กรุงเทพ--16 ส.ค--กระทรวงการต่างประเทศ
เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2550 นายธฤต จรุงวัฒน์ อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงข่าวประจำสัปดาห์ ณ ห้องแถลงข่าว กระทรวงการต่างประเทศ มีผู้สื่อข่าวจากสำนักข่าว หนังสือพิมพ์ และสถานีโทรทัศน์ เข้าร่วมรับฟังและซักถามในประเด็นต่าง ๆ สรุปสาระสำคัญได้ ดังนี้
1. โครงการให้ความช่วยเหลือแทนซาเนียเรื่องการสาธิตการทำฝนหลวง
เมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 2550 นายวีระศักดิ์ ฟูตระกูล ปลัดกระทรวงการต่างประเทศได้เป็นประธานคณะทำงานโครงการให้ความช่วยเหลือแทนซาเนียเรื่องการสาธิตการทำฝนหลวง เพื่อกำหนดวันและรายละเอียดต่าง ๆ ที่ผู้เชี่ยวชาญไทยจากสำนักฝนหลวงและการบินเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และจากกระทรวงการต่างประเทศ จะเดินทางไปยังแทนซาเนียเพื่อศึกษาสภาพภูมิประเทศ ภูมิอากาศ รวมทั้งรวบรวมข้อมูลสถิต เพื่อประเมินความเป็นไปได้ของการทำฝนหลวงในพื้นที่แห้งแล้งของแทนซาเนีย
เรื่องดังกล่าวมีความสำคัญ เนื่องจากเป็นโครงการให้ความช่วยเหลือในประเทศแอฟริกาที่ประเทศไทยจะได้เผยแพร่เทคโนโลยีเรื่องการทำฝนหลวง โดยกระทรวงการต่างประเทศได้จัดโครงการดังกล่าวขึ้นสืบเนื่องจากการเยือนของนาย Edward N. Lowassa นายกรัฐมนตรีแทนซาเนีย เมื่อเดือนกันยายน 2549 ซึ่งได้แสดงความสนใจต่อนโยบายการพัฒนาของไทย การพัฒนาภาคเกษตรกรรม และโดยเฉพาะอย่างยิ่งเทคโนโลยีการทำฝนหลวง เนื่องจากแทนซาเนียและประเทศอื่น ๆ ในภูมิภาคแอฟริกาตะวันออกได้ประสบภาวะแห้งแล้งมาตั้งแต่ปี 2548
เนื่องจากเทคโนโลยีการทำฝนหลวงเป็นองค์ความรู้และทรัพย์สินทางปัญญาในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว กระทรวงการต่างประเทศจึงได้ทำหนังสือถึงสำนักราชเลขาธิการเพื่อขอให้นำความประสงค์ของรัฐบาลแทนซาเนียกราบบังคมทูลพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และได้ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณพระราชทานพระบรมราชานุญาตและพระราชวินิจฉัยเพื่อให้การดำเนินการให้ความช่วยเหลือแทนซาเนียเป็นไปด้วยดี
2. ไทยเข้าร่วมการประชุมระดับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ครั้งที่ 3 ของเวทีความร่วมมือระหว่างเอเชียตะวันออกและลาตินอเมริกา (Forum for East Asia—Latin America Cooperation - FEALAC) ระหว่างวันที่ 22 — 23 สิงหาคม 2550 ณ กรุงบราซิเลีย สหพันธ์สาธารณรัฐบราซิล
นายสวนิต คงสิริ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ จะเป็นหัวหน้าคณะผู้แทนไทยเข้าร่วมการประชุมระดับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ครั้งที่ 3 ของเวทีความร่วมมือระหว่างเอเชียตะวันออกและลาตินอเมริกา (Forum for East Asia—Latin America Cooperation : FEALAC) ณ กรุงบราซิเลีย สหพันธ์สาธารณรัฐบราซิล ระหว่างวันที่ 22 — 23 สิงหาคม 2550 โดยจะมีรัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศของประเทศสมาชิก FEALAC จากทั้งสองภูมิภาค จำนวน 32 ประเทศ และจากสาธารณรัฐโดมินิกันซึ่งจะเข้าเป็นสมาชิกใหม่เข้าร่วมการประชุมครั้งนี้ โดยหัวข้อหลักของการประชุมครั้งนี้ได้แก่เรื่องโอกาสทางการค้าและการลงทุนระหว่างสองภูมิภาค (Bi-regional Trade and Investment Opportunities)
ภายหลังการประชุม บราซิลจะจัดให้รัฐมนตรีของประเทศสมาชิกเดินทางไปเยี่ยมชมโรงงานเอทานอลของบราซิลในรัฐเซา เปาโล เพื่อการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ด้านนี้ระหว่างประเทศสมาชิกด้วย นอกจากนี้ บราซิลจะจัดกิจกรรมคู่ขนานกับการประชุมภาครัฐ ได้แก่ การประชุมและการพบหารือทางธุรกิจ และการสัมมนาทางวิชาการ เรื่อง ระบบโลจิสติกส์ การพัฒนาอย่างยั่งยืน พลังงานทดแทน และการมีส่วนร่วมของวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมในเวทีระหว่างประเทศ ระหว่างวันที่ 20 — 24 สิงหาคม 2550 ใน 4 เมืองสำคัญของบราซิล ได้แก่ กรุงบราซิเลีย นครเซาเปาโล นครริโอ เดอ จาเนโร และนครเบโล ฮอริ
