สวนดุสิตโพลล์: ประชาชนคิดอย่างไร? กับการลงโทษนักเรียน โดยใช้ “ไม้เรียว”

ข่าวผลสำรวจ Monday January 17, 2011 07:12 —สวนดุสิตโพล

จากกรณีการเผยแพร่คลิปการกระทำความรุนแรงของครูด้วยการลงโทษตีลูกศิษย์อย่างรุนแรงผ่านเว็บไซต์ และในทางตรงกันข้าม สภานักเรียนแห่งประเทศไทย ก็เรียกร้องให้ ศธ. แก้ไขระเบียบกระทรวงศึกษาธิการ ว่าด้วยการลงโทษนักเรียนและนักศึกษา พ.ศ. 2548 เพื่อให้นำไม้เรียวกลับมาใช้อีกครั้ง โดย ศธ. ได้มอบหมายให้ รศ.ดร.สุขุม เฉลยทรัพย์ ประธานดำเนินงาน “สวนดุสิตโพล” มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต ทำการสำรวจความคิดเห็นจากครู นักเรียน ผู้ปกครอง และประชาชนทั่วไปต่อกรณีดังกล่าวทั่วประเทศ จำนวนทั้งสิ้น 1,476 คน ระหว่างวันที่ 13-15 มกราคม 2554 สรุปผลได้ดังนี้

1. ประชาชนคิดเห็นอย่างไร? กรณี ข่าวคลิปครูลงโทษเด็กนักเรียนด้วย “ไม้เรียว”
อันดับ 1          เป็นการกระทำที่รุนแรงเกินกว่าเหตุ                                                 48.19%
อันดับ 2          การลงโทษด้วยไม้เรียวเป็นสิ่งที่มามานานในสังคมไทยแต่ต้องใช้อย่างถูกต้องและเหมาะสม          19.88%
อันดับ 3          ผู้บริหารโรงเรียนทุกแห่งควรดูแลเรื่องกฎ ระเบียบ การลงโทษนักเรียนของครูอย่างใกล้ชิด         18.24%
อันดับ 4          ไม่ควรด่วนสรุปก่อนที่จะมีการสอบถามข้อเท็จจริงจากครูและนักเรียน                          13.69%

2. การลงโทษเด็ก ด้วยการใช้ “ไม้เรียว”  มีผลดี — ผลเสีย อย่างไร?
          ผลดี                                                  ผลเสีย
ทำให้เด็กหลาบจำ ไม่กล้าทำผิดซ้ำอีก          52.03%          ส่งผลต่อจิตใจทำให้เด็กกลัว อายเพื่อน          44.57%
เป็นวิธีลงโทษที่ได้ผล ทำให้เด็กกลัวและเชื่อฟัง   26.64%          ทางโรงเรียนและครูอาจถูกฟ้องหรือร้องเรียนได้   30.83%
ทำให้เด็กเป็นคนดี ไม่ออกนอกลู่นอกทาง        21.33%          ทำให้ครูไม่กล้าลงโทษเด็ก                   24.60%

3. ความผิดแบบใด? หรือ ลักษณะใด? จึงจะควรลงโทษด้วยการใช้ไม้เรียว
อันดับ 1          การมั่วสุม เช่น กินเหล้า สูบบุหรี่ เล่นการพนัน เรื่องชู้สาว                                34.28%
อันดับ 2          การทะเลาะวิวาท ชกต่อย ตบ ตีกัน                                                 27.97%
อันดับ 3          หนีเรียน โดดเรียน                                                             20.92%
อันดับ 4          ทำผิดระเบียบวินัยของโรงเรียน เช่น ทุจริตในการสอบ ขโมยของ แต่งกายผิดระเบียบ            16.83%

4. ถ้าไม่ใช่การลงโทษด้วยการใช้ “ไม้เรียว” จะใช้วิธีการลงโทษด้วยวิธีใด? แทน
อันดับ 1          บำเพ็ญประโยชน์ เช่น เก็บขยะ กวาดพื้น ทำเวร ทำความสะอาดห้องเรียน ล้างห้องน้ำ           43.16%
อันดับ 2          ตักเตือน ตัดคะแนน  ทำทัณฑ์บน เรียกผู้ปกครอง                                        30.43%
อันดับ 3          สั่งทำรายงานเพิ่ม /มอบหมายงานอื่นๆให้ทำ                                           15.65%
อันดับ 4          วิ่งรอบสนาม  กระโดดตบ วิดพื้น /ยืนหน้าห้อง                                         10.76%

