จากข่าวการที่ กทม. จะขอเป็นเจ้าภาพการจัดแข่งขันกีฬาโอลิมปิกในปี 2008 โดยคณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไปแล้วนั้น กระแสข่าวดังกล่าว “สวนดุสิตโพล” สถาบันราชภัฏสวนดุสิต ได้ร่วมมือกับสถาบันราชภัฏทั่วประเทศ สำรวจความคิดเห็นก่อน ครม. ให้ความเห็นชอบ โดยสำรวจระหว่างวันที่ 8 | 29 มกราคม 2543 สุ่มประชาชนทุกกลุ่มอาชีพทั่วประเทศ จำนวน 4,738 คน (กรุงเทพฯ 1,279 คน 27.00% ต่างจังหวัด 3,459 คน 73.00%) สรุปผลการสำรวจได้ดังนี้
ประเทศไทยควรที่จะเสนอตัวเป็นเจ้าภาพการจัดแข่งขันกีฬาโอลิมปิกหรือไม่ ?
อันดับที่ 1 สมควร 71.16%
เพราะ จะสร้างชื่อเสียงให้แก่ประเทศชาติ, เศรษฐกิจจะดีขึ้น, มาตรฐานกีฬาจะดีขึ้น ฯลฯ
อันดับที่ 2 ไม่แน่ใจ 17.14%
เพราะ มาตรฐานสถานที่จะได้หรือไม่?, ต่างชาติจะยอมรับได้หรือไม่ ? ฯลฯ
อันดับที่ 3 ไม่สมควร 10.18%
เพราะ ต้องใช้เงินลงทุนจำนวนมาก, รอให้เศรษฐกิจดีเสียก่อน ฯลฯ
* ไม่ระบุ 1.52%
2. ประเทศไทยควรจะเป็นเจ้าภาพการจัดแข่งขันกีฬาโอลิมปิกในปีใด ? (ตอบเฉพาะผู้เห็นสมควรจัด)
อันดับที่ 1 ปี 2008 (พ.ศ. 2551) 78.12%
อันดับที่ 2 ปี 2012 (พ.ศ. 2555) 12.16%
อันดับที่ 3 ปี 2016 (พ.ศ. 2559) 7.94%
* อื่น ๆ เช่น ปี 2004, เมื่อมาตรฐานกีฬาดีกว่านี้ ฯลฯ 1.78%
3. “ผลดี” ที่ประเทศไทยจะได้รับถ้าเป็นเจ้าภาพการจัดแข่งขันกีฬาโอลิมปิก
อันดับที่ 1 สร้างชื่อเสียงให้แก่ประเทศ/ เป็นที่รู้จักทั่วโลก 51.06%
อันดับที่ 2 สร้างมาตรฐานกีฬาให้มีคุณภาพ/ เยาวชนตื่นตัวกีฬา 21.09%
อันดับที่ 3 เศรษฐกิจดีขึ้น / ส่งเสริมการท่องเที่ยว/ ต่างชาติมาลงทุน 20.33%
อันดับที่ 4 นักกีฬาไทยมีโอกาสทำชื่อเสียง/ ได้เหรียญโอลิมปิก 3.89%
* อื่น ๆ เช่น ส่งเสริมให้ประชาชนมีงานทำ ฯลฯ 3.63%
4. “ผลเสีย” ที่ประเทศไทยจะได้รับถ้าเป็นเจ้าภาพการจัดแข่งขันกีฬาโอลิมปิก
อันดับที่ 1 ต้องใช้เงินลงทุนสูง / ต้องกู้เงินต่างชาติ/ เป็นหนี้ 36.56%
อันดับที่ 2 ถ้าจัดได้ไม่ดีจะทำให้เสียชื่อเสียงประเทศชาติ 36.22%
อันดับที่ 3 อาจมีการก่อการร้าย/ ไม่แน่ใจว่าจะควบคุมระบบรักษาความปลอดภัยได้ 22.19%
