จากที่นายกฯทักษิณจะซื้อหุ้นทีมลิเวอร์พูล 30 % โดยให้เหตุผลว่า ทีมลิเวอร์พูลเป็นทีมที่คนในเอเชียรู้จักเป็นอย่างดี,ต้องการ
ส่งเสริมกีฬาฟุตบอลไทยโดยจะมีการเปิดวิทยาลัยฟุตบอลและต้องการให้ทีมไทยมีโอกาสสู่ฟุตบอลโลก “สวนดุสิตโพล” สถาบันราชภัฎสวนดุสิต
จึงได้สำรวจความคิดเห็นของประชาชนทั่วไปที่พักอาศัยในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑล จำนวนทั้งสิ้น 1,129 คน (ชาย 517 คน 45.79%
หญิง 612 คน 54.21%) โดยสำรวจระหว่างวันที่ 10 - 11 พฤษภาคม 2547 สรุปผลได้ดังนี้
1. ทีมฟุตบอล “ประชาชน” อยากให้ซื้อมากที่สุด
ชาย หญิง ภาพรวม
อันดับที่ 1 ลิเวอร์พูล 34.94% 43.03% 38.98%
อันดับที่ 2 แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด 34.94% 38.37% 36.66%
อันดับที่ 3 อาร์เซนอล 19.28% 5.81% 12.54%
อันดับที่ 4 รีลมาดริด 7.23% 11.63% 9.43%
อันดับที่ 5 ลีดส์ ยูไนเต็ด 3.61% 1.16% 2.39%
2. “ประชาชน” เห็นด้วยหรือไม่กับเหตุผลที่นายกฯทักษิณจะซื้อหุ้นทีมลิเวอร์พูลดังต่อไปนี้
2.1 ทีมลิเวอร์พูลเป็นทีมที่คนในเอเชียรู้จักเป็นอย่างดี
ชาย หญิง ภาพรวม
อันดับที่ 1 เห็นด้วย 83.18% 90.91% 87.05%
เพราะ ลิเวอร์พูลเป็นทีมเก่าแก่มีชื่อเสียงมานาน,คนไทยส่วนใหญ่ชื่นชอบทีมนี้กันมาก ฯลฯ
อันดับที่ 2 ไม่เห็นด้วย 16.82% 9.09% 12.95%
เพราะ ยังไม่ได้รับการยืนยันที่ชัดเจนว่าเงินที่ใช้ในครั้งนี้เป็นเงินส่วนตัวหรือของรัฐบาล,ต้องใช้เงินจำนวนมหาศาล ฯลฯ
2.2 ในอนาคตจะส่งเสริมกีฬาฟุตบอลในประเทศไทยและพัฒนาให้เป็นวิทยาลัยฟุตบอล
ชาย หญิง ภาพรวม
อันดับที่ 1 เห็นด้วย 94.39% 91.84% 93.12%
เพราะ เป็นการกระตุ้นให้เยาวชนไทยหันมาสนใจกีฬาฟุตบอลมากขึ้น,พัฒนาเทคนิคและฝีมือได้เท่าเทียมกับต่างประเทศ ฯลฯ
อันดับที่ 2 ไม่เห็นด้วย 5.61% 8.16% 6.88%
เพราะ หากมีความตั้งใจจริงในการพัฒนากีฬาฟุตบอล ควรจะหาวิธีอื่นดีกว่าโค้ชคนไทยก็มีฝีมือหลายคน ฯลฯ
2.3 ต้องการให้ทีมฟุตบอลของไทยมีโอกาสพัฒนาไปสู่ฟุตบอลโลก
ชาย หญิง ภาพรวม
อันดับที่ 1 เห็นด้วย 93.46% 89.90% 91.68%
เพราะ เป็นการสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทย,อยากเห็นนักฟุตบอลไทยได้ลงเล่นในระดับต่างประเทศ ฯลฯ
อันดับที่ 2 ไม่เห็นด้วย 6.54% 10.10% 8.32%
เพราะ วงการกีฬาในบ้านเราแทบจะทุกประเภทล้วนแต่มีความต้องการที่จะพัฒนาให้เทียบเท่าระดับสากลเหมือนกัน ฯลฯ
