ด้วยพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ.2547 มาตรา 91 บัญญัติ เรื่องการคัดลอกหรือลอกเลียนผลงานทางวิชาการ และเป็นความผิดวินัยอย่างร้ายแรง แต่ยังไม่มีความชัดเจนในเรื่องแนวทางการคัดลอกหรือลอกเลียนผลงานทางวิชาการและแนวทางการกำหนดโทษที่ชัดเจน เพื่อเป็นการสะท้อนความคิดเห็นจากผู้ที่เกี่ยวข้องในแวดวงการศึกษาและเพื่อใช้เป็นแนวทางประกอบการพิจารณาดำเนินการในเรื่องนี้ต่อไป “สวนดุสิตโพล” มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต จึงได้สอบถามความคิดเห็นจากผู้ทรงคุณวุฒิ อาจารย์ ครู และข้าราชการกระทรวงศึกษา ที่มีต่อกรณีดังกล่าว จำนวนทั้งสิ้น 436 คน ระหว่างวันที่ 21-25 เมษายน 2554 สรุปผลได้ดังนี้
ผลงานวิชาการ หมายถึง เอกสารหรือหลักฐานที่ทำขึ้นจากความรู้ ความสามารถทักษะ และประสบการณ์ โดยการศึกษา ค้นคว้า วิเคราะห์ สังเคราะห์ วิจัย และนำไปใช้ในการแก้ปัญหา หรือพัฒนางาน จนเกิดผลดีต่อการพัฒนาคุณภาพการจัดการศึกษาและเป็นประโยชน์ต่อความก้าวหน้าทางวิชาการ
อันดับ 1 เห็นด้วย 94.03%
เพราะ ผลงานวิชาการต้องมาจากความรู้ ความสามารถ ทักษะและประสบการณ์ของผู้จัดทำ ,สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้ในหลายๆทาง และสามารถนำความรู้หรือข้อค้นพบนั้นไปพัฒนาให้ดียิ่งขึ้น ฯลฯ
อันดับ 2 ไม่เห็นด้วย 5.97%
เพราะ นอกจากจะนำไปใช้ในการพัฒนาคุณภาพการจัดการศึกษาแล้ว ยังสามารถนำไปใช้ในการจัดการด้านอื่นๆได้ เช่น การพัฒนาเศรษฐกิจ ทรัพยากรมนุษย์ และการบริหารประเทศ ฯลฯ
อันดับ 1 ไม่เป็นผลงานทางวิชาการ 59.02%
เพราะ การทำผลงานทางวิชาการจะต้องเป็นไปตามเงื่อนไข กฎเกณฑ์ที่กำหนดไว้ จะต้องผ่านการพิจารณา รับรองจากผู้ทรงคุณวุฒิ ผู้เชี่ยวชาญ ในสาขาวิชานั้นๆ ฯลฯ
อันดับ 2 เป็นผลงานทางวิชาการ 40.98%
เพราะ การเขียนผลงานขึ้นมาจะต้องอาศัยความรู้ความสามารถ การวิเคราะห์ สังเคราะห์ และการรวบรวมข้อมูลจากหลายๆแห่ง โดยเป็นสิทธิของผู้เขียนว่าต้องการที่จะเผยแพร่หรือนำเสนออย่างไร ฯลฯ
อันดับ 1 เป็นผลงานทางวิชาการ 52.24%
เพราะ เป็นเจตนาของผู้ทำผลงานที่ตั้งใจทำ ถึงไม่ผ่านการอนุมัติแต่ยังมีโอกาสที่จะปรับปรุงแก้ไขให้ถูกต้องตามหลักวิชาการได้ ,การทำผลงานที่สร้างสรรค์ต้องอาศัยการรวบรวมข้อมูลจากหลายๆแหล่งที่น่าเชื่อถือ ฯลฯ
อันดับ 2 ไม่เป็นผลงานทางวิชาการ 47.76%
เพราะ ยังไม่ได้รับการยอมรับจากผู้ทรงคุณวุฒิหรือผู้เชี่ยวชาญ ต้องนำไปปรับปรุงแก้ไขตามกฎเกณฑ์ที่กำหนด เป็นผลงานที่ยังไม่ได้รับการการันตี ฯลฯ
1. ผลงาน งานแต่ง เรียบเรียง งานแปล หนังสือ หรือ เขียนบทความทางวิชาการ ที่ได้รับการตีพิมพ์เผยแพร่มาแล้ว และสามารถนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์ได้ต่อการพัฒนาคุณภาพการศึกษา