FEALAC เป็นเวทีเพื่อส่งเสริมความเข้าใจและความร่วมมือระหว่างภูมิภาคเอเชียตะวันออกและลาตินอเมริกาในทุกด้าน รวมถึงการเมือง เศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม วิชาการ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โดยเน้นการดำเนินโครงการความร่วมมือระหว่างประเทศสมาชิกเป็นหลัก ปัจจุบันมีสมาชิก 32 ประเทศ เป็นฝ่ายเอเชีย 15 ประเทศ ได้แก่ อาเซียน จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ และฝ่ายลาตินอเมริกา 17 ประเทศ ได้แก่ อาร์เจนตินา บราซิล โบลิเวีย โคลอมเบีย ชิลี เอกวาดอร์ เม็กซิโก ปารากวัย เปรู ปานามา เอลซัลวาดอร์ คอสตาริกา คิวบา อุรุกวัย เวเนซุเอลา นิคารากัว และกัวเตมาลา และจะเพิ่มประเทศสมาชิกฝ่ายลาตินอเมริกาอีกหนึ่งประเทศ ได้แก่ สาธารณรัฐโดมินิกัน
3. กระทรวงการต่างประเทศสนับสนุนสมาคมกอรีแห่งประเทศไทยในการส่งนักกอรีไทยเข้าแข่งขันการอ่านคัมภีร์อัลกุรอ่านระหว่างประเทศ
เมื่อวันที่ 14 สิงหาคม 2550 อิหม่ามสนิท เอี่ยมฤทธิ์ นายกสมาคมกอรีแห่งประเทศไทย ในฐานะผู้แทนจุฬาราชมนตรี ได้นำนักกอรีทีมชาติไทยที่จะเดินทางไปแข่งขันการอ่านคัมภีร์อัลกุรอ่านระหว่างประเทศ ครั้งที่ 49 ซึ่งมาเลเซียจะเป็นเจ้าภาพจัดขึ้น ระหว่างวันที่ 16-22 สิงหาคม 2550 ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ เข้าพบอธิบดีกรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ เพื่อแจ้งรายละเอียดของการเดินทางไปร่วมการแข่งขันการอ่านพระคัมภีร์อัลกุรอ่านดังกล่าว ทั้งนี้กระทรวงการต่างประเทศเห็นว่าการเข้าร่วมการแข่งขันของนักกอรีไทยตลอดเวลาที่ผ่านมา แสดงให้เห็นถึงมาตรฐานทางวิชาการของนักกอรีไทยที่เป็นที่ยอมรับในระดับโลก และสภาพของสังคมไทยอันมีเสรีภาพ/เปิดกว้างในการนับถือศาสนา
กระทรวงการต่างประเทศให้การสนับสนุนสมาคมในการเข้าร่วมการแข่งขันในครั้งนี้ โดยกระทรวงฯ ถือเป็นการส่งเสริมกิจกรรมหนึ่งของคนไทยที่ไปสร้างชื่อเสียงในต่างประเทศ ทั้งนี้ กระทรวงฯ ได้ให้การสนับสนุนผู้ฝึกสอน (coach) ของสมาคมกอรีแห่งประเทศไทยร่วมเดินทางไปกับคณะเพื่อเสริมการสนับสนุนจากกระทรวงมหาดไทยและกระทรวงวัฒนธรรมที่สนับสนุนองค์ประกอบอื่น ๆ ในคณะของไทยที่เดินทางไปร่วมการแข่งขันครั้งนี้นอกจากนี้ ฯพณฯ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศจะได้ให้การสนับสนุนถ้วยรางวัลในการประกวดนักกอรีประจำปีในงานเมาลิดกลางในประเทศไทยซึ่งจะจัดขึ้นในช่วงปลายปี พ.ศ. 2550 (ฮ.ศ. 1428) อีกด้วย
4. กระทรวงการต่างประเทศส่งหน่วยหนังสือเดินทางเคลื่อนที่ไปบริการประชาชนในต่างจังหวัด
กรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศได้จัดหน่วยหนังสือเดินทางเคลื่อนที่ไปให้บริการประชาชนในพื้นที่จังหวัดต่าง ๆ เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ที่ไม่สะดวกในการเดินทางมารับบริการ ณ กองหนังสือเดินทางในกรุงเทพฯ หรือ สำนักงานหนังสือเดินทางในจังหวัดต่าง ๆ
ในเดือนสิงหาคม 2550 กรมการกงสุลจะส่งหน่วยหนังสือเดินทางออกให้บริการประชาชน ดังนี้
1. จังหวัดเพชรบูรณ์ : ระหว่างวันที่ 15-17 สิงหาคม 2550 ณ หอประชุมชาญอนุสรณ์เทศบาลเมืองเพชรบูรณ์
2. จังหวัดอุตรดิตถ์ : ระหว่างวันที่ 27-29 สิงหาคม 2550 ณ ศาลาประชาคม
3. จังหวัดชัยภูมิ : ระหว่างวันที่ 31 สิงหาคม และ 3-5 กันยายน 2550 ณ ศาลาประชาคม
