ประชาชน 56.17% เห็นว่า ถึงเวลาแล้วที่จะมี “การปรับครม” .!!!
“สวนดุสิตโพล” มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต ได้สำรวจความคิดเห็นของประชาชนทั่วประเทศ กรณี “การปรับครม.”เพื่อให้ประชาชนได้มีส่วนร่วมทางการเมือง และแสวงหาฐานข้อมูลด้านความคิดเห็นของประชาชน จำนวน 1,377 คน ระหว่างวันที่ 18-21 มิถุนายน 2556 สรุปผลดังนี้
1. ความคิดเห็นของประชาชน กับกระแสข่าวที่จะมี “การปรับครม.”
อันดับ 1 เป็นเรื่องปกติทางการเมือง เมื่อทำงานมาสักระยะหนึ่งก็จะมีการปรับเปลี่ยน
เพื่อให้รัฐบาลทำงานได้ดีขึ้น สร้างความเชื่อมั่น มั่นใจให้กับประชาชน 43.84% อันดับ 2 หากมีการปรับครม.ขึ้นจริง ก็ควรเลือกผู้ที่เหมาะสม มีความรู้ความสามารถ เป็นที่ยอมรับ เข้ามาทำงานเพื่อเสริมสร้างศักยภาพและความมั่นคงให้กับรัฐบาล 38.42% อันดับ 3 รัฐบาลเริ่มประสบปัญหาจากการทำงาน บางกระทรวงไม่ค่อยมีผลงาน มีข้อผิดพลาดและ มีประเด็นการทุจริตเข้ามาเกี่ยวข้อง จึงจำเป็นต้องมีการปรับเปลี่ยน เพื่อลดกระแสการวิพากษ์วิจารณ์ 17.74% 2. เหตุผลที่ประชาชนคิดว่าสมเหตุสมผลที่จะใช้ใน“การปรับครม.” คือ อันดับ 1 เพื่อคัดเลือกบุคคลที่มีความรู้ความสามารถ มีคุณสมบัติที่เหมาะสมกับตำแหน่งเข้ามาทำงานให้ดีขึ้นกว่าเดิม 38.74% อันดับ 2 การบริหารประเทศของรัฐบาลกำลังจะครบ 2 ปี เป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมในการปรับเปลี่ยน จะได้บริหารงานคล่องตัวและมีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้น 33.07% อันดับ 3 เป็นการแก้ปัญหาในการทำงาน ลดการทุจริตคอรัปชั่น และสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนและต่างชาติ 28.19% 3. ประชาชนคิดว่าถึงเวลาหรือยังที่จะมี “การปรับครม.” อันดับ 1 ถึงเวลาแล้ว 56.17% เพราะ มีหลายเรื่องที่รัฐบาลยังไม่สามารถแก้ปัญหาให้ดีขึ้นได้ โดยเฉพาะเรื่องปากท้อง ข้าวของแพง โครงการต่างๆของรัฐ เช่น รับจำนำข้าวขาดทุน โคงการจัดการน้ำไม่โปร่งใส และนโยบายต่างๆที่รัฐบาลดำเนินการอยู่ยังไม่มีผลงานให้เห็นเป็นรูปธรรมชัดเจน ฯลฯ อันดับ 2 ยังไม่ถึงเวลา 34.58% เพราะ รัฐบาลเดินหน้าทำงานมาได้ครึ่งทางแล้ว ควรให้โอกาสและให้เวลารัฐบาลได้ทำงานมากกว่านี้ หากมีการปรับครม.จริงจะส่งผลให้การบริหารบ้านเมืองหยุดชะงัก ไม่ต่อเนื่อง ฯลฯ อันดับ 3 ไม่แน่ใจ 9.25% เพราะ ไม่รู้ว่าเมื่อปรับครม.แล้วสถานการณ์บ้านเมืองจะดีขึ้นหรือแย่ลง อาจเป็นเพียงกระแสข่าว หรือเป็นการโยนหินถามทางที่คนบางกลุ่มปล่อยออกมาในช่วงนี้ ฯลฯ 4. “ข้อดี” ของ “การปรับครม.” อันดับ 1 เปิดโอกาสให้ผู้ที่เหมาะสม มีความรู้ความสามารถเข้ามาทำงาน 60.34% อันดับ 2 รัฐบาลมีเสถียรภาพ บริหารงานได้ดีและมีประสิทธิภาพมากขึ้น 22.42% อันดับ 3 จะได้ปรับปรุงการทำงานแต่ละกระทรวง ลดกระแสการวิพากษ์วิจารณ์ 17.24% 5. “ข้อเสีย” ของ “การปรับครม.” อันดับ 1 การทำงานหยุดชะงัก ไม่ต่อเนื่อง /เสียเวลา เสียงบประมาณ 62.96% อันดับ 2 การจัดสรรผลประโยชน์ไม่ลงตัว อาจนำมาซึ่งความขัดแย้งภายในพรรค กลัวว่าจะเกิดความวุ่นวายทางการเมือง 21.17% อันดับ 3 รูปแบบวิธีการทำงานอาจเหมือนเดิม ผู้ที่จะมาแทนก็เป็นกลุ่มพวกพ้องเดียวกัน 15.87% --สวนดุสิตโพลล์--