จากการที่นายกฯทักษิณได้ลงพบปะประชาชนตามจังหวัดต่างๆทั่วประเทศ และได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมพื้นที่ในภาคอีสาน
โดยมีหัวหน้าพรรคชาติพัฒนาออกมาให้การต้อนรับเป็นอย่างดี จนเกิดกระแสที่ว่าอาจเกิดการรวมพรรคเข้าด้วยกันในเร็วๆนี้ “สวน
ดุสิตโพล” สถาบันราชภัฎสวนดุสิต จึงได้สำรวจความคิดเห็นของประชาชนที่พักอาศัยในเขตกรุงเทพฯและจังหวัด นครราชสีมา
จำนวนทั้งสิ้น 1,355 คน (คนกรุงเทพฯ 765 คน 56.46% คนโคราช 590 คน 43.54%) โดยสำรวจระหว่างวันที่
24 | 26 เมษายน2547สรุปผลได้ดังนี้
1. เมื่อพรรคชาติพัฒนารวมกับพรรคไทยรักไทยแล้ว “นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ” ควรได้ตำแหน่งอะไรจึงจะเหมาะสม
คนกทม. คนโคราช ภาพรวม
อันดับที่ 1 รองนายกรัฐมนตรี 29.22% 34.38% 31.80%
อันดับที่ 2 รองหัวหน้าพรรคไทยรักไทย 30.97% 26.26% 28.62%
อันดับที่ 3 ที่ปรึกษา /เลขาธิการพรรคไทยรักไทย 24.86% 22.51% 23.68%
อันดับที่ 4 รมต.ว่าการกระทรวงใดกระทรวงหนึ่ง 14.95% 16.85% 15.90%
2. เมื่อมีการรวมพรรคแล้ว จะทำให้มีปัญหาการทับพื้นที่ของ ส.ส. ภายในพรรคกันเองหรือไม่?
คนกทม. คนโคราช ภาพรวม
อันดับที่ 1 มีปัญหา 53.37% 44.90% 49.14%
เพราะ ส.ส.ทั้ง 2 พรรคที่เคยอยู่ในพื้นที่อาจไม่ยินยอมเพราะคิดว่าตนเองมีความเหมาะสมและเคยเป็นมาก่อน ฯลฯ
อันดับที่ 2 ไม่มีปัญหา 18.54% 33.67% 26.10%
เพราะ นายกฯทักษิณมีความเด็ดขาดหากตัดสินใจแล้วเชื่อว่า ส.ส.ภายในพรรคน่าจะทำตาม ฯลฯ
อันดับที่ 3 ไม่แน่ใจ 28.09% 21.43% 24.76%
เพราะ เก้าอี้ ส.ส.ใครๆก็อยากได้ ,หากมีการตกลงกันด้วยดีและสร้างความเข้าใจให้ตรงกันก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร ฯลฯ
3. จากปัญหาดังกล่าว เชื่อว่านายกฯทักษิณ จะจัดการเกี่ยวกับปัญหาการทับพื้นที่ของ ส.ส. ได้หรือไม่?
คนกทม. คนโคราช ภาพรวม
อันดับที่ 1 เชื่อว่าจะจัดการได้ 64.04% 68.63% 66.34%
เพราะ ตัวนายกฯเองมีความเป็นผู้นำและมีอำนาจในการตัดสินใจที่เด็ดขาด ,เป็นเพียงปัญหาเล็กน้อยเท่านั้น ฯลฯ
อันดับที่ 2 ไม่แน่ใจ 30.34% 23.21% 26.77%
เพราะ ในพรรคเดียวกันยังมีการแบ่งพรรคแบ่งพวก ความคิดเห็นหรือมุมมองทางการเมืองอาจไม่ตรงกัน ฯลฯ
อันดับที่ 3 จัดการไม่ได้ 5.62% 8.16% 6.89%
เพราะ อาจเกิดการรักพี่เสียดายน้อง, จำนวนสมาชิกมีมากกว่าตำแหน่งที่มีอยู่ทำให้การจัดสรรลำบาก ฯลฯ
4. หากเกิดการทับพื้นที่ของ ส.ส. ภายในพรรค คิดว่า นายกฯทักษิณควรให้สิทธิ์ใครก่อน
