จากที่นายกฯทักษิณจะซื้อหุ้นทีมลิเวอร์พูล 30% และมีกระแสข่าวนักธุรกิจของอังกฤษ สนใจที่จะซื้อโดยให้ราคา 73 ล้านปอนด์ หรือ
5,110 ล้านบาท นั้น “สวนดุสิตโพล” สถาบันราชภัฎสวนดุสิต จึงได้สำรวจความคิดเห็นของแฟนบอลชาวไทยทั้งแฟน ลิเวอร์พูล แมนยูฯ
ที่พักอาศัยในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑล จำนวนทั้งสิ้น 1,280 คน (ชาย 864 คน 67.50% หญิง 416 คน 32.50%) โดยสำรวจ
ระหว่างวันที่ 11 | 12 พฤษภาคม 2547 สรุปผลได้ดังนี้
1. แฟนบอลคิดอย่างไร? ที่มีนักธุรกิจชาวอังกฤษ สนใจที่ซื้อหุ้นลิเวอร์พูลตัดหน้าไทยด้วยมูลค่า 73 ล้านปอนด์
ชาย หญิง ภาพรวม
อันดับที่ 1 ลิเวอร์พูลคงขายให้กับผู้ที่ให้ราคาสูงกว่า
เพราะจะมีผลประโยชน์ด้านธุรกิจมากกว่า 28.57% 40.48% 34.52%
อันดับที่ 2 ถ้าไทยซื้อไม่ได้ก็ควรนำเงินส่วนนั้นมาพัฒนาประเทศในด้านอื่นๆ 21.43% 33.34% 27.38%
อันดับที่ 3 ถ้าซื้อไม่ได้ก็ไปซื้อทีมอื่นเช่น อาร์เซนอล เพราะเก่งกว่าลิเวอร์พูล 25.00% 14.28% 19.64%
อันดับที่ 4 อังกฤษคงไม่อยากให้ทีมลิเวอร์พูลเป็นของคนไทยมากนัก 14.29% 4.76% 9.53%
อันดับที่ 5 คงเป็นสิ่งที่ต้องการให้มีการแข่งขันด้านราคา เพื่อให้หุ้นมีราคาสูงขึ้น 10.71% 7.14% 8.93%
2. แฟนบอล คิดว่า การประกาศจะซื้อหุ้นมากกว่าไทย จะส่งผลกระทบต่อการเจรจาของไทยหรือไม่?
ชาย หญิง ภาพรวม
อันดับที่ 1 ส่งผลกระทบ 38.47% 46.29% 42.39%
เพราะ ทำให้เกิดทางเลือกในการตัดสินใจมากขึ้น, ผู้ขายย่อมคิดถึงผลกำไรเป็นหลัก ฯลฯ
อันดับที่ 2 ค่อนข้างส่งผลกระทบ 30.77% 25.92% 28.34%
เพราะ จำนวนเงินสูงกว่าอาจมีผลกระทบต่อการตัดสินใจบ้าง, อาจสร้างความลังเลให้กับผู้ขาย ฯลฯ
อันดับที่ 3 ไม่แน่ใจ 15.38% 22.23% 18.80%
เพราะ ขึ้นอยู่กับการเจรจาของไทย, ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของผู้บริหารทีมลิเวอร์พูล,ถ้าสนใจตลาดเอเชียจริง ฯลฯ
อันดับที่ 4 ไม่ส่งผลกระทบ 15.38% 5.56% 10.47%
เพราะ ไทยมีการเจรจาตกลงก่อน,เป็นที่รู้กันทั่วไปแล้ว ทางลิเวอร์คงไม่กล้าผิดคำพูด ฯลฯ
3. แฟนบอล คิดว่า นายกฯ ทักษิณ ควรจะสู้ราคากับนักธุรกิจที่จะซื้อหุ้นลิเวอร์พูลด้วยหรือไม่?