5. ข่าวแจ้งเตือนคนไทย: คนไทยที่ถูกจับกุมในข้อหาลักลอบนำยาเสพติดเข้าจีนอาจถูกประหารชีวิต
ด้วยกระทรวงการต่างประเทศได้รับรายงานจากสถานกงสุลใหญ่ไทยประจำเมืองต่าง ๆ ในประเทศจีนว่าในช่วงที่ผ่านมา ทางการจีนสามารถจับกุมชาวไทยที่ร่วมขบวนการค้ายาเสพติดที่ลักลอบนำยาเสพติดเดินทางเข้าไปในประเทศจีนได้อย่างต่อเนื่อง และล่าสุดสถานกงสุลใหญ่ ณ นครคุนหมิง รายงานว่า เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม 2550 รองกงสุลใหญ่ และจนท.กงสุล ได้เดินทางเข้าเยี่ยมผู้ต้องหาชาวไทยสองคนที่ถูกจับกุมในข้อหาลักลอบนำยาเสพติดเข้าประเทศ และได้นำตัวไปคุมขังที่เรือนจำที่สอง นครคุนหมิง จากการประสานงานกับฝ่ายจีนทราบว่า ผู้ต้องหาทั้งสองอาจจะได้รับโทษจำคุกตลอดชีวิต เนื่องจากได้ลักลอบนำยาเสพติดเข้าจีนเป็นจำนวนมากกว่า 50 กรัม ทั้งนี้ ผู้ต้องหาทั้งสองมีความเป็นอยู่ในเรือนจำที่ค่อนข้างลำบาก เนื่องจากสภาพของเรือนจำ ข้อจำกัดด้านภาษาและสุขภาพส่วนตัว
ในปี 2550 กระทรวงฯ ได้ประกาศแจ้งเตือนเรื่องนี้แล้ว 3 ครั้ง และขอแจ้งเตือนอีกครั้งให้ชาวไทยได้ทราบถึงบทลงโทษที่รุนแรงของกฎหมายจีนเกี่ยวกับการลักลอบค้ายาเสพติดว่ามีบทลงโทษสูงสุด คือ การประหารชีวิต ที่ผ่านมากระบวนการลักลอบนำยาเสพติดเข้าประเทศจีนมักใช้หญิงไทยเข้าร่วมกับกลุ่มผู้ค้ายาเสพติดจากแอฟริกา โดยชาวไทยบางคนรู้เท่าไม่ถึงการณ์หรือเห็นแก่เงินค่าจ้างวานให้ดำเนินการและเมื่อถูกจับกุมแล้วต้องรับโทษสถานหนัก
ทั้งนี้ ในปี 2549 มีคนไทยถูกจับกุมในข้อหาลักลอบนำยาเสพติด (เฮโรอีน) เข้าประเทศจีน 20 ราย และตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม — 31 กรกฎาคม 2550 มีคนไทยถูกจับกุมไปแล้ว 42 ราย จึงขอย้ำเตือนให้คนไทยไม่ให้ลักลอบนำยาเสพติดเข้าประเทศจีน และระมัดระวังไม่ให้ถูกหลอกเข้าร่วมขบวนการณ์โดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์
6. สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโตเกียว จัดงาน Fujikyu Thailand Festival ครั้งที่ 2
สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโตเกียว ร่วมกับบริษัท Fuji Kyoko จัดงาน Fujikyu Thailand Festival ครั้งที่ 2 ณ สวนสนุกฟูจิคิว จังหวัดยามานาชิ ระหว่างวันที่ 28 กรกฎาคม — 26 สิงหาคม 2550
ในปี พ.ศ. 2550 นี้ งาน Fujikyu Thailand Festival ถือเป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมร่วมเฉลิมฉลองความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-ญี่ปุ่น ครบรอบ 120 ปี อีกด้วย โดยบริษัท Fuji Kyoko และบริษัทในเครือได้จัดงาน Fujikyu Thailand Festival อีกงานหนึ่ง ณ Hatsushima Island Resort เกาะฮัตซูชิมา จ.ชิซูโอกะ ระหว่างวันที่ 21 กรกฎาคม — 31 สิงหาคม 2550 เพื่อร่วมเฉลิมฉลองวาระพิเศษครั้งนี้ โดยการจัดงานทั้งสองแห่งนี้ นับเป็นการจัดงานที่ยาวนานที่สุดที่เคยจัดในประเทศญี่ปุ่น
สถานเอกอัครราชทูตฯ และบริษัท Fuji Kyoko ได้จัดงาน Fujikyu Thailand Festival ครั้งแรก เมื่อปี พ.ศ. 2549 ซึ่งประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก มีผู้เข้าร่วมชมงานเทศกาลไทยกว่า 300,000 คน ในช่วงระยะเวลา 1 เดือนของการจัดงาน ซึ่งตรงกับช่วงปิดเทอมฤดูร้อนของญี่ปุ่น
นอกจากนั้น ในช่วงเทศกาลไหว้บรรพบุรุษของญี่ปุ่น ระหว่างวันที่ 14 — 16 สิงหาคม 2550 สถานเอกอัครราชทูตฯ ได้เชิญเยาวชนโครงการแฟนต้ายุวทูต ร่วมสาธิตวัฒนธรรมไทยในงานเทศกาลดังกล่าว ทั้งนี้ ผู้สนใจสามารถเข้าชมรายละเอียดและภาพกิจกรรมได้ที่ www.thaiembassy.jp
