สวนดุสิตโพลล์: "วัยรุ่น” กับการใช้ภาษาไทย ณ วันนี้

ข่าวผลสำรวจ Friday November 12, 2010 15:29 —สวนดุสิตโพล

จากกรณีที่นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี รองนายกรัฐมนตรีเป็นห่วงเรื่องการใช้ภาษาไทยของเยาวชน โดยเฉพาะ คำว่า “ชิมิ” ที่ใช้กันอย่างแพร่หลาย แทนคำว่า “ใช่ไหม? ” ว่าเกรงจะเป็นภาษาวิบัติ อีกทั้งการนำเสนอละคร หรือภาพยนตร์ต้องมีความระมัดระวัง เนื่องจากวัฒนธรรมไทยขณะนี้มีความเสื่อมถอยมากขึ้น เห็นได้จากการใช้ภาษาผ่านเพลง ละคร ภาพยนตร์ ที่ใช้คำไม่เหมาะสม และบางคำก็ไม่แน่ใจว่าเป็นภาษาไทยหรือภาษาต่างประเทศกันแน่ “สวนดุสิตโพล” มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต จึงได้สำรวจความคิดเห็นจากประชาชนในกรุงเทพฯ ปริมณฑล ที่มีช่วงอายุไม่ถึง 18 ปี และผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป จำนวน 1,208 คน ระหว่างวันที่ 10-12 พฤศจิกายน 2553 สรุปผลได้ดังนี้

1. ความคิดเห็น กรณี วัยรุ่นใช้คำว่า “ชิมิ” หมายถึง “ใช่ไหม”
อันดับ 1   เป็นคำที่ใช้พูดกันอย่างแพร่หลายเฉพาะในกลุ่มเพื่อนด้วยกันเอง ซึ่งทุกคนจะเข้าใจดีว่าหมายถึงอะไร               30.14%
อันดับ 2   เป็นภาษาที่ลอกเลียนแบบมาจากสื่อโทรทัศน์ อินเตอร์เน็ต ภาพยนตร์ ฯลฯ /สื่อต่างๆจะต้องมีการควบคุมและ-
         ระมัดระวังในการเผยแพร่อย่างเข้มงวด                                                          22.25%
อันดับ 3   ไม่ควรนำมาพูดพร่ำเพรื่อ หรือบ่อยเกินไป /บางครั้งได้ยินแล้วรู้สึกว่าไม่น่าฟัง                               17.48%
อันดับ 4   เป็นคำพูดปกติของวัยรุ่นในปัจจุบัน และยังมีอีกหลายคำที่ออกเสียงหรือพูดเพี้ยนไป                             15.17%
อันดับ 5   หน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรออกมาชี้แจงหรือทำความเข้าใจในเรื่องของการใช้ภาษาไทยอย่างเร่งด่วน /ไม่ควรปล่อย-
         ให้เนิ่นนานเกินไป                                                                          14.96%

2. จากกรณีนี้เข้าข่ายทำให้ “ภาษาวิบัติ” หรือไม่?
อันดับ 1          เข้าข่ายทำให้ภาษาวิบัติ                               62.56%

เพราะ หากใช้คำพูดที่ผิดหรือพูดติดปากกันมากเกินไปอาจทำให้หลงลืมความหมายหรือคำที่ถูกต้องของคำที่แท้จริง ฯลฯ

อันดับ 2          ไม่เข้าข่าย                                        22.49%

เพราะ เป็นภาษาที่ใช้พูดกันเล่นๆเฉพาะกลุ่ม ไม่น่าจะเสียหายอะไร ,เป็นเพียงแค่กระแสช่วงหนึ่งอีกไม่นานก็เปลี่ยนไป ฯลฯ

อันดับ 3          ไม่แน่ใจ                                          14.95%

เพราะ บางครั้งการออกมาแสดงความเห็นหรือการออกมาให้ข่าว อาจกลายเป็นเรื่องใหญ่โตทั้งๆที่ยังไม่มีอะไร ฯลฯ

3. จากกรณีที่เกิดขึ้นจะมีผลต่อการใช้ภาษาไทยหรือไม่ อย่างไร?
อันดับ 1          มีผล                                             65.90%

เพราะ อาจทำให้เกิดความเคยชินหรือพูดจนติดเป็นนิสัย ทำให้ภาษาไทยผิดเพี้ยนไป ฯลฯ

อันดับ 2          ไม่มีผล                                           17.61%

เพราะ เชื่อว่าคนไทยทุกคนคงจะเข้าใจหรือรู้ความหมายของคำต้นแบบที่แท้จริงว่าคำนี้คืออะไร ,ไม่ใช่คำหยาบคาย ฯลฯ

อันดับ 3          ไม่แน่ใจ                                          16.49%

เพราะ ยุคสมัยที่เปลี่ยนไป อาจทำให้การใช้ภาษาในการสื่อสารของคนแต่ละกลุ่มแต่ละวัยแตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับการนำไปใช้อย่างถูกต้อง เหมาะสม ฯลฯ

4. กรณีที่เกิดขึ้นเช่นนี้ ควรแก้ไขหรือไม่ อย่างไร?
อันดับ 1          ควรแก้ไข                                         63.47%

เพราะ ไม่อยากให้วัยรุ่นใช้คำพูดที่ผิดๆ ,ภาษาไทยเป็นภาษาที่สวยงาม ควรรณรงค์การใช้ภาษาไทยให้ถูกต้อง ฯลฯ

อันดับ 2          ไม่ควรแก้ไข                                       36.53%

เพราะ เป็นเพียงแค่กระแสช่วงหนึ่ง อีกไม่นานก็อาจมีคำอื่นๆมาแทน ฯลฯ

--สวนดุสิตโพลล์--

-พห-

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