สวนดุสิตโพลล์: การประชุมพิจารณา “ร่าง พ.ร.บ.ปรองดอง” ในสายตาประชาชน

ข่าวผลสำรวจ Tuesday June 5, 2012 07:28 —สวนดุสิตโพล

ความวุ่นวายในการพิจารณา ร่าง พ.ร.บ.ปรองดอง กระทบภาพลักษณ์ในทางลบเกือบ 80%

ประชาชนมากกว่าครึ่ง มีความเห็นว่า “พ.ร.บ.ปรองดอง” ไม่สามารถทำให้เกิดความปรองดองได้ !!!

จากการประชุมพิจารณา ร่าง พ.ร.บ.ปรองดอง ที่รัฐสภา เมื่อวันที่ 30 พฤษภาคมที่ผ่านมา และได้เกิดปัญหาความวุ่นวายระหว่างที่มีการประชุมขึ้น จนเป็นกระแสการวิพากษ์วิจารณ์การทำหน้าที่ทั้งของฝ่ายรัฐบาล ฝ่ายค้าน และประธานสภา และมีผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของรัฐสภาไทย “สวนดุสิตโพล” มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต ได้สำรวจความคิดเห็นของประชาชนที่ติดตามข่าวสารการประชุมดังกล่าว ทุกสาขาอาชีพ ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล โดยการลงพื้นที่ภาคสนาม และการโทรศัพท์สัมภาษณ์ จำนวนทั้งสิ้น 1,374 คน ระหว่างวันที่ 30 พฤษภาคม — 1 มิถุนายน 2555 สรุปผลได้ดังนี้

1. ความคิดเห็นของประชาชนต่อการทำหน้าที่ของฝ่ายรัฐบาล ฝ่ายค้าน และประธานสภา
ในการอภิปรายร่าง พ.ร.บ.ปรองดองฯ

ฝ่ายรัฐบาล

อันดับ 1          พยายามที่จะหาทางออกให้กับพรรคพวกของตนเองโดยไม่คำนึงถึงผลประโยชน์ของประเทศชาติอย่างแท้จริง   46.38%
อันดับ 2          ได้ทำหน้าที่ของตนเองในการผลักดันให้มีการพิจาณาร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้อย่างเร่งรีบ                    33.33%
อันดับ 3          รักพวกพ้องมากเกินไป/ หลงกับอำนาจในเสียงข้างมาก                                        20.29%

ฝ่ายค้าน

อันดับ 1          ใช้วาจา และพฤติกรรมที่รุนแรง ใช้อารมณ์ โดยไม่รับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น          41.90%
อันดับ 2          มีความพยายามในการทำหน้าที่ของตนเอง และตรวจสอบการทำหน้าที่ของรัฐบาล        39.52%
อันดับ 3          ไม่ได้ทำประโยชน์เพื่อประเทศชาติอย่างแท้จริง          18.58%

ประธานสภา

อันดับ 1          ไม่มีความเด็ดขาด สุภาพเกินไป ไม่สามารถควบคุม ส.ส.ในสภาได้          39.95%
อันดับ 2          ไม่มีความเป็นกลางอย่างแท้จริง                                    33.58%
อันดับ 3          มีความพยายามในการทำหน้าที่ของประธานอย่างเต็มที่แล้ว                 26.47%

2.  เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจากการอภิปราย ร่าง พ.ร.บ. ปรองดอง มีผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของรัฐสภาไทยหรือไม่
อันดับ 1          มีผลกระทบ          77.34%
เพราะ    รัฐสภาเป็นสถานที่อันทรงเกียรติ  การแสดงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมทำให้เห็นถึงความแตกแยกมากกว่าการปรองดอง

มีผลต่อความเชื่อมั่นทั้งของคนไทยและต่างชาติ ฯลฯ

อันดับ 2          ไม่แน่ใจ          17.33%
เพราะ   ยังไม่เข้าใจเรื่อง พ.ร.บ.ปรองดอง เท่าที่ควร ,ไม่ทราบข้อเท็จจริงว่าใครผิดใครถูก, ต้องรอดูสถานการณ์ต่อไป  ฯลฯ
อันดับ 3          ไม่มีผลกระทบ       5.33%
เพราะ    เป็นเรื่องปกติทางการเมืองที่ต่างฝ่ายต่างมีความคิดเห็นที่แตกต่างกัน ,ในต่างประเทศมีความรุนแรงมากกว่านี้  ฯลฯ