5. ประชาชนเห็นด้วยหรือไม่? กับ สภานักเรียนแห่งประเทศไทยที่เรียกร้องให้ ศธ. แก้ไขระเบียบ ศธ.ว่าด้วยการลงโทษนักเรียนและนักศึกษา พ.ศ.2548 โดยการเพิ่มโทษให้ครูใช้ไม้เรียวทำโทษเด็กได้
อันดับ 1          เห็นด้วย            53.84%

เพราะ ทำให้เด็กหลาบจำ ไม่กล้าทำผิดซ้ำอีก ,ผู้ที่มีชื่อเสียง ผู้หลักผู้ใหญ่หลายคนที่ประสบความสำเร็จก็เคยโดนไม้เรียวมาก่อน แต่การลงโทษต้องอยู่ขอบเขต สมเหตุสมผล ไม่ใช้อารมณ์ ฯลฯ

อันดับ 2          ไม่เห็นด้วย          24.85%

เพราะ ยุคสมัยเปลี่ยนไปควรเปลี่ยนวิธีการลงโทษแบบอื่นๆแทนการใช้ไม้เรียวจะดีกว่า ทำให้เด็กกลัว ไม่กล้าแสดงออก ,ครูแต่ละคนมีวุฒิภาวะที่แตกต่างกัน

อันดับ 3          เฉยๆ              21.31%

เพราะ การลงโทษด้วยไม้เรียวมีทั้งข้อดี ข้อเสีย ขึ้นอยู่กับการนำไปใช้และผู้ที่ถูกลงโทษมากกว่า ฯลฯ

6. โดยสรุปแล้ว ประชาชนเห็นด้วยกับการลงโทษเด็กโดยการใช้ “ไม้เรียว” หรือไม่?
อันดับ 1          เห็นด้วย            65.08%

เพราะ การลงโทษด้วยไม้เรียวมีมานานตั้งแต่สมัยปู่ ย่า ตา ยาย เพื่อทำให้เด็กเกิดการหลาบจำ ไม่ออกนอนกลู่นอกทาง แต่จะต้องใช้อย่างถูกต้อง เหมาะสม ไม่ใช่ตีพร่ำเพรื่อ ,มีการกำหนดขนาดมาตรฐานของไม้เรียว ฯลฯ

อันดับ 2          ไม่เห็นด้วย          18.93%

เพราะ อาจส่งผลกระทบทางด้านจิตใจกับเด็ก ทำให้เด็กกลัว ไม่อยากมาโรงเรียน ไม่กล้าแสดงความคิดเห็น ,เป็นการใช้ความรุนแรง ควรใช้เหตุผล พูดคุยและการลงโทษแบบอื่นจะดีกว่า ฯลฯ

อันดับ 3          เฉยๆ              15.99%

เพราะ จากกรณีนี้มีทั้งผู้ที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย เพราะสมัยนี้จะเห็นได้ว่าพฤติกรรมของเด็กและครูบางคนต่างก็ไม่เหมาะสมพอๆกัน ฯลฯ

7. ข้อเสนอแนะต่อกระทรวงศึกษาธิการ กรณี การลงโทษนักเรียน
อันดับ 1          ทางกระทรวงฯ จะต้องมีการออกกฎระเบียบข้อบังคับในการลงโทษเด็กอย่างชัดเจน                  37.18%
อันดับ 2          ทั้งครูและนักเรียนควรช่วยกันสอดส่องดูแลเป็นหูเป็นตาหากเกิดการลงโทษที่รุนแรงเกินกว่าเหตุ          25.03%
อันดับ 3          ทุกๆฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นโรงเรียน ครู  นักเรียนและผู้ปกครองควรมีการพูดคุยหรือมีข้อตกลงร่วมกันเกี่ยวกับ
                วิธีการหรือรูปแบบการลงโทษที่เป็นที่พอใจของทุกฝ่าย                                        23.56%
อันดับ 4          ควรมีการคัดกรองครูที่มีใจรักในวิชาชีพอย่างแท้จริง และมีการทดสอบทางจิตวิทยาเป็นระยะๆ           14.23%

--สวนดุสิตโพลล์--

-พห-

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