ในปี 2550 นี้ สถานเอกอัครราชทูตฯ ได้จัดกิจกรรมต่าง ๆ มากมายในประเทศญี่ปุ่น เพื่อร่วมเฉลิมฉลองความสัมพันธ์ทางการทูต ครบรอบ 120 ปี และเพื่อส่งเสริมความเข้าใจอันดีระหว่างประชาชนไทย-ญี่ปุ่น อาทิ งานเทศกาลไทย ณ สวนสาธารณะโยโยงิ โตเกียว การจัดงานสัปดาห์ไทย ณ พิพิธภัณฑ์นวัตกรรมและวิทยาศาสตร์แห่งอนาคต กรุงโตกียว การจัดแสดงศิลปะ ภาพยนต์ และดนตรีจากประเทศไทย นอกจากนี้ สถานเอกอัครราชทูตฯ ยังมีโครงการจัดกิจกรรมเฉลิมฉลองอีกตลอดปีนี้ โดยในเดือนกันยายนที่จะถึงนี้ จะมีพิธีมอบศาลาไทย ณ สวนสาธารณะอูเอโนะ กรุงโตเกียว และจำหน่ายตราไปรษณียกรที่ระลึกในโอกาสเฉลิมฉลองนี้ด้วย
7. สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงฮานอย จัดงานนิทรรศการประเทศไทย (Thailand Exhibition 2007)
กระทรวงการต่างประเทศ โดยสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงฮานอย ร่วมกับสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ จะจัดนิทรรศการประเทศไทย หรือ Thailand Exhibition 2007 ที่ Van Ho Exhibition Centre กรุงฮานอย ประเทศเวียดนาม ระหว่างวันที่ 22 — 25 สิงหาคม 2550
การจัดงานนิทรรศการดังกล่าว จะช่วยส่งเสริมภาพลักษณ์และศักยภาพของไทยในด้านต่าง ๆ ทั้งเศรษฐกิจ การค้า การท่องเที่ยว และวัฒนธรรม รวมทั้งสถาบันพระมหากษัตริย์ของไทย ให้เป็นที่รับรู้ต่อสาธารณชนชาวเวียดนาม ในขณะเดียวกัน ภาคเอกชนไทยที่เข้าร่วมนิทรรศการในครั้งนี้ จะได้ทราบถึงศักยภาพทางเศรษฐกิจของประเทศเวียดนาม ซึ่งภายในงานจะมีการนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับลู่ทางด้านการค้า/การลงทุนของนักธุรกิจไทยในเวียดนาม ทั้งนี้ กิจกรรมภายในงานจะประกอบด้วย การจัดนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในโอกาสเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษาแล้ว การจัดแสดงนิทรรศการเกี่ยวกับประเทศไทย การจัดแสดงสินค้าไทย การส่งเสริมการท่องเที่ยวไทย การแสดงนาฏศิลป์ไทย และการพบปะเจรจาของนักธุรกิจ ทั้งสองประเทศ ในการนี้ นักธุรกิจจากประเทศไทยและที่อาศัยอยู่ในเวียดนามจะเข้าร่วมงานแสดงสินค้ากว่า 100 บริษัท และคาดว่าจะมีผู้เข้าชมงานกว่า 50,000 คน
8. โครงการทันตกรรมเคลื่อนที่เพื่อนักศึกษาและคนไทยในอียิปต์
กระทรวงการต่างประเทศ โดยสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงไคโร ร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข และมูลนิธิอาสาสมเด็จพระศรีนครินทร์ทราบรมราชชนนี จัดโครงการทันตกรรมเคลื่อนที่เพื่อนักศึกษาและคนไทยในอียิปต์ขึ้น ระหว่างวันที่ 6 — 11 สิงหาคม 2550 ที่ทำเนียบเอกอัครราชทูตฯ
โครงการนี้เป็นกิจกรรมต่อเนื่องที่สถานเอกอัครราชทูตฯ ได้จัดขึ้นเพื่อส่งเสริมสุขภาพนักศึกษาและคนไทยในอียิปต์ และเป็นครั้งแรกที่มีการจัดบริการทันตกรรมเคลื่อนที่ในต่างประเทศ โดยคณะทันตแพทย์จะให้บริการตรวจรักษาเบื้องต้น เช่น ถอนฟัน อุดฟัน ขูดหินปูน และการตรวจสภาพทั่วไปในช่องปาก รวมทั้งให้คำปรึกษาแนะนำเกี่ยวกับการรักษาสุขภาพฟัน มีนักศึกษาและคนไทยประมาณ 200 คน เข้ารับบริการครั้งนี้
9. สถานกงสุลใหญ่ ณ นครลอสแอนเจลิส จัดกิจกรรมส่งเสริมการอยู่ดีมีสุขของคนไทยในต่างประเทศ
กระทรวงการต่างประเทศ โดยสถานกงสุลใหญ่ ณ นครลอสแอนเจลิส ร่วมกับหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนจัดกิจกรรมเพื่อส่งเสริมการอยู่ดีมีสุขของคนไทยในสหรัฐอมเริกาอย่างต่อเนื่อง โดยในครึ่งแรกของปี 2550 สถานกงสุลใหญ่ฯ ได้จัดกิจกรรมต่าง ๆ แล้ว 3 กิจกรรม ได้แก่ โครงการพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุไทย โครงการอบรมอาสาสมัครเพื่อให้คำปรึกษาด้านสุขภาพจิตแก่ชุมชนไทย และโครงการให้ความรู้ทางกฎหมายแก่ชุมชนไทย
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5170 โทรสาร. 643-5169 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--
