ในสภาพปัจจุบัน ความเชื่อมั่นเป็นสิ่งสำคัญที่สุดที่จะทำให้การทำงานของรัฐบาลและฝ่ายค้านทำได้อย่างบรรลุผล เพื่อเป็นข้อมูลพื้นฐานและใช้เพื่อประกอบการตัดสินใจในการทำงานของทั้งรัฐบาลและฝ่ายค้าน “สวนดุสิตโพล” มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต จึงได้สำรวจความเชื่อมั่นของประชาชนทั่วประเทศ จำนวน 1,303 คน ระหว่างวันที่ 12-15 มิถุนายน 2556 สรุปผลได้ดังนี้
- เรื่องราว หรือ เหตุการณ์ ซึ่งเกิดขึ้นในช่วงนี้ที่ทำให้ประชาชนมีความเชื่อมั่นต่อรัฐบาล “เพิ่มขึ้น”
อันดับ 1 การพัฒนาประเทศตามนโยบายของรัฐบาล 32.27%
เพราะ เป็นการแสดงให้เห็นถึงความตั้งใจของรัฐบาลที่พยายามพัฒนาประเทศและความเป็นอยู่ของประชาชนให้ดีขึ้น ฯลฯ
อันดับ 2 นายกรัฐมนตรีเดินทางไปต่างประเทศเพื่อสานความสัมพันธ์และเพื่อส่งเสริมการลงทุน 22.89%
เพราะ เป็นการสร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุนและเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ประเทศไทย ฯลฯ
อันดับ 3 รัฐบาลสามารถผ่านร่างพรบ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2557 20.67%
เพราะ รัฐบาลมีแผนและรายละเอียดการใช้งบประมาณที่ชัดเจน อยากเห็นบ้านเมืองพัฒนาเปลี่ยนแปลงในทางที่ดี ฯลฯ
อันดับ 4 การปราบปรามยาเสพติด 15.42%
เพราะ มีผลงานให้เห็นชัดเจน สามารถจับกุมและทำผลงานได้อย่างต่อเนื่อง ฯลฯ
อันดับ 5 การเพิ่มค่าจ้าง ขึ้นเงินเดือน 8.75%
เพราะ รัฐบาลให้ความสำคัญและช่วยเหลือประชาชนอย่างแท้จริง ต้องการช่วยเหลือให้ประชาชนมีรายได้เพิ่มขึ้น ฯลฯ
- เรื่องราว หรือ เหตุการณ์ ซึ่งเกิดขึ้นในช่วงนี้ที่ทำให้ประชาชนมีความเชื่อมั่นต่อรัฐบาล “ลดลง”
อันดับ 1 กรณีโครงการรับจำนำข้าว 47.52%
เพราะ จากกระแสข่าวที่ออกมาทำให้เห็นความไม่โปร่งใสและไม่สามารถบอกตัวเลขการขาดทุน 2.6 แสนล้านบาทได้ ฯลฯ
อันดับ 2 ไม่สามารถแก้ปัญหาสินค้าแพง ค่าครองชีพสูง 18.48%
เพราะ รัฐบาลยังไม่สามารถแก้ปัญหาได้ดีพอ รายได้ไม่พอกับรายจ่าย ของกิน ของใช้ยังมีราคาสูงโดยเฉพาะราคาไข่ ฯลฯ
อันดับ 3 ไม่สามารถแก้ปัญหาไฟใต้ 15.86%
เพราะ ยังมีข่าวการก่อการร้ายในพื้นที่ภาคใต้เกิดขึ้นทุกวัน ประชาชนในพื้นที่ต้องเสี่ยงอันตราย ฯลฯ
อันดับ 4 การประท้วงของกลุ่มต่างๆ เช่น กรณีหน้ากากขาว หน้ากากแดง 10.08%