ชาย หญิง ภาพรวม
อันดับที่ 1 นายกฯ ไม่ควรสู้ราคา 57.70% 57.40% 57.55%
เพราะ เป็นการสิ้นเปลื้องเพิ่มมากขึ้น, สามารถซื้อทีมอื่นที่เก่งกว่าได้, นำเงินไปทำประโยชน์อย่างอื่นดีกว่า ฯลฯ
อันดับที่ 2 นายกฯ ควรจะสู้ราคา 42.30% 42.60% 42.45%
เพราะ เป็นการสร้างชื่อเสียงให้ไทย,เพื่อการพัฒนาศักยภาพฟุตบอลไทย, ผลประโยชน์ที่จะตามมาในอนาคต ฯลฯ
4. ถ้าการตัดสินใจซื้อลิเวอร์พูลครั้งนี้ไม่สำเร็จ แฟนบอลคิดว่าจะส่งผลกระทบต่อบทบาทของรัฐบาลหรือไม่?
ชาย หญิง ภาพรวม
อันดับที่ 1 ไม่ส่งผลกระทบ 73.07% 53.70% 63.39%
เพราะ ไม่ใช่สิ่งจำเป็น,ไม่มีผลกับเศรษฐกิจมากนัก, เป็นเรื่องของคนบางกลุ่มเท่านั้น ฯลฯ
อันดับที่ 2 ไม่แน่ใจ 23.07% 29.63% 26.35%
เพราะ อาจเป็นการโปรโมทรัฐบาล,ฝ่ายค้านอาจนำเรื่องนี้มาโจมตีได้ภายหลัง, มีความเกี่ยวข้องกันน้อยมาก ฯลฯ
อันดับที่ 3 ส่งผลกระทบ 3.85% 16.67% 10.26%
เพราะ ทำให้ต่างชาติและประชาชนขาดความเชื่อมั่น, เหมือนรัฐบาลทำงานไม่สำเร็จ ฯลฯ
5. แฟนบอล คิดว่า ควรใช้งบประมาณจากแหล่งใดในการซื้อหุ้นครั้งนี้
ชาย หญิง ภาพรวม
อันดับที่ 1 งบประมาณส่วนตัวของนายกฯ 35.96% 36.03% 35.99%
อันดับที่ 2 หุ้นส่วนจากภาคเอกชน 29.06% 24.68% 26.87%
อันดับที่ 3 งบประมาณจากกองสลากฯ 19.70% 18.64% 19.17%
อันดับที่ 4 ขายหุ้นให้ประชาชน 15.28% 20.65% 17.97%
--สวนดุสิตโพล--
-ลจ-
5,110 ล้านบาท นั้น “สวนดุสิตโพล” สถาบันราชภัฎสวนดุสิต จึงได้สำรวจความคิดเห็นของแฟนบอลชาวไทยทั้งแฟน ลิเวอร์พูล แมนยูฯ
ที่พักอาศัยในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑล จำนวนทั้งสิ้น 1,280 คน (ชาย 864 คน 67.50% หญิง 416 คน 32.50%) โดยสำรวจ
ระหว่างวันที่ 11 | 12 พฤษภาคม 2547 สรุปผลได้ดังนี้
1. แฟนบอลคิดอย่างไร? ที่มีนักธุรกิจชาวอังกฤษ สนใจที่ซื้อหุ้นลิเวอร์พูลตัดหน้าไทยด้วยมูลค่า 73 ล้านปอนด์
ชาย หญิง ภาพรวม
อันดับที่ 1 ลิเวอร์พูลคงขายให้กับผู้ที่ให้ราคาสูงกว่า
เพราะจะมีผลประโยชน์ด้านธุรกิจมากกว่า 28.57% 40.48% 34.52%
อันดับที่ 2 ถ้าไทยซื้อไม่ได้ก็ควรนำเงินส่วนนั้นมาพัฒนาประเทศในด้านอื่นๆ 21.43% 33.34% 27.38%
อันดับที่ 3 ถ้าซื้อไม่ได้ก็ไปซื้อทีมอื่นเช่น อาร์เซนอล เพราะเก่งกว่าลิเวอร์พูล 25.00% 14.28% 19.64%
อันดับที่ 4 อังกฤษคงไม่อยากให้ทีมลิเวอร์พูลเป็นของคนไทยมากนัก 14.29% 4.76% 9.53%
อันดับที่ 5 คงเป็นสิ่งที่ต้องการให้มีการแข่งขันด้านราคา เพื่อให้หุ้นมีราคาสูงขึ้น 10.71% 7.14% 8.93%
2. แฟนบอล คิดว่า การประกาศจะซื้อหุ้นมากกว่าไทย จะส่งผลกระทบต่อการเจรจาของไทยหรือไม่?