-พห-
เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2550 นายธฤต จรุงวัฒน์ อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงข่าวประจำสัปดาห์ ณ ห้องแถลงข่าว กระทรวงการต่างประเทศ มีผู้สื่อข่าวจากสำนักข่าว หนังสือพิมพ์ และสถานีโทรทัศน์ เข้าร่วมรับฟังและซักถามในประเด็นต่าง ๆ สรุปสาระสำคัญได้ ดังนี้
1. โครงการให้ความช่วยเหลือแทนซาเนียเรื่องการสาธิตการทำฝนหลวง
เมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 2550 นายวีระศักดิ์ ฟูตระกูล ปลัดกระทรวงการต่างประเทศได้เป็นประธานคณะทำงานโครงการให้ความช่วยเหลือแทนซาเนียเรื่องการสาธิตการทำฝนหลวง เพื่อกำหนดวันและรายละเอียดต่าง ๆ ที่ผู้เชี่ยวชาญไทยจากสำนักฝนหลวงและการบินเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และจากกระทรวงการต่างประเทศ จะเดินทางไปยังแทนซาเนียเพื่อศึกษาสภาพภูมิประเทศ ภูมิอากาศ รวมทั้งรวบรวมข้อมูลสถิต เพื่อประเมินความเป็นไปได้ของการทำฝนหลวงในพื้นที่แห้งแล้งของแทนซาเนีย
เรื่องดังกล่าวมีความสำคัญ เนื่องจากเป็นโครงการให้ความช่วยเหลือในประเทศแอฟริกาที่ประเทศไทยจะได้เผยแพร่เทคโนโลยีเรื่องการทำฝนหลวง โดยกระทรวงการต่างประเทศได้จัดโครงการดังกล่าวขึ้นสืบเนื่องจากการเยือนของนาย Edward N. Lowassa นายกรัฐมนตรีแทนซาเนีย เมื่อเดือนกันยายน 2549 ซึ่งได้แสดงความสนใจต่อนโยบายการพัฒนาของไทย การพัฒนาภาคเกษตรกรรม และโดยเฉพาะอย่างยิ่งเทคโนโลยีการทำฝนหลวง เนื่องจากแทนซาเนียและประเทศอื่น ๆ ในภูมิภาคแอฟริกาตะวันออกได้ประสบภาวะแห้งแล้งมาตั้งแต่ปี 2548
เนื่องจากเทคโนโลยีการทำฝนหลวงเป็นองค์ความรู้และทรัพย์สินทางปัญญาในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว กระทรวงการต่างประเทศจึงได้ทำหนังสือถึงสำนักราชเลขาธิการเพื่อขอให้นำความประสงค์ของรัฐบาลแทนซาเนียกราบบังคมทูลพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และได้ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณพระราชทานพระบรมราชานุญาตและพระราชวินิจฉัยเพื่อให้การดำเนินการให้ความช่วยเหลือแทนซาเนียเป็นไปด้วยดี
2. ไทยเข้าร่วมการประชุมระดับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ครั้งที่ 3 ของเวทีความร่วมมือระหว่างเอเชียตะวันออกและลาตินอเมริกา (Forum for East Asia—Latin America Cooperation - FEALAC) ระหว่างวันที่ 22 — 23 สิงหาคม 2550 ณ กรุงบราซิเลีย สหพันธ์สาธารณรัฐบราซิล
นายสวนิต คงสิริ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ จะเป็นหัวหน้าคณะผู้แทนไทยเข้าร่วมการประชุมระดับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ครั้งที่ 3 ของเวทีความร่วมมือระหว่างเอเชียตะวันออกและลาตินอเมริกา (Forum for East Asia—Latin America Cooperation : FEALAC) ณ กรุงบราซิเลีย สหพันธ์สาธารณรัฐบราซิล ระหว่างวันที่ 22 — 23 สิงหาคม 2550 โดยจะมีรัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศของประเทศสมาชิก FEALAC จากทั้งสองภูมิภาค จำนวน 32 ประเทศ และจากสาธารณรัฐโดมินิกันซึ่งจะเข้าเป็นสมาชิกใหม่เข้าร่วมการประชุมครั้งนี้ โดยหัวข้อหลักของการประชุมครั้งนี้ได้แก่เรื่องโอกาสทางการค้าและการลงทุนระหว่างสองภูมิภาค (Bi-regional Trade and Investment Opportunities)
ภายหลังการประชุม บราซิลจะจัดให้รัฐมนตรีของประเทศสมาชิกเดินทางไปเยี่ยมชมโรงงานเอทานอลของบราซิลในรัฐเซา เปาโล เพื่อการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ด้านนี้ระหว่างประเทศสมาชิกด้วย นอกจากนี้ บราซิลจะจัดกิจกรรมคู่ขนานกับการประชุมภาครัฐ ได้แก่ การประชุมและการพบหารือทางธุรกิจ และการสัมมนาทางวิชาการ เรื่อง ระบบโลจิสติกส์ การพัฒนาอย่างยั่งยืน พลังงานทดแทน และการมีส่วนร่วมของวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมในเวทีระหว่างประเทศ ระหว่างวันที่ 20 — 24 สิงหาคม 2550 ใน 4 เมืองสำคัญของบราซิล ได้แก่ กรุงบราซิเลีย นครเซาเปาโล นครริโอ เดอ จาเนโร และนครเบโล ฮอริ
