จากกรณีวิวาทะ ระหว่าง กทม.ที่นำโดย ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร กับ นายปลอดประสพ สุรัสวดี รมว.วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีในฐานะประธานคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัย (กบอ.) กรณี “ถุงทราย” บริเวณท่อระบายน้ำ ซึ่งขณะนี้ทั้งสองฝ่ายก็ได้มีการพูดคุยทำความเข้าใจกันเรียบร้อย และทางม.ร.ว.สุขุมพันธ์ก็ได้ออกมาชี้แจงถึงเหตุผลเพื่อให้ประชาชนคลายความกังวลใจเพื่อเป็นการสะท้อนความคิดเห็นของประชาชน “สวนดุสิตโพล” มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต ได้สำรวจความคิดเห็นของประชาชนในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ที่มีความสนใจและติดตามข่าวนี้ จำนวน 1,143 คน ระหว่างวันที่ 9-13 ตุลาคม 2555 สรุปผลได้ ดังนี้
อันดับ 1 ไม่อยากเห็นทั้งสองฝ่ายต้องมาถกเถียงกัน อยากให้ร่วมมือกันทำงานเพื่อบ้านเมืองจะดีกว่า 54.20% อันดับ 2 มาจากความคิดเห็นที่แตกต่างกันหรือเกิดการเข้าใจผิด ต่างฝ่ายต่างไม่เข้าใจเหตุผลซึ่งกันและกัน 30.69% อันดับ 3 ไม่ควรนำเรื่องการเมืองมาโยงกับการแก้ปัญหาน้ำท่วม /เล่นเกมการเมืองกันมากไป 15.11% 2. ระหว่าง ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร (ผู้ว่าฯกทม.) กับ นายปลอดประสพ สุรัสวดี (รมว.วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีในฐานะประธาน กบอ.) ประชาชนเชื่อใครมากกว่ากัน? อันดับ 1 ไม่เชื่อทั้ง 2 ฝ่าย 61.64%
เพราะ เป็นเกมการเมือง เป็นการทำงานที่ต่างขั้วกัน รอดูผลงานหรือผลที่ปรากฏออกมาเป็นรูปธรรมจะดีกว่า ฯลฯ
อันดับ 2 เชื่อ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร มากกว่า 22.65%
เพราะ เป็นคนซื่อสัตย์ ตั้งใจทำงาน รู้ปัญหาในพื้นที่ต่างๆของกทม.เป็นอย่างดี มีการติดตามและพยายามแก้ไขปัญหาอย่างต่อเนื่อง ฯลฯ
อันดับ 3 เชื่อ นายปลอดประสพ สุรัสวดี มากกว่า 15.71%
เพราะ เป็นผู้มีความรู้และมีประสบการณ์ในเรื่องทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเป็นอย่างดี อยู่ในตำแหน่งที่น่าเชื่อถือ ฯลฯ
(3.1) ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร
ผลดี (%) ผลเสีย (%) มีโอกาสได้ชี้แจงและทำความเข้าใจกับฝ่ายต่างๆให้รับรู้ 41.08 ประชาชนขาดความเชื่อถือ เชื่อมั่นในการทำงาน 43.33 แสดงให้เห็นถึงเทคนิคและวิธีการทำงานของกทม. 36.11 เสียเวลาในการทำงาน ต้องออกมาชี้แจงหลายๆครั้ง 36.25 เป็นการกระตุ้นและนำข้อท้วงติงมาปรับปรุงแก้ไข 22.81 ส่งผลต่อคะแนนนิยมจากประชาชน 20.42
(3.2) พรรคประชาธิปัตย์
ผลดี (%) ผลเสีย (%) ถ้าผู้ว่าฯกทม.แก้ปัญหาได้ ก็ส่งผลดีต่อพรรคปชป.ด้วย 35.53 ส่งผลต่อคะแนนนิยมและฐานเสียงสำคัญในกทม. 49.55 เป็นโอกาสดีที่ได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับรัฐบาล 34.29 เป็นประเด็นที่ทำให้พรรคปชป.ถูกโจมตีทางการเมือง 40.82 ได้รู้ถึงความนิยมต่อตัวผู้ว่าฯกทม.คนปัจจุบัน 30.18 เกิดความขัดแย้งภายในพรรคปชป. 9.63
(3.3) นายปลอดประสพ สุรัสวดี
ผลดี (%) ผลเสีย (%) เป็นที่รู้จักและได้รับการพูดถึงจากสังคมมากขึ้น 37.43 เป็นการแทรกแซงการทำงานและจ้องจับผิดมากเกินไป 42.71 ได้รับความเชื่อถือและประชาชนไว้วางใจมากขึ้น 32.68 เป็นการคิดไปเองโดยไม่ได้พูดคุยกัน ด่วนสรุปเร็วเกินไป 38.30 เป็นการพิสูจน์ความรู้ความสามารถของตัวเอง 29.89 เป็นการสร้างศัตรูทางการเมือง 18.99
(3.4) พรรคเพื่อไทย
ผลดี (%) ผลเสีย (%) พรรครัฐบาลและพรรคฝ่ายค้านอาจได้ทำงานร่วมกัน 45.46 เกิดการทะเลาะเบาะแว้งทางการเมือง 43.08 ได้เห็นบทบาทในการทำงานของนายปลอดประสพ 32.34 พรรคเพื่อไทยถูกพาดพิงและได้รับผลกระทบไปด้วย 36.65 พรรคเพื่อไทยอาจได้คะแนนนิยมตีตื้นขึ้นมา 22.20 ประสิทธิภาพและการทำงานของพรรคยังไม่ดีพอ 20.27
(3.5) ประชาชน
ผลดี (%) ผลเสีย (%) ได้เห็นถึงบทบาทและการทำงานของหลายๆฝ่าย 40.87 ไม่รู้จะเชื่อใครหรือหันหน้าไปพึ่งใครได้ 53.92 ทำให้ประชาชนตื่นตัวและสนใจติดตามข่าวมากขึ้น 31.98 รู้สึกวิตกกังวลและไม่มั่นใจในการแก้ปัญหาน้ำท่วม 24.49 เป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจในการเลือกตั้งครั้งหน้า 27.15 ประชาชนต้องตกเป็นเหยื่อของเกมการเมืองครั้งนี้ 21.59 4. ประชาชนคิดว่า “บทเรียน” ที่ได้รับจากการวิวาทะครั้งนี้ คือ อันดับ 1 ความขัดแย้งหรือการทะเลาะกันไม่ส่งผลดีต่อทั้ง 2 ฝ่าย มีแต่จะทำให้ประชาชนรู้สึกเบื่อหน่ายและไม่ไว้ใจ 54.66% อันดับ 2 การทำงานต่างๆต้องมีการชี้แจงหรือพูดคุยกับหลายๆฝ่ายให้รับรู้และเข้าใจตรงกันก่อน 24.43% อันดับ 3 เป็นเรื่องของเกมการเมืองที่เอาความเดือดร้อนของประชาชนมาใช้ชิงความได้เปรียบเสียเปรียบกัน 20.91% --สวนดุสิตโพลล์--