ชาย หญิง ภาพรวม
อันดับที่ 1 ส่งผลกระทบ 38.47% 46.29% 42.39%
เพราะ ทำให้เกิดทางเลือกในการตัดสินใจมากขึ้น, ผู้ขายย่อมคิดถึงผลกำไรเป็นหลัก ฯลฯ
อันดับที่ 2 ค่อนข้างส่งผลกระทบ 30.77% 25.92% 28.34%
เพราะ จำนวนเงินสูงกว่าอาจมีผลกระทบต่อการตัดสินใจบ้าง, อาจสร้างความลังเลให้กับผู้ขาย ฯลฯ
อันดับที่ 3 ไม่แน่ใจ 15.38% 22.23% 18.80%
เพราะ ขึ้นอยู่กับการเจรจาของไทย, ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของผู้บริหารทีมลิเวอร์พูล,ถ้าสนใจตลาดเอเชียจริง ฯลฯ
อันดับที่ 4 ไม่ส่งผลกระทบ 15.38% 5.56% 10.47%
เพราะ ไทยมีการเจรจาตกลงก่อน,เป็นที่รู้กันทั่วไปแล้ว ทางลิเวอร์คงไม่กล้าผิดคำพูด ฯลฯ
3. แฟนบอล คิดว่า นายกฯ ทักษิณ ควรจะสู้ราคากับนักธุรกิจที่จะซื้อหุ้นลิเวอร์พูลด้วยหรือไม่?
ชาย หญิง ภาพรวม
อันดับที่ 1 นายกฯ ไม่ควรสู้ราคา 57.70% 57.40% 57.55%
เพราะ เป็นการสิ้นเปลื้องเพิ่มมากขึ้น, สามารถซื้อทีมอื่นที่เก่งกว่าได้, นำเงินไปทำประโยชน์อย่างอื่นดีกว่า ฯลฯ
อันดับที่ 2 นายกฯ ควรจะสู้ราคา 42.30% 42.60% 42.45%
เพราะ เป็นการสร้างชื่อเสียงให้ไทย,เพื่อการพัฒนาศักยภาพฟุตบอลไทย, ผลประโยชน์ที่จะตามมาในอนาคต ฯลฯ
4. ถ้าการตัดสินใจซื้อลิเวอร์พูลครั้งนี้ไม่สำเร็จ แฟนบอลคิดว่าจะส่งผลกระทบต่อบทบาทของรัฐบาลหรือไม่?
ชาย หญิง ภาพรวม
อันดับที่ 1 ไม่ส่งผลกระทบ 73.07% 53.70% 63.39%
เพราะ ไม่ใช่สิ่งจำเป็น,ไม่มีผลกับเศรษฐกิจมากนัก, เป็นเรื่องของคนบางกลุ่มเท่านั้น ฯลฯ
อันดับที่ 2 ไม่แน่ใจ 23.07% 29.63% 26.35%
เพราะ อาจเป็นการโปรโมทรัฐบาล,ฝ่ายค้านอาจนำเรื่องนี้มาโจมตีได้ภายหลัง, มีความเกี่ยวข้องกันน้อยมาก ฯลฯ
อันดับที่ 3 ส่งผลกระทบ 3.85% 16.67% 10.26%
เพราะ ทำให้ต่างชาติและประชาชนขาดความเชื่อมั่น, เหมือนรัฐบาลทำงานไม่สำเร็จ ฯลฯ
5. แฟนบอล คิดว่า ควรใช้งบประมาณจากแหล่งใดในการซื้อหุ้นครั้งนี้
ชาย หญิง ภาพรวม
อันดับที่ 1 งบประมาณส่วนตัวของนายกฯ 35.96% 36.03% 35.99%
อันดับที่ 2 หุ้นส่วนจากภาคเอกชน 29.06% 24.68% 26.87%
อันดับที่ 3 งบประมาณจากกองสลากฯ 19.70% 18.64% 19.17%
อันดับที่ 4 ขายหุ้นให้ประชาชน 15.28% 20.65% 17.97%
--สวนดุสิตโพล--
-ลจ-