จากที่มีการประชุมคณะกรรมาธิการพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญ ซึ่งในที่ประชุมมีการเสนอให้แก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 93-98 ว่าด้วยการแก้ไข ในเรื่องของจำนวน ส.ส.เขต และส.ส.สัดส่วน กลายเป็นประเด็นร้อนทางการเมืองที่อาจจะกลายเป็นความขัดแย้งที่สังคมต้องจับตามองและติดตาม ข่าวอย่างใกล้ชิด “สวนดุสิตโพล” มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต จึงได้สอบถามความคิดเห็นจากประชาชนในกรุงเทพฯ ปริมณฑล จำนวนทั้งสิ้น 1,108 คน ระหว่างวันที่ 5-8 มกราคม 2554 สรุปผลได้ดังนี้
ข้อดี ภาพรวม ข้อเสีย ภาพรวม เป็นการเลือกแบบประชาธิปไตย 1 คน 1 เสียง 40.17% ส.ส. สัดส่วนน้อยไป ส่งผลให้การทำงานยากขึ้น 38.02% ส.ส. จะได้ลงพื้นที่และดูแลประชาชนได้ง่ายขึ้น 31.38% เกิดการได้เปรียบเสียเปรียบของพรรคการเมือง 35.41% คนส่วนใหญ่ยอมรับกับ จำนวน ส.ส.เขต 400 คน 28.45% ประชาชนตัดสินใจเลือกลำบากมากขึ้น 26.57% (1.2) ส.ส. เขต 375 คน ส.ส. สัดส่วน 125 คน (ข้อเสนอให้ปรับแก้ไข) ข้อดี ภาพรวม ข้อเสีย ภาพรวม พรรคใหญ่ได้ที่นั่งเพิ่มขึ้น ส่งผลให้พรรคเข้มแข็ง 35.92% ทำให้เกิดความขัดแย้งระหว่างพรรคการเมืองต่างๆ 42.74% ได้ ส.ส. หน้าใหม่ที่มีความรู้ความสามารถเพิ่มมากขึ้น 34.20% ทำให้จำนวนที่นั่งของ ส.ส. บางพรรคลดลง 32.35% การซื้อเสียงยากขึ้น เพราะพื้นที่มีขนาดใหญ่ 29.88% จะต้องมีการจัดเขตใหม่ ประชาชนเกิดการสับสน 24.91% (1.3) ส.ส. เขต 400 คน ส.ส. สัดส่วน 100 คน (ใช้เมื่อปี 2540) ข้อดี ภาพรวม ข้อเสีย ภาพรวม จำนวน ส.ส. มีความเหมาะสมกับเขตเลือกตั้ง 39.58% พรรคใหญ่ได้เปรียบ มีอำนาจมาก ขาดการตรวจสอบ 40.07% ทำให้พรรคการเมืองเข้มแข็ง บริหารงานง่ายขึ้น 36.68% อาจเป็นช่องทางให้เกิดการทุจริตได้ง่ายขึ้น 33.14% ไม่มีปัญหาในเรื่องของการจัดแบ่งพื้นที่ 23.74% พรรคขนาดกลางและขนาดเล็กเสียเปรียบ 26.79% 2. ประชาชนเห็นด้วยกับแนวทางใด? อันดับ 1 ส.ส. เขต 400 คน ส.ส. สัดส่วน 100 คน 45.37% อันดับ 2 ส.ส. เขต 400 คน ส.ส. สัดส่วน 80 คน 32.98% อันดับ 3 ส.ส. เขต 375 คน ส.ส. สัดส่วน 125 คน 21.65% 3. ประชาชนคิดว่าการแก้ไข รธน. ม.92-98 จะมีผลทำให้เกิดความขัดแย้งทางการเมืองหรือไม่ ? อันดับ 1 มีผลแน่นอน 53.04%
เพราะ เกิดการขัดแย้งในเรื่องของผลประโยชน์ที่ไม่ลงตัว , เป็นเรื่องสำคัญที่ส่งผลต่อเสถียรภาพของพรรคการเมือง ฯลฯ
อันดับ 2 อาจจะมีผลบ้าง 33.42%
เพราะ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องใดทางการเมืองย่อมมีความขัดแย้งอยู่บ้าง โดยเฉพาะความคิดเห็นที่ไม่ตรงกัน ฯลฯ
อันดับ 3 ไม่มีผลเลย 9.37%
เพราะ การแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรานี้อาจไม่สำเร็จ หรือไม่ได้รับการอนุมัติจากคณะกรรมาธิการ ฯลฯ
อันดับ 4 อาจจะไม่มีผล 4.17%
เพราะ ถ้าพรรคการเมืองทุกพรรคสามารถตกลงกันได้ และผลประโยชน์ลงตัว ฯลฯ
อันดับ 1 ช่วยไม่ได้ 74.27%
เพราะ การเมืองไทยกับการซื้อเสียงมีคู่กันมานาน ขึ้นอยู่กับพฤติกรรมของนักการเมือง ฯลฯ
อันดับ 2 ไม่แน่ใจ 20.58%
เพราะ ยังไม่รู้ว่า รธน.มาตราดังกล่าวจะได้รับการแก้ไขหรือไม่ คงต้องรอดูต่อไป ฯลฯ
อันดับ 3 ช่วยได้ 5.15%
เพราะ เป็นการกลั่นกรองมาจากผู้ทรงคุณวุฒิหลายฝ่าย ประชาชนมีบทเรียนจากการเลือกตั้งที่ผ่านๆมา ฯลฯ
อันดับ 1 ไม่ได้รับประโยชน์เลย 36.05%
เพราะ เป็นเกมการเมืองและเป็นเรื่องของการชิงความได้เปรียบเสียเปรียบก่อนที่จะมีการเลือกตั้งใหม่ ฯลฯ
อันดับ 2 อาจจะได้รับประโยชน์บ้าง 32.20%
เพราะ ส.ส. สามารถดูแลพื้นที่ที่ได้รับการเลือกตั้งอย่างใกล้ชิดและทั่วถึงมากขึ้น ฯลฯ
อันดับ 3 ไม่ค่อยได้รับประโยชน์ 24.53%
เพราะ เป็นการแก้ไข รธน.ที่เอื้อประโยชน์ต่อพรรคการเมืองมากกว่าเห็นแก่ประโยชน์ของส่วนรวม ฯลฯ
อันดับ 4 ได้รับประโยชน์ 7.22%
เพราะ ประชาชนจะเป็นผู้ตัดสินใจด้วยตัวเองว่าจะเลือกใครเข้ามาเป็น ส.ส. เพื่อเป็นกระบอกเสียงแทนประชาชน ฯลฯ
--สวนดุสิตโพลล์--