** จากเหตุปะทะไทย-เขมร ประชาชนแนะ “รัฐต้องแก้ปัญหาด้วยการเจรจาอย่างสันติวิธี” !!! จากเหตุปะทะกันระหว่างทหารไทยกับทหารเขมร ช่วงบ่ายของวันที่ 4 ก.พ. ส่งผลให้ประชาชนที่อยู่บริเวณชายแดนได้รับความเดือดร้อน บาดเจ็บ เสียชีวิต และต้องอพยพไปอยู่ที่ปลอดภัย ขณะที่รัฐบาลก็ได้มีการสั่งการและกำชับให้ข้าราชการและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องในพื้นที่เตรียมรับมือกับ สถานการณ์ต่างๆ “สวนดุสิตโพล” มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต จึงได้สอบถามความคิดเห็นจากประชาชนในกรุงเทพฯ ปริมณฑล ต่อเหตุปะทะกัน เพื่อ เป็นแนวทางป้องกันและแก้ไข จำนวนทั้งสิ้น 1,124 คน ระหว่างวันที่ 4-6 กุมภาพันธ์ 2554 สรุปผลได้ดังนี้
อันดับ 1 มาจากปัญหาการรุกล้ำเส้นเขตแดนที่เป็นปัญหายืดเยื้อมานานและยังหาข้อยุติไม่ได้ 49.27% อันดับ 2 เป็นห่วงชาวบ้านที่อาศัยอยู่บริเวณนั้นจะได้รับอันตรายหรือถูกลูกหลงจากเหตุปะทะกัน 36.21% อันดับ 3 ไม่อยากให้มีการปะทะกัน เพราะถึงอย่างไรไทยกับเขมรก็เป็นเพื่อนบ้านกัน 14.52% 2. จากเหตุปะทะกัน “รัฐบาล” ควรดำเนินการอย่างไร? อันดับ 1 รัฐบาลต้องแก้ปัญหาด้วยวิธีการเจรจาอย่างสันติวิธี ประนีประนอม 44.58% อันดับ 2 รัฐบาลต้องแก้ปัญหาอย่างจริงจัง เด็ดขาด เพื่อรักษาศักดิ์ศรีของประเทศชาติไว้ 34.63% อันดับ 3 รัฐบาลจะต้องออกมาชี้แจงข้อเท็จจริงให้กับคนไทยและต่างชาติเข้าใจถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้นพร้อมหาแนวร่วม 20.79% 3. จากเหตุปะทะกัน “กองทัพไทย” ควรดำเนินการอย่างไร? อันดับ 1 จะต้องปกป้องรักษาแผ่นดินของไทยไม่ให้ทหารเขมรเข้ามายึดครองได้ แสดงแสนยานุภาพของกองทัพ 38.66% อันดับ 2 จะต้องมีการข่าวที่ดี มีการวางแผนเตรียมรับมือกับสถานการณ์ที่อาจบานปลาย /ไม่ประมาท 33.09% อันดับ 3 จะต้องเตรียมพร้อมทั้งด้านกำลังพลและอาวุธยุทโธปกรณ์ 28.25% 4. ในฐานะประชาชน จะมีส่วนช่วยในเรื่องนี้อย่างไร? อันดับ 1 เป็นแรงใจและส่งกำลังใจให้กับทุกฝ่ายโดยเฉพาะทหารหาญที่ปฏิบัติหน้าที่ปกป้องอธิปไตย 52.16% อันดับ 2 จะติดตามข่าวสารอย่างต่อเนื่อง มีวิจารณญาณในการรับข้อมูล ไม่สร้างความวุ่นวายให้กับสังคม 27.40% อันดับ 3 ให้ความช่วยเหลือ บริจาคเงิน ข้าวของเครื่องใช้ที่จำเป็นให้กับชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อน 20.44% 5. “ทางออก” ของเรื่องนี้ควรทำอย่างไร? อันดับ 1 คงจะหาทางออกได้ยากเนื่องจากเป็นปัญหาที่ยืดเยื้อมานานตั้งแต่สมัยปู่ ย่า ตา ยาย 53.26% อันดับ 2 ทั้งไทยและเขมรจะต้องมีความจริงใจในการแก้ปัญหา นำข้อมูลหลักฐานที่เป็นจริงออกมาพิสูจน์กัน 24.56% อันดับ 3 ผู้นำของทั้ง 2 ประเทศควรเจรจาตกลงกัน โดยทั้ง 2 ฝ่ายยอมรับได้ 22.18% --สวนดุสิตโพลล์-- -พห-