กรุงเทพ--11 พ.ค.--กระทรวงการต่างประเทศ
นับตั้งแต่ปี 2549 กรมเศรษฐกิจระหว่างประเทศได้เริ่มดำเนินการตามยุทธศาสตร์การสร้างความเชื่อมั่นและยกระดับมาตรฐานรวมถึงตราสัญลักษณ์ฮาลาลของไทยให้เป็นที่ยอมรับในตลาดโลก โดยอาศัยความก้าวหน้าด้านวิทยาศาสตร์ฮาลาล (Halal Science) ซึ่งไทยถือเป็นผู้นำในด้านนี้ ทั้งในภูมิภาคและระดับโลก เป็นจุดแข็งของการดำเนินงาน โดยในช่วงที่ผ่านมา กรมเศรษฐกิจฯ ได้กำหนดประเทศเป้าหมายใน 2 ภูมิภาค ที่ถือเป็นตลาดใหม่ คือ ภูมิภาคอเมริกาเหนือ (สหรัฐอเมริกาและแคนาดา) และสหภาพยุโรป ซึ่งทั้งสองภูมิภาคมีประชากรมุสลิมอาศัยอยู่ประมาณ 6 — 8 ล้านคน และ 12 — 15 ล้านคน ตามลำดับ แม้จะมีจำนวนน้อยเมื่อเทียบประเทศมุสลิมอื่นๆ แต่กลับมีกำลังซื้อของผู้บริโภคสูงมาก โดยปัจจุบันมูลค่าตลาดอาหารฮาลาลในอเมริกาเหนือและยุโรปในแต่ละปีมีประมาณ 1,300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และ 1,800 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ตามลำดับ
สำหรับรูปแบบของการดำเนินโครงการตามยุทธศาสตร์ข้างต้น กรมเศรษฐกิจระหว่างประเทศได้นำคณะผู้บริหารระดับสูงของศูนย์วิทยาศาสตร์ฮาลาล จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และสถาบันมาตรฐานอาหารฮาลาล ภายใต้คณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย พบหารือกับองค์กรมุสลิมชั้นนำที่ให้การตรวจสอบและรับรองฮาลาล รวมทั้งองค์กรศาสนาของประเทศต่างๆ เพื่อสร้างเครือข่ายพันธมิตรกับองค์กรที่มีอิทธิพลในเรื่องฮาลาลต่อกลุ่มผู้บริโภคเพื่อวางรากฐานการยอมรับสินค้าอาหารฮาลาของไทย โดยในปี 2549 ได้ดำเนินการที่สหรัฐอเมริกาและแคนาดา ระหว่างวันที่ 16 — 27 กรกฎาคม 2549 และดำเนินการต่อเนื่องในเยอรมนี ฝรั่งเศส และสหราชอาณาจักร ซึ่งเป็นประเทศเป้าหมายในสหภาพยุโรป เมื่อวันที่ 4- 20 เมษายน 2550
ผลสำเร็จที่เป็นรูปธรรมของการดำเนินโครงการทั้งสอง คือ การลงนามบันทึกความเข้าใจ (MoU) ระหว่างศูนย์วิทยาศาสตร์ฮาลาล จุฬาฯ และสถาบันมาตรฐานอาหารฮาลาลกับองค์กรมุสลิมชั้นนำในประเทศเป้าหมาย เพื่อให้มาตรฐานและตราสัญลักษณ์ฮาลาลของไทยได้รับการยอมรับ และเพื่อการขยายความร่วมมืออย่างเป็นรูปธรรมในอนาคต รวมทั้งสิ้น 10 องค์กร ดังนี้
1. Islamic Food and Nutrition Council of America — IFANCA (สหรัฐฯ)
2. Muslim Consumer Group — MCG (สหรัฐฯ)
3. Islamic Society of North America — ISNA America) (สหรัฐฯ)
4. Islamic Society of North America Canada — ISNA Canada) (แคนาดา)
5. Islamic Food Council of Europe — IFCE (ยุโรป)
6. Halal Control e.K. (เยอรมนี)
7. Certification Halal ภายใต้ Association Culturelle des Musulmans d’Ile de France — Mosquee D’Evry (ฝรั่งเศส)
8. Association Rituelle ภายใต้ Grande Mosquee de Lyon (ฝรั่งเศส)
9. Halal Food Authority - HFA (สหราชอาณาจักร)
