จากที่ “คณะกรรมการการเลือกตั้ง” กำหนดให้วันที่ 7 สิงหาคม 2559 เป็นวันออกเสียงลงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ ซึ่งนับว่าเป็นการลงประชามติที่มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อบ้านเมืองและมีผลต่อการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองไทย ในขณะที่รัฐบาลก็ได้มีการสั่งห้ามรณรงค์รับหรือไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ เนื่องจากมองว่าอำนาจการตัดสินใจอยู่ที่ประชาชน เพื่อเป็นการสะท้อนความคิดเห็นของประชาชน “สวนดุสิตโพล” มหาวิทยาลัยสวนดุสิต ได้สำรวจความคิดเห็นของประชาชนทั่วประเทศ จำนวนทั้งสิ้น 1,176 คน สำรวจระหว่างวันที่ 18-22 เมษายน 2559 สรุปผลได้ ดังนี้
อันดับ 1 เป็นการมีส่วนร่วมและแสดงออกทางประชาธิปไตย 77.30% อันดับ 2 มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองไทย 74.66% อันดับ 3 อยากให้ทุกฝ่ายเตรียมพร้อม และดำเนินการให้ดีที่สุด 71.43% อันดับ 4 ควรแก้ปัญหาต่างๆ ให้เรียบร้อยก่อนจะถึงวันลงประชามติ 65.14% อันดับ 5 มีกระแสวิพากษ์วิจารณ์ และการชุมนุมเคลื่อนไหวมากขึ้น 50.34% 2. ปัจจัยที่มีผลต่อการ “รับ” หรือ “ไม่รับ” ร่างรัฐธรรมนูญของประชาชน อันดับ 1 เนื้อหาร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ 79.51% อันดับ 2 การตระหนักถึงความสำคัญของรัฐธรรมนูญ 76.36% อันดับ 3 ความถูกต้องยุติธรรมในการดำเนินงาน 73.55% อันดับ 4 การประชาสัมพันธ์เรื่องรัฐธรรมนูญ 66.92% อันดับ 5 สถานการณ์ทางการเมือง 62.59% 3. ประชาชนคิดอย่างไร? กับ การที่นักการเมืองต่างๆออกมาวิพากษ์วิจารณ์การลงประชามติร่างรัฐธรรมนูญครั้งนี้ อันดับ 1 เป็นสิทธิส่วนบุคคลที่สามารถทำได้ 75.26% อันดับ 2 ทำเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของตนเอง 74.06% อันดับ 3 ประชาชนควรรับฟังอย่างมีวิจารณญาณ 70.83% อันดับ 4 ควรเสนอแนะข้อมูลที่เป็นประโยชน์ และนึกถึงส่วนรวม 68.88% อันดับ 5 ไม่ควรก่อกวน สร้างกระแส หรือใส่ร้ายโจมตี 64.63% 4. ประชาชนเชื่อ “ความคิดเห็นของนักการเมืองที่ชื่นชอบ” ที่ออกมาวิพากษ์วิจารณ์เรื่องการลงประชามติร่างรัฐธรรมนูญครั้งนี้มากน้อยเพียงใด? อันดับ 1 ไม่ค่อยเชื่อ 45.15% เพราะ เป็นเกมการเมือง เป็นเรื่องปกติที่มีทั้งผู้ที่เห็นด้วยและเห็นต่าง มาจากความคิดเห็นส่วนตัว ฯลฯ อันดับ 2 ไม่เชื่อ 36.26% เพราะ การเมืองเป็นเรื่องของอำนาจและผลประโยชน์ ต้องการปกป้องผลประโยชน์ของตนเองมากกว่า ฯลฯ อันดับ 3 ค่อนข้างเชื่อ 13.87% เพราะ แสดงความคิดเห็นน่าสนใจ มีเหตุมีผล น่าจะเป็นประโยชน์ต่อการตัดสินใจ ฯลฯ อันดับ 4 เชื่อมาก 4.72% เพราะ เป็นบุคคลที่ชื่นชอบ อยู่ในแวดวงการเมืองมานาน มีความรู้และประสบการณ์ทางการเมือง ฯลฯ 5. “ปัญหาอุปสรรค” ในการที่จะไปลงประชามติร่างรัฐธรรมนูญครั้งนี้ คือ อันดับ 1 เรื่องเวลา ติดธุระ ไม่สะดวก 83.08% อันดับ 2 ไม่มีความรู้ความเข้าใจ ไม่รู้เรื่อง ไม่ได้ติดตาม 79.00% อันดับ 3 ความคิดเห็นส่วนตัวที่มีต่อร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ 71.09% อันดับ 4 การเดินทาง สถานที่ลงประชามติ 59.18% อันดับ 5 สถานการณ์บ้านเมืองในช่วงเวลานั้น 47.25%
--สวนดุสิตโพล--