คนกทม. คนโคราช ภาพรวม
อันดับที่ 1 พิจารณาตามความเหมาะสมของตัวบุคคล 66.85% 54.08% 60.47%
เพราะ ดูจากฐานคะแนนเสียงในพื้นที่ของแต่ละบุคคล, มีผลงานและเป็นที่ยอมรับของคนส่วนใหญ่ในพื้นที่นั้น ฯลฯ
อันดับที่ 2 ส.ส. จากพรรคชาติพัฒนา 12.93% 30.56% 21.74%
เพราะ เป็นพรรคที่มีฐานเสียงในภาคอีสานมาก,ถือว่าเป็นการให้เกียรติกับสมาชิกใหม่ ฯลฯ
อันดับที่ 3 ส.ส. จากพรรคไทยรักไทย 20.22% 15.36% 17.79%
เพราะ เป็นผู้ที่อยู่กับพรรคมานาน,เป็นการรักษาน้ำใจเพื่อไม่ให้เกิดความขัดแย้งภายในพรรค ฯลฯ
5. การรวมพรรคระหว่าง พรรคชาติพัฒนา กับ พรรคไทยรักไทย เมื่อเปรียบเทียบแล้วมีผลดีหรือผลเสียมากกว่ากัน
คนกทม. คนโคราช ภาพรวม
อันดับที่ 1 ผลดีมากกว่า 33.71% 48.21% 40.96%
เพราะ มีคะแนนเสียงที่มากกว่า,นักการเมืองแต่ละท่านล้วนมีประสบการณ์มานานจะได้ช่วยกันทำงานให้ดีขึ้น ฯลฯ
อันดับที่ 2 ผลดีและผลเสียพอๆกัน 27.53% 22.24% 24.89%
เพราะ หากจะทำงานใหญ่ต้องมีการลองถูกลองผิดกันก่อนทั้งนั้น,ได้อีกอย่างก็ต้องเสียอีกอย่าง ฯลฯ
อันดับที่ 3 ไม่แน่ใจ 29.77% 18.37% 24.07%
เพราะ คงต้องรอดูการแก้ไขปัญหาจากนายกฯ ก่อนว่าจะเป็นไปในทิศทางใด,ยังไม่มีการประกาศรวมพรรคที่แน่นอน ฯลฯ
อันดับที่ 4 ผลเสียมากกว่า 8.99% 11.18% 10.08%
เพราะ ต่างฝ่ายต่างมีความคิดเห็นที่ไม่ตรงกัน,อาจเกิดการแบ่งพรรคแบ่งพวก,การดูแลภายในพรรคไม่ทั่วถึง ฯลฯ
--สวนดุสิตโพล--
-ลจ-
โดยมีหัวหน้าพรรคชาติพัฒนาออกมาให้การต้อนรับเป็นอย่างดี จนเกิดกระแสที่ว่าอาจเกิดการรวมพรรคเข้าด้วยกันในเร็วๆนี้ “สวน
ดุสิตโพล” สถาบันราชภัฎสวนดุสิต จึงได้สำรวจความคิดเห็นของประชาชนที่พักอาศัยในเขตกรุงเทพฯและจังหวัด นครราชสีมา
จำนวนทั้งสิ้น 1,355 คน (คนกรุงเทพฯ 765 คน 56.46% คนโคราช 590 คน 43.54%) โดยสำรวจระหว่างวันที่
24 | 26 เมษายน2547สรุปผลได้ดังนี้
1. เมื่อพรรคชาติพัฒนารวมกับพรรคไทยรักไทยแล้ว “นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ” ควรได้ตำแหน่งอะไรจึงจะเหมาะสม
คนกทม. คนโคราช ภาพรวม
อันดับที่ 1 รองนายกรัฐมนตรี 29.22% 34.38% 31.80%
อันดับที่ 2 รองหัวหน้าพรรคไทยรักไทย 30.97% 26.26% 28.62%
อันดับที่ 3 ที่ปรึกษา /เลขาธิการพรรคไทยรักไทย 24.86% 22.51% 23.68%
อันดับที่ 4 รมต.ว่าการกระทรวงใดกระทรวงหนึ่ง 14.95% 16.85% 15.90%
2. เมื่อมีการรวมพรรคแล้ว จะทำให้มีปัญหาการทับพื้นที่ของ ส.ส. ภายในพรรคกันเองหรือไม่?
