การขยายตัวสูงถึงร้อยละ 31.58 โดยผลิตภัณฑ์ประเภทท่อหรือข้อต่อ และสายพานลำเลียง มีการนำเข้า 30.60 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นจากไตรมาส
ที่ 2 ปี 2549 คิดเป็นร้อยละ 14.61 ส่วนผลิตภัณฑ์ประเภทยางวัลแคไนซ์ มีมูลค่าการนำเข้า 88.70 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 19.86 เมื่อ
เทียบกับไตรมาสที่ 2 ปี 2549 และหากเปรียบเทียบกับไตรมาสที่ 3 ปี 2548 มีอัตราการขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 25.99 ส่วนผลิตภัณฑ์ยางอื่น ๆ มี
มูลค่าการนำเข้า 55.70 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นจากไตรมาสที่ 2 ปี 2549 เล็กน้อยคือร้อยละ 5.29 แต่เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสที่ 3 ของปี
2548 มีอัตราขยายตัวเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 47.35
3. สรุปและแนวโน้ม
ภาวะโดยรวมของอุตสาหกรรมยางและผลิตภัณฑ์ยางในไตรมาสที่ 3 ของ ปี 2549 สามารถแบ่งการพิจารณาเป็น 2 ส่วนคือ กลุ่มผู้ผลิต
ยางแปรรูปขั้นต้นหรือผู้ผลิตในกลุ่มต้นน้ำควรจะวางแผนค่าใช้จ่ายของกิจการอย่างรัดกุมเพราะรายรับรวมลดลง เนื่องจากราคายางแปรรูปขั้นต้นที่ได้ปรับ
ตัวลดลงอย่างต่อเนื่องจากที่เคยทำสถิติสูงสุดเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามการส่งออกยางแปรรูปขั้นต้นไปประเทศจีน ญี่ปุ่น ยังอยู่ในเกณฑ์
ขยายตัว นั่นคือตลาดยังมีความต้องการอยู่ ฉะนั้นผู้ผลิตยางแปรรูปขั้นต้นต้องรักษาคุณภาพผลผลิตไว้ให้ดี ส่วนกลุ่มผู้ผลิตผลิตภัณฑ์ยางหรือกลุ่มปลายน้ำ ใน
ไตรมาสที่ 3 นี้คงมีต้นทุนวัตถุดิบลดลง ซึ่งเป็นผลดีและผลจากการที่ราคายางประเภทยางแปรรูปขั้นต้นมีการปรับตัวลดลงนั้นก็ส่งผลให้เกิดการผลิตเพิ่มขึ้น
ในการผลิตผลิตภัณฑ์ยางในเกือบทุกหมวด และเมื่อพิจารณาในส่วนของมูลค่าการส่งออกของกลุ่มผลิตภัณฑ์ยางพบว่า มีการขยายตัวอย่างต่อเนื่องในเกือบ
ทุกรายการยกเว้นผลิตภัณฑ์ยางที่ใช้ทางเภสัชกรรม
สำหรับไตรมาสที่ 4 ปี 2549 แนวโน้มราคายางดิบหรือยางแปรรูปขั้นต้นมีแนวโน้มแกว่งตัวมีการปรับตัวลดลงเล็กน้อยซึ่งจะปรับตัวไปใน
แนวทางเดียวกับราคาน้ำมันในตลาดโลก ประกอบกับเป็นช่วงฤดูกาลผลิตทำให้ปริมาณยางออกสู่ตลาดมากขึ้น อย่างไรก็ตามในภาพรวมแล้วคาดว่าราคา
ยางน่าจะทรงตัวหรือลดลงเล็กน้อยในระดับราคา 55 - 65 บาทต่อกิโลกรัม อันจะเป็นผลดีต่อการส่งออกยางพาราเพราะราคาได้ลดลงมามากจากที่
เคยสูงถึง 100 บาทต่อกิโลกรัม ซึ่งประเทศจีนและญี่ปุ่นยังคงเป็นตลาดส่งออกสำคัญของไทย แต่ในระยะประมาณ 4 - 5 ปีข้างหน้าความต้องการซื้อใน
ตลาดโลกมีแนวโน้มขยายตัวในอัตราลดลง ขึ้นอยู่กับดีมานต์ ซัพพลาย ของตลาดประเทศจีนเป็นหลัก เนื่องจากประเทศจีนได้มีการร่วมลงทุนปลูก
ยางพาราในประเทศเวียดนาม และลาว ในระยะนี้ผู้ผลิตผลิตภัณฑ์ยางยังสามารถวางแผนการผลิตและการจำหน่ายได้ เนื่องจากระดับราคาวัตถุดิบ
เปลี่ยนแปลงไม่มาก แต่อุปสรรคสำคัญของการส่งออกในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2549 คงไม่พ้นความผันผวนของค่าเงินบาทเมื่อเทียบกับเงินดอลล่าร์
สหรัฐที่ปรับตัวแข็งขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้า
--สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม--
-พห-