10. Muslim Council of Britain - MCB (สหราชอาณาจักร) (จะมีผลบังคับใช้เมื่อผ่านเลขาธิการของ MCB แล้ว)
การลงนาม MoU ดังกล่าวข้างต้นเป็นผลให้มาตรฐานและตราสัญลักษณ์ฮาลาล ของไทยเป็นที่รู้จักและได้รับการยอมรับโดยองค์กรมุสลิมชั้นนำในสหรัฐอเมริกา แคนาดา สหราชอาณาจักร เยอรมนี และฝรั่งเศส ซึ่งเป็นองค์กรที่ทำหน้าที่ตรวจสอบและรับรองฮาลาลในประเทศและภูมิภาคที่ตั้งอยู่ ซึ่งเป็นที่ยอมรับจากทั้งผู้บริโภคและผู้ประกอบการอุตสาหกรรม และเป็นองค์กรศูนย์รวมของชุมชนมุสลิมที่มีอิทธิพลทั้งในเชิงสังคมและการเมือง อีกทั้งยังเป็นการสร้างเครือข่ายพันธมิตรและความร่วมมือระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของไทยกับองค์กรต่างๆ ของประเทศเป้าหมาย เพื่อเสริมบทบาทและภาพลักษณ์ที่แข็งแกร่งของกิจการฮาลาลไทย โดยใช้ความก้าวหน้าด้านวิทยาศาสตร์ฮาลาลเป็นตัวนำ ซึ่งนอกจากจะได้รับการยอมรับจากประเทศมุสลิมเพื่อนบ้านใกล้ชิดของไทย ที่มีความก้าวหน้าในอุตสาหกรรมผลิตอาหารฮาลาล ดังเช่นมาเลเซียแล้ว ยังช่วยให้มิตรประเทศเหล่านี้ปรับยุทธศาสตร์ หันมาเป็นพันธมิตรกับไทย หลังจากที่ไทยประสบความสำเร็จในการสร้างเครือข่ายพันธมิตรระหว่างประเทศในรอบ 1 ปีที่ผ่านมา โดย HDC (Halal Industrial Development Corporation) จะลงนาม MoU กับไทยในเดือน พ.ค. ศกนี้
นอกจากนั้น คณะยังได้หารือกับผู้นำเข้าและห้างสรรพสินค้ารายใหญ่ อาทิ ห้าง Sainsbury’s และห้าง Tesco ของสหราชอาณาจักร ซึ่งทั้งสองห้างต่างสนใจจะนำเข้าผลิตภัณฑ์อาหารฮาลาลไทยเพิ่มขึ้น และในอนาคตอาจพิจารณาจัดบางส่วนของห้างไว้เฉพาะสำหรับอาหารฮาลาล โดยจะดำเนินการในรายละเอียดต่อไป
ในรอบ 1 ปีที่ได้ดำเนินโครงการเจาะตลาดอาหารฮาลาลเชิงรุกในภูมิภาคอเมริกาเหนือและยุโรปมีการต่อยอดและขยายผลโดยกระทรวงฯ และส่วนราชการที่เกี่ยวข้องของไทย ทั้งที่ใช้ประโยชน์จาก MoU โดยตรงและการจัดกิจกรรมเสริม อาทิ สำนักงานที่ปรึกษาเกษตรต่างประเทศ ประจำกรุงวอชิงตัน ได้จัดทำโครงการศึกษากฎระเบียบ มาตรฐานและระบบตรวจสอบและรับรองสินค้าอาหารฮาลาลในทวีปอเมริกาเหนือ และสถานเอกอัครราชทูต และสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงออตตาวา ได้จัดสัมมนาธุรกิจไทย-แคนาดาและแคริบเบียน ซึ่งรวมเรื่องฮาลาลเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของการสัมมนาด้วย
ความสำเร็จของการดำเนินการตามยุทธศาสตร์การสร้างความเชื่อมั่นและยกระดับมาตรฐานรวมถึงตราสัญลักษณ์ฮาลาลของไทยให้เป็นที่ยอมรับในตลาดโลกจึงถือเป็นการปูพื้นฐานที่มั่นคงสำหรับการขยายตลาดสินค้าอาหารฮาลาลของไทยในอนาคต ซึ่งส่วนราชการทีเกี่ยวข้องจะได้ขยายผลต่อไป
สามารถอ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ เว็บไซต์ ศูนย์วิทยาศาสตร์ฮาลาล จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย www.halalscience.org
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5170 โทรสาร. 643-5169 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--