เพราะ แสดงให้เห็นถึงความไม่พอใจของประชาชนบางกลุ่มที่ไม่เห็นด้วยกับการทำงานของรัฐบาล ฯลฯ
อันดับ 5 การเสียชีวิตของนายเอกยุทธ อัญชันบุตร 8.06%
เพราะ มีกระแสข่าวว่านักการเมืองและข้าราชการชั้นผู้ใหญ่มีความเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ ฯลฯ
- เรื่องหรือ เหตุการณ์ ซึ่งเกิดขึ้นในช่วงนี้ที่ทำให้ประชาชนมีความเชื่อมั่นต่อฝ่ายค้าน “เพิ่มขึ้น”
อันดับ 1 การตรวจสอบทุจริตโครงการรับจำนำข้าว 42.00%
เพราะ สามารถตรวจสอบการทุจริตและนำเสนอข้อมูลต่างๆให้ประชาชนรับรู้ข้อเท็จจริงได้มากขึ้น ฯลฯ
อันดับ 2 การกู้เงินของรัฐบาล 21.86%
เพราะ จากการอภิปรายที่ผ่านมาฝ่ายค้านมีข้อซักถามแต่รัฐบาลไม่สามารถตอบคำถามให้ชัดเจนได้ ฯลฯ
อันดับ 3 การคัดค้านเรื่องนิรโทษกรรม 16.87%
เพราะ เป็นประเด็นสำคัญที่กระทบต่อคนบางกลุ่มและมีผลต่อการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง ฯลฯ
อันดับ 4 การตรวจสอบการประมูลโครงการจัดการน้ำ 12.56%
เพราะ มีการติดตาม ตรวจสอบอย่างต่อเนื่อง มีทีมงานบุคลากรที่มีฝีมือ ฯลฯ
อันดับ 5 ยกฟ้องคดีเงินบริจาคอีสต์วอร์เตอร์ 6.71%
เพราะ พรรคประชาธิปัตย์ไม่ได้มีความผิดตามที่กล่าวหา เป็นเพียงเกมการเมือง ฯลฯ
- เรื่องราว หรือ เหตุการณ์ ซึ่งเกิดขึ้นในช่วงนี้ที่ทำให้ประชาชนมีความเชื่อมั่นต่อฝ่ายค้าน “ลดลง”
อันดับ 1 การค้านทุกเรื่อง 42.90%
เพราะ ทำให้ภาพลักษณ์ของฝ่ายค้านดูไม่ดี เป็นการค้านที่ไม่ก่อให้เกิดประโยชน์ใดๆ ฯลฯ
อันดับ 2 การกล่าวหารัฐบาลโดยไม่มีหลักฐานชัดเจน กล่าวหาแบบลอยๆ 22.05%
เพราะ แสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพในการทำงานที่ไม่ดีพอ เมื่อไม่มีเอกสารหลักฐานยืนยันก็ทำให้ไม่น่าเชื่อถือ ฯลฯ
อันดับ 3 เล่นเกมการเมือง นำคดีสำคัญมาโยงเป็นเรื่องร้อนทางการเมือง 15.11%
เพราะ ทำให้ประชาชนรู้สึกเบื่อและไม่อยากติดตามข่าวสารทางการเมือง ไม่เชื่อมั่นต่อนักการเมือง ฯลฯ
อันดับ 4 ความไม่ร่วมมือในการแก้ปัญหาไฟใต้ 12.39%
เพราะ พรรคประชาธิปัตย์มี ส.ส.ในพื้นที่ภาคใต้แต่ไม่สามารถช่วยแก้ไขปัญหาให้กับประชาชนในพื้นที่ได้ ฯลฯ
อันดับ 5 การสร้างความขัดแย้งทางการเมืองโดยเฉพาะการทะเลาะเบาะแว้งกับรัฐบาล 7.55%
เพราะ ทำให้ภาพลักษณ์ของนักการเมืองเสื่อมเสีย ประชาชนรู้สึกเบื่อหน่ายกับการเมือง ฯลฯ