3. “ผลดี” ของการซื้อหุ้นทีมลิเวอร์พูล คือ
ชาย หญิง ภาพรวม
อันดับที่ 1 ทำให้เกิดความก้าวหน้าในวงการกีฬาฟุตบอลไทย 64.94% 41.03% 52.99%
อันดับที่ 2 ทำให้ประเทศไทยเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก 14.29% 28.21% 21.25%
อันดับที่ 3 เกิดการขยายตัวทางด้านธุรกิจของประเทศ
โดยใช้ความมีชื่อเสียงจากลิเวอร์พูล 10.39% 16.67% 13.53%
อันดับที่ 4 ทีมฟุตบอลของไทยมีโอกาสแสดงความสามารถไปถึงระดับโลก 6.49% 11.53% 9.01%
อันดับที่ 5 จะได้โค้ชที่มีประสบการณ์ระดับชาติมาทำการสอนเทคนิคต่างๆให้ 3.89% 2.56% 3.22%
4. “ผลเสีย” ของการซื้อหุ้นทีมลิเวอร์พูล คือ
ชาย หญิง ภาพรวม
อันดับที่ 1 เกิดการสิ้นเปลืองงบประมาณเป็นจำนวนมาก 62.16% 72.55% 67.36%
อันดับที่ 2 น่าระดมทุนตั้งกองทุนช่วยผู้ยากไร้ในประเทศดีกว่า 10.81% 15.69% 13.25%
อันดับที่ 3 ไม่ใช่ผู้ถือหุ้นหลักไม่มีอำนาจในการตัดสินใจ 21.62% 3.92% 12.77%
อันดับที่ 4 อาจมีการเล่นพนันฟุตบอลมากขึ้น 5.41% 7.84% 6.62%
5. โดยภาพรวมแล้ว “ประชาชน” เห็นด้วยหรือไม่ ? ที่นายกฯทักษิณซื้อหุ้นทีมลิเวอร์พูล
ชาย หญิง ภาพรวม
อันดับที่ 1 เห็นด้วย 64.16% 37.75% 50.95%
เพราะ ทำให้ประเทศไทยเป็นที่รู้จักทั่วโลก,วงการกีฬาฟุตบอลของไทยจะได้มีโอกาสพัฒนาการเล่นมากขึ้น ฯลฯ
อันดับที่ 2 ไม่แน่ใจ 17.92% 45.92% 31.92%
เพราะ ยังไม่ได้รับการยืนยันว่าเงินที่ต้องจ่ายเป็นเงินจากส่วนไหน ฯลฯ
อันดับที่ 3 ไม่เห็นด้วย 17.92% 16.33% 17.13%
เพราะ ต้องการสร้างกระแสเพื่อกลบเกลื่อนปัญหาการเมืองมากกว่า,ประเทศไทยยังต้องใช้เงินในการพัฒนาอีกมาก ฯลฯ
6. “ประชาชน” คิดว่าจากการที่นายกฯทักษิณ ซื้อหุ้นทีมลิเวอร์พูลจะทำให้มีการเล่นการพนันเพิ่มขึ้นหรือไม่?
ชาย หญิง ภาพรวม
อันดับที่ 1 เพิ่มขึ้น 31.78% 58.16% 44.97%
เพราะ ทำให้ทุกคนหันมาสนใจและติดตามกีฬาฟุตบอลมากขึ้น ,การพนันทำให้เพิ่มความสนุกในการเล่น ฯลฯ
อันดับที่ 2 ไม่แน่ใจ 31.78% 26.53% 29.15%
เพราะ ขึ้นอยู่กับวิจารณญาณของแต่ละคน ,ควรรอดูไปก่อน ฯลฯ
อันดับที่ 3 เท่าเดิม 36.44% 15.31% 25.88%
เพราะ ที่ผ่านมาการพนันกีฬาฟุตบอลมีมากอยู่แล้ว,ไม่น่าจะเกี่ยวกันเพราะเป็นเพียงการซื้อหุ้นเท่านั้น ฯลฯ
7. จากกระแสข่าวการซื้อหุ้นทีมลิเวอร์พูล “ประชาชน” คิดว่าเป็นการกลบเกลื่อนกระแสทางการเมืองใช่หรือไม่?