-พห-
นับตั้งแต่ปี 2549 กรมเศรษฐกิจระหว่างประเทศได้เริ่มดำเนินการตามยุทธศาสตร์การสร้างความเชื่อมั่นและยกระดับมาตรฐานรวมถึงตราสัญลักษณ์ฮาลาลของไทยให้เป็นที่ยอมรับในตลาดโลก โดยอาศัยความก้าวหน้าด้านวิทยาศาสตร์ฮาลาล (Halal Science) ซึ่งไทยถือเป็นผู้นำในด้านนี้ ทั้งในภูมิภาคและระดับโลก เป็นจุดแข็งของการดำเนินงาน โดยในช่วงที่ผ่านมา กรมเศรษฐกิจฯ ได้กำหนดประเทศเป้าหมายใน 2 ภูมิภาค ที่ถือเป็นตลาดใหม่ คือ ภูมิภาคอเมริกาเหนือ (สหรัฐอเมริกาและแคนาดา) และสหภาพยุโรป ซึ่งทั้งสองภูมิภาคมีประชากรมุสลิมอาศัยอยู่ประมาณ 6 — 8 ล้านคน และ 12 — 15 ล้านคน ตามลำดับ แม้จะมีจำนวนน้อยเมื่อเทียบประเทศมุสลิมอื่นๆ แต่กลับมีกำลังซื้อของผู้บริโภคสูงมาก โดยปัจจุบันมูลค่าตลาดอาหารฮาลาลในอเมริกาเหนือและยุโรปในแต่ละปีมีประมาณ 1,300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และ 1,800 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ตามลำดับ
สำหรับรูปแบบของการดำเนินโครงการตามยุทธศาสตร์ข้างต้น กรมเศรษฐกิจระหว่างประเทศได้นำคณะผู้บริหารระดับสูงของศูนย์วิทยาศาสตร์ฮาลาล จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และสถาบันมาตรฐานอาหารฮาลาล ภายใต้คณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย พบหารือกับองค์กรมุสลิมชั้นนำที่ให้การตรวจสอบและรับรองฮาลาล รวมทั้งองค์กรศาสนาของประเทศต่างๆ เพื่อสร้างเครือข่ายพันธมิตรกับองค์กรที่มีอิทธิพลในเรื่องฮาลาลต่อกลุ่มผู้บริโภคเพื่อวางรากฐานการยอมรับสินค้าอาหารฮาลาของไทย โดยในปี 2549 ได้ดำเนินการที่สหรัฐอเมริกาและแคนาดา ระหว่างวันที่ 16 — 27 กรกฎาคม 2549 และดำเนินการต่อเนื่องในเยอรมนี ฝรั่งเศส และสหราชอาณาจักร ซึ่งเป็นประเทศเป้าหมายในสหภาพยุโรป เมื่อวันที่ 4- 20 เมษายน 2550
ผลสำเร็จที่เป็นรูปธรรมของการดำเนินโครงการทั้งสอง คือ การลงนามบันทึกความเข้าใจ (MoU) ระหว่างศูนย์วิทยาศาสตร์ฮาลาล จุฬาฯ และสถาบันมาตรฐานอาหารฮาลาลกับองค์กรมุสลิมชั้นนำในประเทศเป้าหมาย เพื่อให้มาตรฐานและตราสัญลักษณ์ฮาลาลของไทยได้รับการยอมรับ และเพื่อการขยายความร่วมมืออย่างเป็นรูปธรรมในอนาคต รวมทั้งสิ้น 10 องค์กร ดังนี้
1. Islamic Food and Nutrition Council of America — IFANCA (สหรัฐฯ)
2. Muslim Consumer Group — MCG (สหรัฐฯ)
3. Islamic Society of North America — ISNA America) (สหรัฐฯ)
4. Islamic Society of North America Canada — ISNA Canada) (แคนาดา)
5. Islamic Food Council of Europe — IFCE (ยุโรป)
6. Halal Control e.K. (เยอรมนี)
7. Certification Halal ภายใต้ Association Culturelle des Musulmans d’Ile de France — Mosquee D’Evry (ฝรั่งเศส)
8. Association Rituelle ภายใต้ Grande Mosquee de Lyon (ฝรั่งเศส)
9. Halal Food Authority - HFA (สหราชอาณาจักร)
10. Muslim Council of Britain - MCB (สหราชอาณาจักร) (จะมีผลบังคับใช้เมื่อผ่านเลขาธิการของ MCB แล้ว)
