สวนดุสิตโพลล์: พฤติกรรมการใช้จ่ายของคนที่ได้รับ “ค่าจ้าง/เงินเดือน” เพิ่ม ณ วันนี้

ข่าวผลสำรวจ Tuesday April 17, 2012 07:29 —สวนดุสิตโพล

** แม้จะได้ “ค่าจ้าง/เงินเดือน” เพิ่ม แต่การกู้หนี้ยืมสินก็ยังเพิ่มขึ้นถึง 37.72% และยังมีอีก 26.95% ที่กู้หนี้ยืมสินน้อยลง ในขณะที่การใช้จ่ายเรื่องของกิน ของใช้/ของฟุ่มเฟือย และความบันเทิง “ลดลง” โดยไม่มีเรื่องใด?เพิ่มขึ้น **

จากที่รัฐบาลประกาศขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำ 300 บาทต่อวัน ตามนโยบายที่รัฐบาลได้หาเสียงเอาไว้ โดยเริ่มตั้งแต่ วันที่ 1 เมษายน เป็นวันแรก ซึ่งมีทั้งผู้ที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วยกับมาตรการดังกล่าว บ้างก็มองว่าเป็นการเพิ่มภาระให้กับผู้ประกอบการบ้างก็ว่าเป็นการช่วยยกระดับค่าครองชีพ รายได้ และช่วยเหลือประชาชนที่มีรายได้น้อยให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นเพื่อเป็นการสะท้อนความคิดเห็นและเป็นข้อมูลสำหรับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง “สวนดุสิตโพล” มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต จึงสอบถามความคิดเห็นของผู้ที่ได้รับค่าจ้าง /เงินเดือนเพิ่มตั้งแต่วันที่ 1 เมษายนที่ผ่านมาในกรุงเทพฯ และปริมณฑล จำนวน 1,206 คน ระหว่างวันที่ 5-10 เมษายน 2555 สรุปผลได้ดังนี้

1. การนำเงินค่าจ้างของคนที่ได้รับ “ค่าจ้าง/เงินเดือน” เพิ่ม ณ วันนี้ ไปใช้จ่ายในเรื่องอะไรบ้าง?
อันดับ 1          อาหารการกิน ของกิน ของใช้ในชีวิตประจำวัน                                45.38%
อันดับ 2          ค่าผ่อนชำระต่างๆ เช่น เรื่องบ้าน รถยนต์ รถมอเตอร์ไซด์ และเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ    22.69%
อันดับ 3          ค่าเทอม ค่าเล่าเรียน                                                  10.08%
อันดับ 4          การผ่อนชำระหนี้ในระบบและนอกระบบ /แชร์                                  8.40%
อันดับ 5          ค่าใช้จ่ายในการเดินทาง /น้ำมัน                                           7.56%
อื่นๆ          เก็บออม ,ทำบุญ ,ส่งเงินให้ที่บ้าน ฯลฯ                                         5.89%

2. พฤติกรรมการเก็บออมของคนที่ได้รับ “ค่าจ้าง/เงินเดือน” เพิ่ม ณ วันนี้
อันดับ 1          ไม่ได้เก็บออม           44.65%
เพราะ  ยังมีภาระหนี้สินทั้งในระบบและนอกระบบที่ยังเคลียร์ไม่ได้  รายได้ไม่พอกับรายจ่าย ฯลฯ
อันดับ 2          เก็บออมน้อยลง          36.90%
เพราะ  ยังมีภาระในเรื่องที่จำเป็นต้องใช้จ่ายอยู่มาก เช่น ค่าเล่าเรียน การผ่อนชำระต่างๆ ฯลฯ
อันดับ 3          เก็บออมมากขึ้น          18.45%
เพราะ   มีเงินเหลือออมเพิ่มขึ้นนิดหน่อย จำเป็นต้องเก็บเงินไว้ใช้จ่ายในยามจำเป็น ฯลฯ