ชาย หญิง ภาพรวม
อันดับที่ 1 ไม่แน่ใจ 42.45% 46.94% 44.69%
เพราะ คิดว่ากีฬากับการเมืองไม่น่าจะเกี่ยวข้องกัน,นายกฯทักษิณมีความคิดแปลกใหม่อยู่ตลอดเวลา ฯลฯ
อันดับที่ 2 ไม่ใช่ 40.57% 27.55% 34.06%
เพราะ ก่อนหน้านี้มีข่าวว่าจะซื้อหุ้นทีมลิเวอร์พูลอยู่แล้ว,เป็นความบังเอิญมากกว่าที่มีข่าวในช่วงที่วุ่นวายพอดี ฯลฯ
อันดับที่ 3 ใช่ 16.98% 25.51% 21.25%
เพราะ ต้องการสร้างกระแสเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจจากเรื่องการเมือง ฯลฯ
--สวนดุสิตโพล--
-ลจ-
ส่งเสริมกีฬาฟุตบอลไทยโดยจะมีการเปิดวิทยาลัยฟุตบอลและต้องการให้ทีมไทยมีโอกาสสู่ฟุตบอลโลก “สวนดุสิตโพล” สถาบันราชภัฎสวนดุสิต
จึงได้สำรวจความคิดเห็นของประชาชนทั่วไปที่พักอาศัยในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑล จำนวนทั้งสิ้น 1,129 คน (ชาย 517 คน 45.79%
หญิง 612 คน 54.21%) โดยสำรวจระหว่างวันที่ 10 - 11 พฤษภาคม 2547 สรุปผลได้ดังนี้
1. ทีมฟุตบอล “ประชาชน” อยากให้ซื้อมากที่สุด
ชาย หญิง ภาพรวม
อันดับที่ 1 ลิเวอร์พูล 34.94% 43.03% 38.98%
อันดับที่ 2 แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด 34.94% 38.37% 36.66%
อันดับที่ 3 อาร์เซนอล 19.28% 5.81% 12.54%
อันดับที่ 4 รีลมาดริด 7.23% 11.63% 9.43%
อันดับที่ 5 ลีดส์ ยูไนเต็ด 3.61% 1.16% 2.39%
2. “ประชาชน” เห็นด้วยหรือไม่กับเหตุผลที่นายกฯทักษิณจะซื้อหุ้นทีมลิเวอร์พูลดังต่อไปนี้
2.1 ทีมลิเวอร์พูลเป็นทีมที่คนในเอเชียรู้จักเป็นอย่างดี
ชาย หญิง ภาพรวม
อันดับที่ 1 เห็นด้วย 83.18% 90.91% 87.05%
เพราะ ลิเวอร์พูลเป็นทีมเก่าแก่มีชื่อเสียงมานาน,คนไทยส่วนใหญ่ชื่นชอบทีมนี้กันมาก ฯลฯ
อันดับที่ 2 ไม่เห็นด้วย 16.82% 9.09% 12.95%
เพราะ ยังไม่ได้รับการยืนยันที่ชัดเจนว่าเงินที่ใช้ในครั้งนี้เป็นเงินส่วนตัวหรือของรัฐบาล,ต้องใช้เงินจำนวนมหาศาล ฯลฯ
2.2 ในอนาคตจะส่งเสริมกีฬาฟุตบอลในประเทศไทยและพัฒนาให้เป็นวิทยาลัยฟุตบอล
ชาย หญิง ภาพรวม
อันดับที่ 1 เห็นด้วย 94.39% 91.84% 93.12%
เพราะ เป็นการกระตุ้นให้เยาวชนไทยหันมาสนใจกีฬาฟุตบอลมากขึ้น,พัฒนาเทคนิคและฝีมือได้เท่าเทียมกับต่างประเทศ ฯลฯ
อันดับที่ 2 ไม่เห็นด้วย 5.61% 8.16% 6.88%
เพราะ หากมีความตั้งใจจริงในการพัฒนากีฬาฟุตบอล ควรจะหาวิธีอื่นดีกว่าโค้ชคนไทยก็มีฝีมือหลายคน ฯลฯ
2.3 ต้องการให้ทีมฟุตบอลของไทยมีโอกาสพัฒนาไปสู่ฟุตบอลโลก
ชาย หญิง ภาพรวม
อันดับที่ 1 เห็นด้วย 93.46% 89.90% 91.68%
เพราะ เป็นการสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทย,อยากเห็นนักฟุตบอลไทยได้ลงเล่นในระดับต่างประเทศ ฯลฯ
อันดับที่ 2 ไม่เห็นด้วย 6.54% 10.10% 8.32%
เพราะ วงการกีฬาในบ้านเราแทบจะทุกประเภทล้วนแต่มีความต้องการที่จะพัฒนาให้เทียบเท่าระดับสากลเหมือนกัน ฯลฯ
3. “ผลดี” ของการซื้อหุ้นทีมลิเวอร์พูล คือ