3. จากสถานการณ์การอภิปราย ร่าง พ.ร.บ. ปรองดอง ประชาชนคิดว่าจะทำให้การปรองดองเกิดขึ้นได้หรือไม่
อันดับ 1          เกิดขึ้นไม่ได้        50.56%

เพราะ ต่างฝ่ายต่างถือประโยชน์ของตนเองเป็นหลัก, มีการแบ่งพรรคแบ่งพวก และไม่ยอมรับฟังความคิดเห็นซึ่งกันและกัน ฯลฯ

อันดับ 2          ไม่แน่ใจ           32.29%

เพราะ ความขัดแย้งมีความรุนแรงมากขึ้น,แนวทางการปรองดองยังไม่ชัดเจน, ต่างฝ่ายต่างรักพวกพ้องตนเองมากจนเกินไป ฯลฯ

อันดับ 3          เกิดขึ้นได้          17.15%

เพราะ ถ้าทุกฝ่ายร่วมมือร่วมใจกันอย่างจริงจัง คำนึงถึงผลประโยชน์ของส่วนรวมและประเทศชาติเป็นสำคัญ ฯลฯ

4. ความคาดหวัง ของประชาชนต่อการทำหน้าที่ของฝ่ายรัฐบาล ฝ่ายค้าน และ ประธานสภา ในการสร้าง
ความปรองดองให้เกิดเป็นรูปธรรม

ฝ่ายรัฐบาล ควรปฏิบัติดังนี้

อันดับ 1          ทำหน้าที่ของตนเองอย่างซื่อสัตย์ ดูแลและเร่งแก้ไขปัญหาของประชาชนก่อน           56.79%
อันดับ 2          ปฏิบัติตนอยู่ในกรอบของกฎหมาย  ข้อบังคับ กฎระเบียบของรัฐสภา และสังคม         22.72%
อันดับ 3          ควรรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น และควรใช้เหตุผลให้มากกว่าใช้อารมณ์              20.49%

ฝ่ายค้าน ควรปฏิบัติดังนี้

อันดับ 1          คำนึงถึงผลประโยชน์ของประเทศชาติเป็นสำคัญ / ช่วยกันหาทางออกเพื่อสร้างความปรองดองให้เกิดขึ้นได้จริง  43.70%
อันดับ 2          ควรใช้เหตุผลให้มากกว่าใช้อารมณ์  รับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น รวมถึงรัฐบาลอย่างใจกว้างและเป็นธรรม     28.70%
อันดับ 3          เคารพกฎข้อบังคับ และกติกาของสภา ไม่แสดงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม                               27.60%

ประธานสภา ควรปฏิบัติดังนี้

อันดับ 1          ต้องมีความเป็นกลาง  ยุติธรรม ตรงไปตรงมา ไม่เอนเอียงไปฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง              51.26%
อันดับ 2          ทำหน้าที่โดยยึดถือผลประโยชน์ของประเทศชาติเป็นสำคัญ                              25.73%
อันดับ 3          ต้องมีความเด็ดขาด ใช้อำนาจของประธานสภา อย่างถูกต้องและเหมาะสม                 23.01%

5. ประชาชนคิดว่า “ทางออกของความขัดแย้ง” ที่เกิดขึ้นในรัฐสภาควรแก้ไขอย่างไร
อันดับ 1          ให้ทุกฝ่ายตระหนักถึงผลประโยชน์ของประเทศชาติอย่างจริงจัง และเคารพในข้อบังคับ กฎระเบียบ ของรัฐสภา 46.09%
อันดับ 2          เปิดใจให้กว้าง รับฟังความคิดเห็นซึ่งกันและกัน ใช้เหตุผล ใช้ข้อมูลข้อเท็จจริงให้มากกว่านี้               36.02%
อันดับ 3          ถอน พ.ร.บ.ปรองดอง ออกไปก่อนเพื่อพิจารณาใหม่ให้รอบคอบก่อนนำเสนอในที่ประชุม                  17.89%

--สวนดุสิตโพลล์--

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