3. พฤติกรรมการกู้หนี้ยืมสินของคนที่ได้รับ “ค่าจ้าง/เงินเดือน” เพิ่ม ณ วันนี้
อันดับ 1          กู้หนี้ยืมสินมากขึ้น            37.72%
เพราะ   เงินไม่พอใช้  มีความจำเป็นที่จะต้องกู้ยืมมากขึ้นเพื่อนำมาใช้ในเรื่องที่จำเป็น เช่น ซื้อบ้าน ซื้อรถ ฯลฯ
อันดับ 2          ไม่ได้กู้หนี้ยืมสินเลย          35.33%
เพราะ   ไม่ชอบเป็นหนี้ ใช้จ่ายเท่าที่จำเป็น ยึดหลักพอเพียง มีเงินออมจากการทำงานไว้ใช้ในยามที่จำเป็น ฯลฯ
อันดับ 3          กู้หนี้ยืมสินน้อยลง            26.95%
เพราะ  กลัวว่าจะไม่มีเงินใช้หนี้ ใช้ชีวิตอยู่บนความไม่ประมาท นำเงินเก็บบางส่วนออกมาใช้ ฯลฯ


4. การซื้อของกินของใช้ที่จำเป็น ของคนที่ได้รับ “ค่าจ้าง/เงินเดือน” เพิ่ม ณ วันนี้เปลี่ยนแปลงไปจากเดิมหรือไม่?
อันดับ 1          เหมือนเดิม                    70.31%
เพราะ   ยังคงต้องใช้จ่ายในเรื่องของกินของใช้ที่มีความจำเป็นในชีวิตประจำวัน  ชีวิตความเป็นอยู่ยังเหมือนเดิม ฯลฯ
อันดับ 2          เปลี่ยนแปลงโดยลดลง            29.69%
เพราะ  จำเป็นต้องประหยัด รู้จักวางแผนในการใช้จ่าย เลือกซื้อของที่มีราคาถูกกว่ามาแทน ฯลฯ

5. การซื้อของใช้ฟุ่มเฟือย เช่น เครื่องประดับ น้ำหอม เครื่องสำอาง ของคนที่ได้รับ “ค่าจ้าง/เงินเดือน” เพิ่ม
ณ วันนี้เปลี่ยนแปลงไปจากเดิมหรือไม่?
อันดับ 1          เปลี่ยนแปลงโดยลดลง            66.32%
เพราะ  มีเรื่องจำเป็นอื่นมากกว่าที่จะต้องใช้ในชีวิตประจำวัน ซื้อเฉพาะที่จำเป็นต้องใช้หรือในโอกาสสำคัญจริงๆ ฯลฯ
อันดับ 2          เหมือนเดิม                    33.68%
เพราะ  เป็นสิ่งของเครื่องใช้ที่จำเป็น เป็นการเสริมบุคลิกให้ดูดี  ซื้อในช่วงที่มีการลดราคา ฯลฯ

6. การซื้อความบันเทิง  เช่น ดูหนัง ฟังเพลง ท่องเที่ยว สังสรรค์  ของคนที่ได้รับ “ค่าจ้าง/เงินเดือน” เพิ่ม ณ วันนี้
เปลี่ยนแปลงไปจากเดิมหรือไม่?
อันดับ 1          เปลี่ยนแปลงโดยลดลง          57.17%
เพราะ  มีภาระค่าใช้จ่ายอีกมาก ต้องการเก็บออมเงินหรือนำเงินไปใช้ในเรื่องอื่นที่จำเป็นมากกว่า ไปบ้างแต่ไม่บ่อยครั้ง ฯลฯ
อันดับ 2          เหมือนเดิม                  42.83%
เพราะ  มีการวางแผน ควบคุมค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ไว้แล้ว  โดยส่วนตัวเป็นคนชอบความบันเทิงและการผ่อนคลาย ฯลฯ

--สวนดุสิตโพลล์--

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