FEALAC เป็นเวทีเพื่อส่งเสริมความเข้าใจและความร่วมมือระหว่างภูมิภาคเอเชียตะวันออกและลาตินอเมริกาในทุกด้าน รวมถึงการเมือง เศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม วิชาการ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โดยเน้นการดำเนินโครงการความร่วมมือระหว่างประเทศสมาชิกเป็นหลัก ปัจจุบันมีสมาชิก 32 ประเทศ เป็นฝ่ายเอเชีย 15 ประเทศ ได้แก่ อาเซียน จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ และฝ่ายลาตินอเมริกา 17 ประเทศ ได้แก่ อาร์เจนตินา บราซิล โบลิเวีย โคลอมเบีย ชิลี เอกวาดอร์ เม็กซิโก ปารากวัย เปรู ปานามา เอลซัลวาดอร์ คอสตาริกา คิวบา อุรุกวัย เวเนซุเอลา นิคารากัว และกัวเตมาลา และจะเพิ่มประเทศสมาชิกฝ่ายลาตินอเมริกาอีกหนึ่งประเทศ ได้แก่ สาธารณรัฐโดมินิกัน
3. กระทรวงการต่างประเทศสนับสนุนสมาคมกอรีแห่งประเทศไทยในการส่งนักกอรีไทยเข้าแข่งขันการอ่านคัมภีร์อัลกุรอ่านระหว่างประเทศ
เมื่อวันที่ 14 สิงหาคม 2550 อิหม่ามสนิท เอี่ยมฤทธิ์ นายกสมาคมกอรีแห่งประเทศไทย ในฐานะผู้แทนจุฬาราชมนตรี ได้นำนักกอรีทีมชาติไทยที่จะเดินทางไปแข่งขันการอ่านคัมภีร์อัลกุรอ่านระหว่างประเทศ ครั้งที่ 49 ซึ่งมาเลเซียจะเป็นเจ้าภาพจัดขึ้น ระหว่างวันที่ 16-22 สิงหาคม 2550 ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ เข้าพบอธิบดีกรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ เพื่อแจ้งรายละเอียดของการเดินทางไปร่วมการแข่งขันการอ่านพระคัมภีร์อัลกุรอ่านดังกล่าว ทั้งนี้กระทรวงการต่างประเทศเห็นว่าการเข้าร่วมการแข่งขันของนักกอรีไทยตลอดเวลาที่ผ่านมา แสดงให้เห็นถึงมาตรฐานทางวิชาการของนักกอรีไทยที่เป็นที่ยอมรับในระดับโลก และสภาพของสังคมไทยอันมีเสรีภาพ/เปิดกว้างในการนับถือศาสนา
กระทรวงการต่างประเทศให้การสนับสนุนสมาคมในการเข้าร่วมการแข่งขันในครั้งนี้ โดยกระทรวงฯ ถือเป็นการส่งเสริมกิจกรรมหนึ่งของคนไทยที่ไปสร้างชื่อเสียงในต่างประเทศ ทั้งนี้ กระทรวงฯ ได้ให้การสนับสนุนผู้ฝึกสอน (coach) ของสมาคมกอรีแห่งประเทศไทยร่วมเดินทางไปกับคณะเพื่อเสริมการสนับสนุนจากกระทรวงมหาดไทยและกระทรวงวัฒนธรรมที่สนับสนุนองค์ประกอบอื่น ๆ ในคณะของไทยที่เดินทางไปร่วมการแข่งขันครั้งนี้นอกจากนี้ ฯพณฯ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศจะได้ให้การสนับสนุนถ้วยรางวัลในการประกวดนักกอรีประจำปีในงานเมาลิดกลางในประเทศไทยซึ่งจะจัดขึ้นในช่วงปลายปี พ.ศ. 2550 (ฮ.ศ. 1428) อีกด้วย
4. กระทรวงการต่างประเทศส่งหน่วยหนังสือเดินทางเคลื่อนที่ไปบริการประชาชนในต่างจังหวัด
กรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศได้จัดหน่วยหนังสือเดินทางเคลื่อนที่ไปให้บริการประชาชนในพื้นที่จังหวัดต่าง ๆ เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ที่ไม่สะดวกในการเดินทางมารับบริการ ณ กองหนังสือเดินทางในกรุงเทพฯ หรือ สำนักงานหนังสือเดินทางในจังหวัดต่าง ๆ
ในเดือนสิงหาคม 2550 กรมการกงสุลจะส่งหน่วยหนังสือเดินทางออกให้บริการประชาชน ดังนี้
1. จังหวัดเพชรบูรณ์ : ระหว่างวันที่ 15-17 สิงหาคม 2550 ณ หอประชุมชาญอนุสรณ์เทศบาลเมืองเพชรบูรณ์
2. จังหวัดอุตรดิตถ์ : ระหว่างวันที่ 27-29 สิงหาคม 2550 ณ ศาลาประชาคม
3. จังหวัดชัยภูมิ : ระหว่างวันที่ 31 สิงหาคม และ 3-5 กันยายน 2550 ณ ศาลาประชาคม
