การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐระหว่างนายบารัก โอบามา กับ นายมิตต์ รอมนีย์ ผู้ลงสมัครจากพรรครีพับลิกัน ที่จะมีขึ้นในวันที่ 6 พ.ย.55 (ตามเวลาท้องถิ่นของสหรัฐอเมริกา) ต่างเป็นที่จับตามองของคนทั่วโลก และมองว่าหลังการเลือกตั้งเสร็จสิ้น นโยบายของประธานาธบดีคนใหม่จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ สังคม และการเมืองไปทั่วโลกรวมทั้งประเทศไทยด้วย เพื่อเป็นการสะท้อนความคิดเห็นของคนไทยที่สนใจเชียร์และติดตามข่าวการเลือกตั้งครั้งนี้ “สวนดุสิตโพล” มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต ได้สำรวจความคิดเห็นของประชาชนทั่วประเทศ จำนวน 1,302 คน ระหว่างวันที่ 1-5 พฤศจิกายน 2555 สรุปผลดังนี้
อันดับ 1 โอบามา 78.55%
เพราะ ผลงานในภาพรวมที่ผ่านมายังเป็นที่น่าพอใจ ยังคงชื่นชอบและอยากให้โอกาสได้ทำงานต่อไป ชอบบุคลิก การวางตัว
และวิธีการทำงาน โดยเฉพาะเหตุการณ์ล่าสุดคือการเข้าไปช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากพายุแซนดี้ ฯลฯ
อันดับ 2 รอมนีย์ 21.45%
เพราะ อยากลองเปลี่ยนคนใหม่ดูบ้าง อยากให้โอกาสในการทำงาน เป็นผู้ที่มีความรู้ความสามารถ เก่งเรื่องธุรกิจและกฎหมาย
เคยเป็นผู้ว่าการรัฐฯ มาก่อน ฯลฯ
อันดับ 1 มีผลอยู่บ้าง 53.16%
เพราะ สหรัฐฯ เป็นประเทศคู่ค้าที่สำคัญของไทย เคยให้ความช่วยเหลือและร่วมมือในเรื่องต่างๆ ฯลฯ
อันดับ 2 มีผลมาก 35.88%
เพราะ สหรัฐฯเป็นประเทศมหาอำนาจ ทิศทางการบริหารงานจึงมีผลต่อเศรษฐกิจโลกรวมถึงประเทศไทยด้วย ฯลฯ
อันดับ 3 ไม่ค่อยมีผล 7.64%
เพราะ ไทยเป็นเพียงประเทศเล็กๆที่ไม่ได้อยู่ในความสนใจและไม่ได้มีบทบาทมากนัก ฯลฯ
อันดับ 4 ไม่มีผล 3.32%
เพราะ ประเทศไทยมีแนวทางในการบริหารประเทศเป็นของตัวเอง ไม่ว่าใครจะมาเป็นประธานาธิบดีก็ไม่น่าจะส่งผลอะไร ฯลฯ
อันดับ 1 ไม่ว่าใครจะเป็นประธานาธิบดี ก็ขอให้มีความมุ่งมั่นตั้งใจในการทำงานและคำนึงถึงหลักมนุษยชน 36.02% อันดับ 2 ขอให้สหรัฐฯและไทยเป็นมิตรที่ดี เป็นคู่ค้าที่สำคัญ มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันตลอดไป 34.28% อันดับ 3 ต้องไม่แทรกแซงการทำงานของประเทศอื่นๆ เช่น เศรษฐกิจ การเมือง นโยบายและความมั่นคง 29.70% --สวนดุสิตโพลล์--