2. ผลงานวิจัย เป็นงานวิจัยที่ได้รับการตีพิมพ์เผยแพร่มาแล้ว และสามารถนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อการพัฒนาการจัดการศึกษา และคุณภาพการศึกษา
3. ผลงานทางวิชาการในลักษณะอื่น เช่น (1) การประเมินงาน หรือโครงการที่เกี่ยวกับการปฏิบัติงานในหน้าที่ (2) สื่อ นวัตกรรม ทางการศึกษา (3) เอกสารประกอบการปฏิบัติหน้าที่ทั้งด้านการเรียนการสอน บริหารจัดการศึกษา และการนิเทศการศึกษา ส่วนแผนการจัดการเรียนรู้เท่านั้นที่มิให้นำมาใช้เสนอเป็นผลงานทางวิชาการ
อันดับ 1 เห็นด้วย 80.60%
เพราะ เป็นผลงานที่ทำเสร็จแล้ว และเป็นไปตามหลักวิชาการ ได้รับการตีพิมพ์เผยแพร่ สามารถนำไปใช้ ให้เกิดประโยชน์ต่อการพัฒนาการจัดการศึกษา และคุณภาพการศึกษา ฯลฯ
อันดับ 2 ไม่เห็นด้วย 19.40%
เพราะ ผลงานทางวิชาการไม่จำเป็นต้องนำไปใช้เฉพาะด้านการศึกษาเพียงอย่างเดียว ,งานแปลคือการคัดลอกมา ฯลฯ
1 “ลอกเลียน” หมายถึง การทำซ้ำ คัดลอกโดยเจ้าของผลงานไม่ได้รับรู้ สิ่งที่ทำขึ้นมาโดยไม่ได้มาจากความคิดของตัวเองทั้งหมด 2 “ลอก” หมายถึง การนำของผู้อื่นมาทั้งหมด โดยไม่มีการแก้ไขใดๆ 3 “เลียน” หมายถึง พยายามทำให้เหมือนกับต้นฉบับหรืองานของคนอื่นที่ทำไว้แล้ว 6. คำว่า “คล้ายคลึงกัน” มีความหมายเหมือนกับ “การลอกเลียน” หรือไม่? อันดับ 1 ไม่เหมือนกัน 89.23%
เพราะ ถึงจะคล้ายคลึงกัน แต่ก็มีการนำความคิดของตนเองลงไปสอดแทรกหรือเพิ่มเติมลงไปด้วยแต่ลอกเลียน คือ การเอาของคนอื่นมาโดยที่ไม่ได้มีการศึกษาค้นคว้าเลย ฯลฯ
อันดับ 2 เหมือนกัน 10.77%
เพราะ มีทั้งลอกและเลียนจึงออกมาคล้ายคลึงกัน ฯลฯ
อันดับ 1 ไม่เป็นการลอกเลียน 90.77%
เพราะ แบบฟอร์มสำเร็จเป็นเพียงแค่การกำหนดรูปแบบของการทำผลงานทางวิชาการให้มีเค้าโครงที่เหมือนกัน แต่เนื้อหามีความต่างกันไป ฯลฯ
อันดับ 2 เป็นการลอกเลียน 9.23%
เพราะ ไม่ได้มาจากการคิดค้นขึ้นมาเอง เป็นการนำแบบฟอร์มที่มีอยู่แล้วมาใช้ โดยไม่มีการปรับเติมเสริมแต่งใดๆ /ขาดความแปลกใหม่ ฯลฯ
อันดับ 1 ไม่เป็นการลอกเลียน 92.54%
เพราะ เป็นการนำความรู้ที่ได้จากการอบรมมาใช้หรือประยุกต์กับผลงานของตนเองโดยใช้ความรู้ ทักษะ ประสบการณ์ของตนเองที่มีอยู่มาบูรณาการ ฯลฯ
อันดับ 2 เป็นการลอกเลียน 7.46%
เพราะ ผู้ทำผลงานวิชาการไม่ได้คิดเนื้อหาขึ้นมาเอง แต่ใช้ความคิดหรือข้อแนะนำที่ได้รับจากการอบรมมาหรือผู้ที่เข้าอบรมด้วย ฯลฯ
อันดับ 1 มีความหมายต่างกัน 88.06%
เพราะ “เลียน” คือ เหมือนบางส่วน “เหมือน” คือ 100% หรือทั้งหมดไม่ได้มีการแก้ไขใดๆ ฯลฯ
อันดับ 2 มีความหมายอย่างเดียวกัน 11.94%
เพราะ มีความหมายเดียวกัน เพราะทั้ง “เลียน” และ “เหมือน” ไม่ได้มาจากความคิดของผู้ทำผลงานอย่างแท้จริง ฯลฯ
--สวนดุสิตโพลล์--