5. ข่าวแจ้งเตือนคนไทย: คนไทยที่ถูกจับกุมในข้อหาลักลอบนำยาเสพติดเข้าจีนอาจถูกประหารชีวิต
ด้วยกระทรวงการต่างประเทศได้รับรายงานจากสถานกงสุลใหญ่ไทยประจำเมืองต่าง ๆ ในประเทศจีนว่าในช่วงที่ผ่านมา ทางการจีนสามารถจับกุมชาวไทยที่ร่วมขบวนการค้ายาเสพติดที่ลักลอบนำยาเสพติดเดินทางเข้าไปในประเทศจีนได้อย่างต่อเนื่อง และล่าสุดสถานกงสุลใหญ่ ณ นครคุนหมิง รายงานว่า เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม 2550 รองกงสุลใหญ่ และจนท.กงสุล ได้เดินทางเข้าเยี่ยมผู้ต้องหาชาวไทยสองคนที่ถูกจับกุมในข้อหาลักลอบนำยาเสพติดเข้าประเทศ และได้นำตัวไปคุมขังที่เรือนจำที่สอง นครคุนหมิง จากการประสานงานกับฝ่ายจีนทราบว่า ผู้ต้องหาทั้งสองอาจจะได้รับโทษจำคุกตลอดชีวิต เนื่องจากได้ลักลอบนำยาเสพติดเข้าจีนเป็นจำนวนมากกว่า 50 กรัม ทั้งนี้ ผู้ต้องหาทั้งสองมีความเป็นอยู่ในเรือนจำที่ค่อนข้างลำบาก เนื่องจากสภาพของเรือนจำ ข้อจำกัดด้านภาษาและสุขภาพส่วนตัว
ในปี 2550 กระทรวงฯ ได้ประกาศแจ้งเตือนเรื่องนี้แล้ว 3 ครั้ง และขอแจ้งเตือนอีกครั้งให้ชาวไทยได้ทราบถึงบทลงโทษที่รุนแรงของกฎหมายจีนเกี่ยวกับการลักลอบค้ายาเสพติดว่ามีบทลงโทษสูงสุด คือ การประหารชีวิต ที่ผ่านมากระบวนการลักลอบนำยาเสพติดเข้าประเทศจีนมักใช้หญิงไทยเข้าร่วมกับกลุ่มผู้ค้ายาเสพติดจากแอฟริกา โดยชาวไทยบางคนรู้เท่าไม่ถึงการณ์หรือเห็นแก่เงินค่าจ้างวานให้ดำเนินการและเมื่อถูกจับกุมแล้วต้องรับโทษสถานหนัก
ทั้งนี้ ในปี 2549 มีคนไทยถูกจับกุมในข้อหาลักลอบนำยาเสพติด (เฮโรอีน) เข้าประเทศจีน 20 ราย และตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม — 31 กรกฎาคม 2550 มีคนไทยถูกจับกุมไปแล้ว 42 ราย จึงขอย้ำเตือนให้คนไทยไม่ให้ลักลอบนำยาเสพติดเข้าประเทศจีน และระมัดระวังไม่ให้ถูกหลอกเข้าร่วมขบวนการณ์โดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์
6. สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโตเกียว จัดงาน Fujikyu Thailand Festival ครั้งที่ 2
สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโตเกียว ร่วมกับบริษัท Fuji Kyoko จัดงาน Fujikyu Thailand Festival ครั้งที่ 2 ณ สวนสนุกฟูจิคิว จังหวัดยามานาชิ ระหว่างวันที่ 28 กรกฎาคม — 26 สิงหาคม 2550
ในปี พ.ศ. 2550 นี้ งาน Fujikyu Thailand Festival ถือเป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมร่วมเฉลิมฉลองความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-ญี่ปุ่น ครบรอบ 120 ปี อีกด้วย โดยบริษัท Fuji Kyoko และบริษัทในเครือได้จัดงาน Fujikyu Thailand Festival อีกงานหนึ่ง ณ Hatsushima Island Resort เกาะฮัตซูชิมา จ.ชิซูโอกะ ระหว่างวันที่ 21 กรกฎาคม — 31 สิงหาคม 2550 เพื่อร่วมเฉลิมฉลองวาระพิเศษครั้งนี้ โดยการจัดงานทั้งสองแห่งนี้ นับเป็นการจัดงานที่ยาวนานที่สุดที่เคยจัดในประเทศญี่ปุ่น
สถานเอกอัครราชทูตฯ และบริษัท Fuji Kyoko ได้จัดงาน Fujikyu Thailand Festival ครั้งแรก เมื่อปี พ.ศ. 2549 ซึ่งประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก มีผู้เข้าร่วมชมงานเทศกาลไทยกว่า 300,000 คน ในช่วงระยะเวลา 1 เดือนของการจัดงาน ซึ่งตรงกับช่วงปิดเทอมฤดูร้อนของญี่ปุ่น
นอกจากนั้น ในช่วงเทศกาลไหว้บรรพบุรุษของญี่ปุ่น ระหว่างวันที่ 14 — 16 สิงหาคม 2550 สถานเอกอัครราชทูตฯ ได้เชิญเยาวชนโครงการแฟนต้ายุวทูต ร่วมสาธิตวัฒนธรรมไทยในงานเทศกาลดังกล่าว ทั้งนี้ ผู้สนใจสามารถเข้าชมรายละเอียดและภาพกิจกรรมได้ที่ www.thaiembassy.jp
