ไทย พร้อม เจรจา FTA กับอินเดีย หวังกระตุ้นการค้าการลงทุนของทั้ง 2 ฝ่าย ด้านสินค้าเกษตรไทย ได้รับความสนใจจากผู้นำเข้าสูง เตรียมเจรจาเปิดตลาดสินค้าให้ไทย หวังขยายการส่งออก คาดได้ข้อสรุปกรกฎาคม นี้
นายมณฑล เจียมเจริญ รองเลขาธิการและโฆษกสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า ในปี 2549 ที่ผ่านมา ไทยส่งออกสินค้าเกษตรหลัก ไปอินเดียมูลค่าสูงถึง 2,400 ล้านบาท โดยสินค้าส่งออกที่สำคัญได้แก่ น้ำมันปาล์ม อาหารสัตว์ หมาก อาหารปรุงแต่ง กล้วยไม้ และเมล็ดพันธุ์ผัก เป็นต้น ซึ่งในปัจจุบัน อินเดียยังมีอัตราภาษีนำเข้าของสินค้าเกษตรที่ค่อนข้างสูง โดยสินค้าหลายรายการได้เรียกเก็บภาษีสูงถึง 100% ดังนั้น หากไทยสามารถเจรจาให้อินเดียเปิดตลาดสินค้าให้แก่ไทย ก็จะสามารถส่งผลให้ขยายการส่งออกได้เพิ่มขึ้น โดยทาง สศก. ได้จัดทำท่าทีการเจรจา ซึ่งได้ร่วมพิจารณากับผู้ที่เกี่ยวข้องเพื่อเจรจารองรับในเชิงรุกไว้พร้อมแล้ว ซึ่งตลาดอินเดีย ถือว่าเป็นตลาดที่ใหญ่และน่าสนใจเป็นอย่างมาก
นายมณฑล กล่าวเพิ่มเติมว่า ปีนี้เป็นปีที่ครบรอบ 60 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูต ไทย — อินเดีย จึงได้มีการจัดประชุมเพื่อกระชับความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจ การค้าและการลงทุนไทย - อินเดีย ซึ่งคณะเดินทางทั้งภาครัฐและเอกชน นำโดยนายเกริกไกร จีระแพทย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้เข้าร่วมประชุม 2 ฝ่ายกับ Mr.Kamal Nath รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์และอุตสาหกรรมของอินเดีย ผลปรากฏว่า ทั้ง 2 ฝ่ายได้ตั้งเป้าสรุปการเจรจา FTA ให้แล้วเสร็จภายในเดือนกรกฎาคม 2550 ซึ่งคาดว่าจะสามารถกระตุ้นการค้าและการลงทุนของทั้ง 2 ฝ่าย โดยจากผลการเจรจาธุรกิจระหว่างไทยและอินเดีย พบว่า สินค้าเกษตรของไทยที่ได้รับความสนใจจากนักธุรกิจและผู้นำเข้าอินเดีย ได้แก่ อาหารกระป๋อง อาหารสำเร็จรูป เครื่องปรุงรส และผลไม้สด
--สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร--
-พห-
นายมณฑล เจียมเจริญ รองเลขาธิการและโฆษกสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า ในปี 2549 ที่ผ่านมา ไทยส่งออกสินค้าเกษตรหลัก ไปอินเดียมูลค่าสูงถึง 2,400 ล้านบาท โดยสินค้าส่งออกที่สำคัญได้แก่ น้ำมันปาล์ม อาหารสัตว์ หมาก อาหารปรุงแต่ง กล้วยไม้ และเมล็ดพันธุ์ผัก เป็นต้น ซึ่งในปัจจุบัน อินเดียยังมีอัตราภาษีนำเข้าของสินค้าเกษตรที่ค่อนข้างสูง โดยสินค้าหลายรายการได้เรียกเก็บภาษีสูงถึง 100% ดังนั้น หากไทยสามารถเจรจาให้อินเดียเปิดตลาดสินค้าให้แก่ไทย ก็จะสามารถส่งผลให้ขยายการส่งออกได้เพิ่มขึ้น โดยทาง สศก. ได้จัดทำท่าทีการเจรจา ซึ่งได้ร่วมพิจารณากับผู้ที่เกี่ยวข้องเพื่อเจรจารองรับในเชิงรุกไว้พร้อมแล้ว ซึ่งตลาดอินเดีย ถือว่าเป็นตลาดที่ใหญ่และน่าสนใจเป็นอย่างมาก
นายมณฑล กล่าวเพิ่มเติมว่า ปีนี้เป็นปีที่ครบรอบ 60 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูต ไทย — อินเดีย จึงได้มีการจัดประชุมเพื่อกระชับความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจ การค้าและการลงทุนไทย - อินเดีย ซึ่งคณะเดินทางทั้งภาครัฐและเอกชน นำโดยนายเกริกไกร จีระแพทย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้เข้าร่วมประชุม 2 ฝ่ายกับ Mr.Kamal Nath รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์และอุตสาหกรรมของอินเดีย ผลปรากฏว่า ทั้ง 2 ฝ่ายได้ตั้งเป้าสรุปการเจรจา FTA ให้แล้วเสร็จภายในเดือนกรกฎาคม 2550 ซึ่งคาดว่าจะสามารถกระตุ้นการค้าและการลงทุนของทั้ง 2 ฝ่าย โดยจากผลการเจรจาธุรกิจระหว่างไทยและอินเดีย พบว่า สินค้าเกษตรของไทยที่ได้รับความสนใจจากนักธุรกิจและผู้นำเข้าอินเดีย ได้แก่ อาหารกระป๋อง อาหารสำเร็จรูป เครื่องปรุงรส และผลไม้สด
--สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร--
-พห-