ชาย หญิง ภาพรวม
อันดับที่ 1 ทำให้เกิดความก้าวหน้าในวงการกีฬาฟุตบอลไทย 64.94% 41.03% 52.99%
อันดับที่ 2 ทำให้ประเทศไทยเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก 14.29% 28.21% 21.25%
อันดับที่ 3 เกิดการขยายตัวทางด้านธุรกิจของประเทศ
โดยใช้ความมีชื่อเสียงจากลิเวอร์พูล 10.39% 16.67% 13.53%
อันดับที่ 4 ทีมฟุตบอลของไทยมีโอกาสแสดงความสามารถไปถึงระดับโลก 6.49% 11.53% 9.01%
อันดับที่ 5 จะได้โค้ชที่มีประสบการณ์ระดับชาติมาทำการสอนเทคนิคต่างๆให้ 3.89% 2.56% 3.22%
4. “ผลเสีย” ของการซื้อหุ้นทีมลิเวอร์พูล คือ
ชาย หญิง ภาพรวม
อันดับที่ 1 เกิดการสิ้นเปลืองงบประมาณเป็นจำนวนมาก 62.16% 72.55% 67.36%
อันดับที่ 2 น่าระดมทุนตั้งกองทุนช่วยผู้ยากไร้ในประเทศดีกว่า 10.81% 15.69% 13.25%
อันดับที่ 3 ไม่ใช่ผู้ถือหุ้นหลักไม่มีอำนาจในการตัดสินใจ 21.62% 3.92% 12.77%
อันดับที่ 4 อาจมีการเล่นพนันฟุตบอลมากขึ้น 5.41% 7.84% 6.62%
5. โดยภาพรวมแล้ว “ประชาชน” เห็นด้วยหรือไม่ ? ที่นายกฯทักษิณซื้อหุ้นทีมลิเวอร์พูล
ชาย หญิง ภาพรวม
อันดับที่ 1 เห็นด้วย 64.16% 37.75% 50.95%
เพราะ ทำให้ประเทศไทยเป็นที่รู้จักทั่วโลก,วงการกีฬาฟุตบอลของไทยจะได้มีโอกาสพัฒนาการเล่นมากขึ้น ฯลฯ
อันดับที่ 2 ไม่แน่ใจ 17.92% 45.92% 31.92%
เพราะ ยังไม่ได้รับการยืนยันว่าเงินที่ต้องจ่ายเป็นเงินจากส่วนไหน ฯลฯ
อันดับที่ 3 ไม่เห็นด้วย 17.92% 16.33% 17.13%
เพราะ ต้องการสร้างกระแสเพื่อกลบเกลื่อนปัญหาการเมืองมากกว่า,ประเทศไทยยังต้องใช้เงินในการพัฒนาอีกมาก ฯลฯ
6. “ประชาชน” คิดว่าจากการที่นายกฯทักษิณ ซื้อหุ้นทีมลิเวอร์พูลจะทำให้มีการเล่นการพนันเพิ่มขึ้นหรือไม่?
ชาย หญิง ภาพรวม
อันดับที่ 1 เพิ่มขึ้น 31.78% 58.16% 44.97%
เพราะ ทำให้ทุกคนหันมาสนใจและติดตามกีฬาฟุตบอลมากขึ้น ,การพนันทำให้เพิ่มความสนุกในการเล่น ฯลฯ
อันดับที่ 2 ไม่แน่ใจ 31.78% 26.53% 29.15%
เพราะ ขึ้นอยู่กับวิจารณญาณของแต่ละคน ,ควรรอดูไปก่อน ฯลฯ
อันดับที่ 3 เท่าเดิม 36.44% 15.31% 25.88%
เพราะ ที่ผ่านมาการพนันกีฬาฟุตบอลมีมากอยู่แล้ว,ไม่น่าจะเกี่ยวกันเพราะเป็นเพียงการซื้อหุ้นเท่านั้น ฯลฯ
7. จากกระแสข่าวการซื้อหุ้นทีมลิเวอร์พูล “ประชาชน” คิดว่าเป็นการกลบเกลื่อนกระแสทางการเมืองใช่หรือไม่?
ชาย หญิง ภาพรวม
อันดับที่ 1 ไม่แน่ใจ 42.45% 46.94% 44.69%
เพราะ คิดว่ากีฬากับการเมืองไม่น่าจะเกี่ยวข้องกัน,นายกฯทักษิณมีความคิดแปลกใหม่อยู่ตลอดเวลา ฯลฯ
อันดับที่ 2 ไม่ใช่ 40.57% 27.55% 34.06%
เพราะ ก่อนหน้านี้มีข่าวว่าจะซื้อหุ้นทีมลิเวอร์พูลอยู่แล้ว,เป็นความบังเอิญมากกว่าที่มีข่าวในช่วงที่วุ่นวายพอดี ฯลฯ
อันดับที่ 3 ใช่ 16.98% 25.51% 21.25%
เพราะ ต้องการสร้างกระแสเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจจากเรื่องการเมือง ฯลฯ
--สวนดุสิตโพล--
-ลจ-