ในปี 2550 นี้ สถานเอกอัครราชทูตฯ ได้จัดกิจกรรมต่าง ๆ มากมายในประเทศญี่ปุ่น เพื่อร่วมเฉลิมฉลองความสัมพันธ์ทางการทูต ครบรอบ 120 ปี และเพื่อส่งเสริมความเข้าใจอันดีระหว่างประชาชนไทย-ญี่ปุ่น อาทิ งานเทศกาลไทย ณ สวนสาธารณะโยโยงิ โตเกียว การจัดงานสัปดาห์ไทย ณ พิพิธภัณฑ์นวัตกรรมและวิทยาศาสตร์แห่งอนาคต กรุงโตกียว การจัดแสดงศิลปะ ภาพยนต์ และดนตรีจากประเทศไทย นอกจากนี้ สถานเอกอัครราชทูตฯ ยังมีโครงการจัดกิจกรรมเฉลิมฉลองอีกตลอดปีนี้ โดยในเดือนกันยายนที่จะถึงนี้ จะมีพิธีมอบศาลาไทย ณ สวนสาธารณะอูเอโนะ กรุงโตเกียว และจำหน่ายตราไปรษณียกรที่ระลึกในโอกาสเฉลิมฉลองนี้ด้วย
7. สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงฮานอย จัดงานนิทรรศการประเทศไทย (Thailand Exhibition 2007)
กระทรวงการต่างประเทศ โดยสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงฮานอย ร่วมกับสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ จะจัดนิทรรศการประเทศไทย หรือ Thailand Exhibition 2007 ที่ Van Ho Exhibition Centre กรุงฮานอย ประเทศเวียดนาม ระหว่างวันที่ 22 — 25 สิงหาคม 2550
การจัดงานนิทรรศการดังกล่าว จะช่วยส่งเสริมภาพลักษณ์และศักยภาพของไทยในด้านต่าง ๆ ทั้งเศรษฐกิจ การค้า การท่องเที่ยว และวัฒนธรรม รวมทั้งสถาบันพระมหากษัตริย์ของไทย ให้เป็นที่รับรู้ต่อสาธารณชนชาวเวียดนาม ในขณะเดียวกัน ภาคเอกชนไทยที่เข้าร่วมนิทรรศการในครั้งนี้ จะได้ทราบถึงศักยภาพทางเศรษฐกิจของประเทศเวียดนาม ซึ่งภายในงานจะมีการนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับลู่ทางด้านการค้า/การลงทุนของนักธุรกิจไทยในเวียดนาม ทั้งนี้ กิจกรรมภายในงานจะประกอบด้วย การจัดนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในโอกาสเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษาแล้ว การจัดแสดงนิทรรศการเกี่ยวกับประเทศไทย การจัดแสดงสินค้าไทย การส่งเสริมการท่องเที่ยวไทย การแสดงนาฏศิลป์ไทย และการพบปะเจรจาของนักธุรกิจ ทั้งสองประเทศ ในการนี้ นักธุรกิจจากประเทศไทยและที่อาศัยอยู่ในเวียดนามจะเข้าร่วมงานแสดงสินค้ากว่า 100 บริษัท และคาดว่าจะมีผู้เข้าชมงานกว่า 50,000 คน
8. โครงการทันตกรรมเคลื่อนที่เพื่อนักศึกษาและคนไทยในอียิปต์
กระทรวงการต่างประเทศ โดยสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงไคโร ร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข และมูลนิธิอาสาสมเด็จพระศรีนครินทร์ทราบรมราชชนนี จัดโครงการทันตกรรมเคลื่อนที่เพื่อนักศึกษาและคนไทยในอียิปต์ขึ้น ระหว่างวันที่ 6 — 11 สิงหาคม 2550 ที่ทำเนียบเอกอัครราชทูตฯ
โครงการนี้เป็นกิจกรรมต่อเนื่องที่สถานเอกอัครราชทูตฯ ได้จัดขึ้นเพื่อส่งเสริมสุขภาพนักศึกษาและคนไทยในอียิปต์ และเป็นครั้งแรกที่มีการจัดบริการทันตกรรมเคลื่อนที่ในต่างประเทศ โดยคณะทันตแพทย์จะให้บริการตรวจรักษาเบื้องต้น เช่น ถอนฟัน อุดฟัน ขูดหินปูน และการตรวจสภาพทั่วไปในช่องปาก รวมทั้งให้คำปรึกษาแนะนำเกี่ยวกับการรักษาสุขภาพฟัน มีนักศึกษาและคนไทยประมาณ 200 คน เข้ารับบริการครั้งนี้
9. สถานกงสุลใหญ่ ณ นครลอสแอนเจลิส จัดกิจกรรมส่งเสริมการอยู่ดีมีสุขของคนไทยในต่างประเทศ
กระทรวงการต่างประเทศ โดยสถานกงสุลใหญ่ ณ นครลอสแอนเจลิส ร่วมกับหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนจัดกิจกรรมเพื่อส่งเสริมการอยู่ดีมีสุขของคนไทยในสหรัฐอมเริกาอย่างต่อเนื่อง โดยในครึ่งแรกของปี 2550 สถานกงสุลใหญ่ฯ ได้จัดกิจกรรมต่าง ๆ แล้ว 3 กิจกรรม ได้แก่ โครงการพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุไทย โครงการอบรมอาสาสมัครเพื่อให้คำปรึกษาด้านสุขภาพจิตแก่ชุมชนไทย และโครงการให้ความรู้ทางกฎหมายแก่ชุมชนไทย
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5170 โทรสาร. 643-5169 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--
-พห-