“สวนดุสิตโพล” มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต ได้สอบถามความคิดเห็นของประชาชนทั่วประเทศ กรณี เจาะลึก “ข่าวการเมือง” ณ วันนี้ ที่ประชาชนสนใจ เพื่อให้ประชาชนได้มีส่วนร่วมโดยผ่านการสะท้อนความคิดเห็นและมุมมองของประชาชนที่มีต่อการเมืองไทย จำนวนทั้งสิ้น 1,332 คน ระหว่างวันที่ 22-26 ตุลาคม 2556 สรุปผลดังนี้
อันดับ 1 ข่าว “การพิจารณาคดีเขาพระวิหาร” 72.22% เหตุผล เพราะ เป็นเรื่องสำคัญที่เกี่ยวข้องกับชื่อเสียงของประเทศและความสัมพันธ์กับประเทศเพื่อนบ้าน อยากรู้ว่าผลการตัดสินจะออกมาอย่างไร ฯลฯ
**โดยประชาชนมีมุมมอง 3 ประเด็นหลัก คือ
1) มีหลายกระแสที่ออกมาวิพากษ์วิจารณ์ ควรรับฟังข่าวสารอย่างมีสติและรอฟังคำตัดสินของศาลก่อน 44.15%
2) ขอให้การพิจารณาเป็นไปอย่างยุติธรรม กังวลว่าประเทศไทยจะเสียเปรียบ 28.30%
3) อาจส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศและความปลอดภัยของประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ 27.55%
อันดับ 2 ข่าว “การพิจารณา พ.ร.บ.นิรโทษกรรม” 63.32%เหตุผล เพราะ เป็นเรื่องที่ยืดเยื้อมานาน อยากรู้ว่าผลการพิจารณาจะออกมาในรูปแบบใด อยากให้ยุติโดยเร็ว ฯลฯ
**โดยประชาชนมีมุมมอง 3 ประเด็นหลัก คือ
1) ขอให้การพิจารณาเป็นไปอย่างถูกต้อง ยุติธรรม เห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวมเป็นสำคัญ 56.67%
2) เป็นประเด็นที่ทำให้บ้านเมืองวุ่นวาย เกิดความขัดแย้ง แบ่งฝักแบ่งฝ่าย 29.44%
3) เป็นเรื่องสำคัญที่สังคมให้ความสนใจ สื่อจะต้องนำเสนอข่าวที่ถูกต้องและรวดเร็ว 13.89%
อันดับ 3 ข่าว “การปฏิรูปพรรคประชาธิปัตย์” 59.72%เหตุผล เพราะ เป็นพรรคเก่าแก่และเป็นพรรคใหญ่ที่มีบทบาทสำคัญของการเมืองไทย อยากรู้ว่าการปฏิรูปครั้งนี้จะทำให้พรรคเกิดความเปลี่ยนแปลงมากน้อยเพียงใด จะมีผลต่อการทำงานของพรรคหรือไม่ ฯลฯ
**โดยประชาชนมีมุมมอง 3 ประเด็นหลัก คือ
1) เป็นเรื่องดีที่จะมีการปรับเปลี่ยนให้เหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบัน ช่วยเสริมสร้างความเข้มแข็งภายในพรรค 45.76%
2) เป็นการกระตุ้นให้คนในพรรคตื่นตัว ไม่ยึดติดหรือคิดทำงานแบบเดิมๆ เน้นการทำงานเพื่อประชาชน 31.63%
3) อาจมีผู้ไม่หวังดีหรือฝ่ายตรงข้ามใช้เรื่องนี้มาเป็นประเด็นโจมตีเพื่อลดความน่าเชื่อถือของพรรค 22.61%
2. กรณีความคิดเห็น ได้มีการสำรวจเจาะลึกกรณี “ข่าว พ.ร.บ.นิรโทษกรรม” พบว่าประชาชนมีความคิดเห็นดังต่อไปนี้
1) ประชาชนคิดอย่างไร? กับ “พรบ.นิรโทษกรรม” ที่มีการวิพากษ์วิจารณ์อยู่ในขณะนี้
อันดับ 1 เป็นประเด็นที่ทำให้สังคมเกิดความขัดแย้งเนื่องจากเกี่ยวข้องกับคนหลายกลุ่ม 47.77%
อันดับ 2 ควรศึกษาให้รอบคอบ ผู้ที่กระทำผิดจริงควรได้รับการลงโทษ 31.21%
อันดับ 3 อาจเป็นความตั้งใจหรือเจตนาดีของรัฐบาล แต่จะต้องยึดหลักความถูกต้องยุติธรรม 21.02%
2) ถ้ากฎหมายนิรโทษกรรมผ่านในรูปแบบนิรโทษกรรมทุกคนทุกฝ่าย ประชาชนคิดว่าบ้านเมืองจะเป็นอย่างไร?
อันดับ 1 สถานการณ์ทางการเมืองร้อนแรง บ้านเมืองวุ่นวาย ไม่มั่นคง ขาดเสถียรภาพ 59.06%
อันดับ 2 ผู้ที่ไม่เห็นด้วยออกมาเคลื่อนไหว ต่อต้าน แบ่งเป็นฝักเป็นฝ่าย 22.82%
อันดับ 3 ผู้ที่ได้รับผลกระทบหรือสูญเสียญาติในเหตุการณ์ครั้งนั้น ไม่ได้รับความเป็นธรรม 18.12%
3) ถ้ากฎหมายนิรโทษกรรมผ่านในรูปแบบเฉพาะประชาชนผู้ที่เข้าไปเกี่ยวพันยกเว้นผู้สั่งการ ประชาชนคิดว่าบ้านเมืองจะเป็นอย่างไร?
อันดับ 1 ผู้ที่ไม่เห็นด้วยกับเรื่องนี้ย่อมไม่พอใจและออกมาเรียกร้องความเป็นธรรม 65.31%
อันดับ 2 บ้านเมืองวุ่นวาย มีการทะเลาะเบาะแว้งเกิดขึ้นจากคนหลายๆกลุ่ม 18.37%
อันดับ 3 เกิดความเหลื่อมล้ำทางสังคม ประชาชนมองว่ากฎหมายไม่เป็นธรรม ลำเอียง 16.32%
3. กรณี พรบ.นิรโทษกรรม ที่มีการแปรญัตติมาตรา 3 ให้นิรโทษทุกคนทุกฝ่าย มีการใช้คำว่า “สุดซอย” และ “เหมาเข่ง” ประชาชนชอบคำไหนมากที่สุด
อันดับ 1 ชอบคำว่า “เหมาเข่ง” 65.43%
เพราะ เป็นคำง่ายๆที่นำมาเปรียบเทียบทำให้เห็นภาพชัดเจน เป็นการเหมารวมทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นใครระดับไหนก็ตาม ฯลฯ
อันดับ 2 ชอบคำว่า “สุดซอย” 34.57%
เพราะ เข้าใจง่ายแต่สะดุดหู คาดไม่ถึงว่าจะนำคำนี้มาใช้ นักการเมืองมักจะมีคำศัพย์แปลกๆเสมอ ฯลฯ
--สวนดุสิตโพลล์--