คนกทม. คนโคราช ภาพรวม
อันดับที่ 1 มีปัญหา 53.37% 44.90% 49.14%
เพราะ ส.ส.ทั้ง 2 พรรคที่เคยอยู่ในพื้นที่อาจไม่ยินยอมเพราะคิดว่าตนเองมีความเหมาะสมและเคยเป็นมาก่อน ฯลฯ
อันดับที่ 2 ไม่มีปัญหา 18.54% 33.67% 26.10%
เพราะ นายกฯทักษิณมีความเด็ดขาดหากตัดสินใจแล้วเชื่อว่า ส.ส.ภายในพรรคน่าจะทำตาม ฯลฯ
อันดับที่ 3 ไม่แน่ใจ 28.09% 21.43% 24.76%
เพราะ เก้าอี้ ส.ส.ใครๆก็อยากได้ ,หากมีการตกลงกันด้วยดีและสร้างความเข้าใจให้ตรงกันก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร ฯลฯ
3. จากปัญหาดังกล่าว เชื่อว่านายกฯทักษิณ จะจัดการเกี่ยวกับปัญหาการทับพื้นที่ของ ส.ส. ได้หรือไม่?
คนกทม. คนโคราช ภาพรวม
อันดับที่ 1 เชื่อว่าจะจัดการได้ 64.04% 68.63% 66.34%
เพราะ ตัวนายกฯเองมีความเป็นผู้นำและมีอำนาจในการตัดสินใจที่เด็ดขาด ,เป็นเพียงปัญหาเล็กน้อยเท่านั้น ฯลฯ
อันดับที่ 2 ไม่แน่ใจ 30.34% 23.21% 26.77%
เพราะ ในพรรคเดียวกันยังมีการแบ่งพรรคแบ่งพวก ความคิดเห็นหรือมุมมองทางการเมืองอาจไม่ตรงกัน ฯลฯ
อันดับที่ 3 จัดการไม่ได้ 5.62% 8.16% 6.89%
เพราะ อาจเกิดการรักพี่เสียดายน้อง, จำนวนสมาชิกมีมากกว่าตำแหน่งที่มีอยู่ทำให้การจัดสรรลำบาก ฯลฯ
4. หากเกิดการทับพื้นที่ของ ส.ส. ภายในพรรค คิดว่า นายกฯทักษิณควรให้สิทธิ์ใครก่อน
คนกทม. คนโคราช ภาพรวม
อันดับที่ 1 พิจารณาตามความเหมาะสมของตัวบุคคล 66.85% 54.08% 60.47%
เพราะ ดูจากฐานคะแนนเสียงในพื้นที่ของแต่ละบุคคล, มีผลงานและเป็นที่ยอมรับของคนส่วนใหญ่ในพื้นที่นั้น ฯลฯ
อันดับที่ 2 ส.ส. จากพรรคชาติพัฒนา 12.93% 30.56% 21.74%
เพราะ เป็นพรรคที่มีฐานเสียงในภาคอีสานมาก,ถือว่าเป็นการให้เกียรติกับสมาชิกใหม่ ฯลฯ
อันดับที่ 3 ส.ส. จากพรรคไทยรักไทย 20.22% 15.36% 17.79%
เพราะ เป็นผู้ที่อยู่กับพรรคมานาน,เป็นการรักษาน้ำใจเพื่อไม่ให้เกิดความขัดแย้งภายในพรรค ฯลฯ
5. การรวมพรรคระหว่าง พรรคชาติพัฒนา กับ พรรคไทยรักไทย เมื่อเปรียบเทียบแล้วมีผลดีหรือผลเสียมากกว่ากัน
คนกทม. คนโคราช ภาพรวม
อันดับที่ 1 ผลดีมากกว่า 33.71% 48.21% 40.96%
เพราะ มีคะแนนเสียงที่มากกว่า,นักการเมืองแต่ละท่านล้วนมีประสบการณ์มานานจะได้ช่วยกันทำงานให้ดีขึ้น ฯลฯ
อันดับที่ 2 ผลดีและผลเสียพอๆกัน 27.53% 22.24% 24.89%
เพราะ หากจะทำงานใหญ่ต้องมีการลองถูกลองผิดกันก่อนทั้งนั้น,ได้อีกอย่างก็ต้องเสียอีกอย่าง ฯลฯ
อันดับที่ 3 ไม่แน่ใจ 29.77% 18.37% 24.07%
เพราะ คงต้องรอดูการแก้ไขปัญหาจากนายกฯ ก่อนว่าจะเป็นไปในทิศทางใด,ยังไม่มีการประกาศรวมพรรคที่แน่นอน ฯลฯ
อันดับที่ 4 ผลเสียมากกว่า 8.99% 11.18% 10.08%
เพราะ ต่างฝ่ายต่างมีความคิดเห็นที่ไม่ตรงกัน,อาจเกิดการแบ่งพรรคแบ่งพวก,การดูแลภายในพรรคไม่ทั่วถึง ฯลฯ
--สวนดุสิตโพล--
-ลจ-