หลังจากผ่านบรรยากาศรื่นเริงในช่วงเทศกาลสงกรานต์ สถานการณ์ทางการเมืองก็ยังคงมีความเคลื่อนไหวและมีหลายประเด็นที่อยู่ในความสนใจของประชาชนโดยเฉพาะ การบริหารบ้านเมืองของนายกรัฐมนตรีและรัฐบาลท่ามกลางปัญหาต่างๆที่เข้ามารุมเร้ามากมาย เพื่อสะท้อนความคิดเห็นของประชาชน “สวนดุสิตโพล” มหาวิทยาลัยสวนดุสิต ได้สำรวจ ความคิดเห็นของประชาชนทั่วประเทศ จำนวนทั้งสิ้น 1,167 คน ระหว่างวันที่ 17-21 เมษายน 2560 สรุปผลได้ ดังนี้
อันดับ 1 ปัญหาเศรษฐกิจ 87.92% เพราะ เป็นปัญหาใหญ่ที่รัฐบาลยังแก้ไม่ตก ส่งผลกระทบต่อประชาชนทั้งเรื่องของกินของใช้แพง ราคาผลผลิตตกต่ำ การส่งออกมีปัญหา ยังมีคนตกงาน ว่างงาน ฯลฯ วิธีแก้ไข มีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ได้ผล สรรหาผู้ที่มีความรู้ เก่งเรื่องเศรษฐกิจมาช่วย มีการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานเพื่อเกิดการ จ้างงาน เปิดโอกาสให้ต่างชาติเข้ามาลงทุน ฯลฯ อันดับ 2 การทุจริตคอรัปชั่น 76.61% เพราะ ยังพบการทุจริตจำนวนมากโดยเฉพาะโครงการต่างๆของภาครัฐ ไม่มีการตรวจสอบที่จริงจังและเข้มงวด มีข่าวออกมาเป็นระยะๆ มีการใช้งบประมาณจำนวนมาก ฯลฯ วิธีแก้ไข ภาครัฐต้องชี้แจงให้ประชาชนรับรู้ มีเอกสารหลักฐานประกอบ เร่งปราบปรามการทุจริตคอรัปชั่น ดำเนินการเอาผิดอย่างจริงจัง เพิ่มบทลงโทษให้รุนแรง ฯลฯ อันดับ 3 ความขัดแย้งทางการเมือง 70.45% เพราะ เป็นเรื่องที่จัดการได้ยาก มีเรื่องผลประโยชน์เกี่ยวข้อง รัฐบาลยังไม่สามารถสร้างความปรองดองทางการเมืองได้อย่างแท้จริง ส่งผลกระทบต่อการพัฒนาบ้านเมือง ฯลฯ วิธีแก้ไข รัฐบาลต้องมีนโยบายชัดเจนในการแก้ปัญหา ขอความร่วมมือจากทุกฝ่าย รับฟังความเห็นรอบด้าน ไม่อคติ ฯลฯ อันดับ 4 การบังคับใช้กฎหมาย การใช้มาตรา 44 64.78% เพราะ มีกระแสต่อต้าน มองว่าถูกรัฐบาลปิดกั้น ถูกจำกัดสิทธิเสรีภาพ บางคดีถูกมองว่าไม่เป็นธรรม สองมาตรฐาน ฯลฯ วิธีแก้ไข ต้องใช้ด้วยความรอบคอบ คำนึงถึงผลดี-ผลเสียที่จะตามมา สามารถชี้แจงและทำความเข้าใจกับประชาชนได้ ฯลฯ อันดับ 5 การเลือกตั้ง 61.18% เพราะ เป็นเรื่องสำคัญทางการเมืองและมีผลต่ออนาคตของประเทศ กระบวนการขั้นตอนต่างๆยังไม่ชัดเจน มีนักการเมืองออกมา เคลื่อนไหวมากขึ้น ฯลฯ วิธีแก้ไข รับฟังความคิดเห็นจากทุกฝ่าย เชิญนักการเมืองมาพูดคุย และหาแนวทางที่เหมาะสม กำหนดวันเวลาเลือกตั้งที่ชัดเจน ฯลฯ
--สวนดุสิตโพล--