การลงนาม MoU ดังกล่าวข้างต้นเป็นผลให้มาตรฐานและตราสัญลักษณ์ฮาลาล ของไทยเป็นที่รู้จักและได้รับการยอมรับโดยองค์กรมุสลิมชั้นนำในสหรัฐอเมริกา แคนาดา สหราชอาณาจักร เยอรมนี และฝรั่งเศส ซึ่งเป็นองค์กรที่ทำหน้าที่ตรวจสอบและรับรองฮาลาลในประเทศและภูมิภาคที่ตั้งอยู่ ซึ่งเป็นที่ยอมรับจากทั้งผู้บริโภคและผู้ประกอบการอุตสาหกรรม และเป็นองค์กรศูนย์รวมของชุมชนมุสลิมที่มีอิทธิพลทั้งในเชิงสังคมและการเมือง อีกทั้งยังเป็นการสร้างเครือข่ายพันธมิตรและความร่วมมือระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของไทยกับองค์กรต่างๆ ของประเทศเป้าหมาย เพื่อเสริมบทบาทและภาพลักษณ์ที่แข็งแกร่งของกิจการฮาลาลไทย โดยใช้ความก้าวหน้าด้านวิทยาศาสตร์ฮาลาลเป็นตัวนำ ซึ่งนอกจากจะได้รับการยอมรับจากประเทศมุสลิมเพื่อนบ้านใกล้ชิดของไทย ที่มีความก้าวหน้าในอุตสาหกรรมผลิตอาหารฮาลาล ดังเช่นมาเลเซียแล้ว ยังช่วยให้มิตรประเทศเหล่านี้ปรับยุทธศาสตร์ หันมาเป็นพันธมิตรกับไทย หลังจากที่ไทยประสบความสำเร็จในการสร้างเครือข่ายพันธมิตรระหว่างประเทศในรอบ 1 ปีที่ผ่านมา โดย HDC (Halal Industrial Development Corporation) จะลงนาม MoU กับไทยในเดือน พ.ค. ศกนี้
นอกจากนั้น คณะยังได้หารือกับผู้นำเข้าและห้างสรรพสินค้ารายใหญ่ อาทิ ห้าง Sainsbury’s และห้าง Tesco ของสหราชอาณาจักร ซึ่งทั้งสองห้างต่างสนใจจะนำเข้าผลิตภัณฑ์อาหารฮาลาลไทยเพิ่มขึ้น และในอนาคตอาจพิจารณาจัดบางส่วนของห้างไว้เฉพาะสำหรับอาหารฮาลาล โดยจะดำเนินการในรายละเอียดต่อไป
ในรอบ 1 ปีที่ได้ดำเนินโครงการเจาะตลาดอาหารฮาลาลเชิงรุกในภูมิภาคอเมริกาเหนือและยุโรปมีการต่อยอดและขยายผลโดยกระทรวงฯ และส่วนราชการที่เกี่ยวข้องของไทย ทั้งที่ใช้ประโยชน์จาก MoU โดยตรงและการจัดกิจกรรมเสริม อาทิ สำนักงานที่ปรึกษาเกษตรต่างประเทศ ประจำกรุงวอชิงตัน ได้จัดทำโครงการศึกษากฎระเบียบ มาตรฐานและระบบตรวจสอบและรับรองสินค้าอาหารฮาลาลในทวีปอเมริกาเหนือ และสถานเอกอัครราชทูต และสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงออตตาวา ได้จัดสัมมนาธุรกิจไทย-แคนาดาและแคริบเบียน ซึ่งรวมเรื่องฮาลาลเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของการสัมมนาด้วย
ความสำเร็จของการดำเนินการตามยุทธศาสตร์การสร้างความเชื่อมั่นและยกระดับมาตรฐานรวมถึงตราสัญลักษณ์ฮาลาลของไทยให้เป็นที่ยอมรับในตลาดโลกจึงถือเป็นการปูพื้นฐานที่มั่นคงสำหรับการขยายตลาดสินค้าอาหารฮาลาลของไทยในอนาคต ซึ่งส่วนราชการทีเกี่ยวข้องจะได้ขยายผลต่อไป
สามารถอ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ เว็บไซต์ ศูนย์วิทยาศาสตร์ฮาลาล จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย www.halalscience.org
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5170 โทรสาร. 643-5169 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--
-พห-