จากความขัดแย้งวันนี้ ได้สร้างปัญหาต่างๆตามมาอย่างมากมาย การแก้ปัญหาจะต้องค้นหาจากต้นตอของปัญหาและแนวทางจากทุกภาคส่วน เพื่อเป็นข้อมูลที่เป็นประโยชน์ของประชาชนอันจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อการสร้างความปรองดองให้เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม “สวนดุสิตโพล” มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต จึงได้สำรวจความคิดเห็นของประชาชนในกรุงเทพมหานคร โดยกระจายไปยัง 50 เขตทั่วกรุงเทพฯ จำนวนทั้งสิ้น 2,091 คน ระหว่างวันที่ 20-28พฤษภาคม 2555 สรุปผลได้ดังนี้
อันดับ 1 ความคิดเห็นที่แตกต่างกันของแต่ละฝ่าย การแบ่งแยกทางความคิด ทำให้เกิดความขัดแย้ง และไม่สามัคคีกัน / เกิดการแบ่งฝักแบ่งฝ่าย (เสื้อเหลือง-เสื้อแดง) 36.58% อันดับ 2 การแย่งชิงอำนาจและผลประโยชน์ของนักการเมือง ความเห็นแก่ตัวของบุคคลบางกลุ่มการเอารัดเอาเปรียบ ไม่จริงใจต่อประชาชน 31.75% อันดับ 3 ระบบการปกครองของประเทศไทยยังคงเป็นแบบเผด็จการ มีการปฏิวัติรัฐประหาร/ไม่ได้มาจากความเป็น ประชาธิปไตยอย่างแท้จริง 12.96% อันดับ 4 ความเหลื่อมล้ำทางสังคม คนรวยเอาเปรียบคนจน /ไม่ได้รับความยุติธรรม ไม่ได้รับความเสมอภาค จากสังคม /เป็นแบบสองมาตรฐาน 9.89% อันดับ 5 ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารที่คลาดเคลื่อน ไม่ตรงกับความเป็นจริง /การนำเสนอข่าวที่ไม่เป็นกลาง 8.82% 2. คนกรุงเทพฯ เห็นว่า แนวทางหรือวิธีการแก้ไขความขัดแย้งและสร้างความปรองดอง ควรทำดังนี้ อันดับ 1 ทุกฝ่ายต้องมีความสามัคคี หันหน้าเข้าหากัน ร่วมมือกันแก้ไขปัญหาเพื่อประเทศชาติ/รู้จักให้อภัย ลดทิฐิ ไม่ใช้ความรุนแรง หยุดใช้อารมณ์ในการตัดสินปัญหา 33.56% อันดับ 2 การยอมรับฟังความคิดเห็นของกันและกัน ยึดหลักความเป็นจริงและถูกต้อง /ช่วยกันแสดงความคิดเห็น หรือสิ่งที่เป็นประโยชน์ในการพัฒนาประเทศ ยอมรับข้อตกลงซึ่งกันและกัน 24.03% อันดับ 3 นักการเมืองต้องลดความเห็นแก่ตัว เห็นแก่ผลประโยชน์ของตัวเอง /ต้องรู้จักเสียสละคิดถึงประชาชน ให้มากๆ /มีความซื่อสัตย์ สุจริต ไม่คอรัปชั่น 19.09% อันดับ 4 การเคารพกฏหมาย ปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด ให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย / ไม่แก้ไขกฎหมาย เพียงเพื่อประโยชน์ของคนใดคนหนึ่ง ผู้ที่มีความผิดทางกฎหมายควรเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม 12.99% อันดับ 5 คนในสังคมต้องเป็นกลาง ไม่เข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง รู้จักคิดวิเคราะห์ด้วยตนเอง หลีกเลี่ยงการพูดคุย เรื่องการเมือง /บทบาทของสื่อมวลชนแขนงต่างๆที่นำเสนอต้องไม่สร้างความแตกแยก 10.33% --สวนดุสิตโพลล์--