* อื่น ๆ เช่น การขายบริการทางเพศ ผลจากงานบริการ ฯลฯ 5.03%
5. ถ้าประเทศไทยได้เป็นเจ้าภาพการจัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกควรจัดการแข่งขันที่ใดบ้าง
* ควรจัดกระจายไปตามจังหวัดใหญ่ ๆ (เรียงมา 5 จังหวัด) 76.97%
อันดับที่ 1 กรุงเทพฯ อันดับที่ 2 เชียงใหม่ อันดับที่ 3 สงขลา อันดับที่ 4 นครราชสีมา
อันดับที่ 5 สุพรรณบุรี
เพราะ กระจายให้ประชาชนได้ชมอย่างทั่วถึง, ให้ต่างชาติได้รู้จักจังหวัดต่าง ๆ , กระจายเศรษฐกิจไปทั่วประเทศ ฯลฯ
* ควรจัดเฉพาะในกรุงเทพฯ 23.03%
เพราะ รักษาความปลอดภัยง่าย , สนามกีฬาพร้อมมากกว่า ฯลฯ
6. ทำอย่างไร ? ไทยจึงจะได้เป็นเจ้าภาพการจัดแข่งขันกีฬาโอลิมปิก
อันดับที่ 1 คณะกรรมการโอลิมปิกไทยต้องประสานงานอย่างจริงจัง/ วิ่งเต้นให้มาก พยายามให้
สมาชิกประเทศต่าง ๆ ยอมรับให้ได้แม้จะต้องลงทุนบ้าง 35.34%
อันดับที่ 2 ต้องร่วมมือกันทุกฝ่าย/ ช่วยกันติดต่อ/ ช่วยกันประชาสัมพันธ์ประเทศ 33.01%
อันดับที่ 3 ประชาสัมพันธ์ความสามารถในการจัดการแข่งขัน ยกตัวอย่างเอเชียนเกมส์ให้ทั่วโลก
ได้รับรู้ 20.16%
อันดับที่ 4 แสดงความสามารถในการรักษาความปลอดภัย 5.83%
อันดับที่ 5 ประชาสัมพันธ์ความงดงามทั้งภูมิประเทศ/ วัฒนธรรมไทย 4.44%
* อื่น ๆ เช่น เผยแพร่เกียรติคุณด้านการกีฬาของไทย/ กีฬาประจำชาติ (มวยไทย) ฯลฯ 1.22%
--สวนดุสิตโพล--
ประเทศไทยควรที่จะเสนอตัวเป็นเจ้าภาพการจัดแข่งขันกีฬาโอลิมปิกหรือไม่ ?
อันดับที่ 1 สมควร 71.16%
เพราะ จะสร้างชื่อเสียงให้แก่ประเทศชาติ, เศรษฐกิจจะดีขึ้น, มาตรฐานกีฬาจะดีขึ้น ฯลฯ
อันดับที่ 2 ไม่แน่ใจ 17.14%
เพราะ มาตรฐานสถานที่จะได้หรือไม่?, ต่างชาติจะยอมรับได้หรือไม่ ? ฯลฯ
อันดับที่ 3 ไม่สมควร 10.18%
เพราะ ต้องใช้เงินลงทุนจำนวนมาก, รอให้เศรษฐกิจดีเสียก่อน ฯลฯ
* ไม่ระบุ 1.52%
2. ประเทศไทยควรจะเป็นเจ้าภาพการจัดแข่งขันกีฬาโอลิมปิกในปีใด ? (ตอบเฉพาะผู้เห็นสมควรจัด)
อันดับที่ 1 ปี 2008 (พ.ศ. 2551) 78.12%
อันดับที่ 2 ปี 2012 (พ.ศ. 2555) 12.16%
อันดับที่ 3 ปี 2016 (พ.ศ. 2559) 7.94%
* อื่น ๆ เช่น ปี 2004, เมื่อมาตรฐานกีฬาดีกว่านี้ ฯลฯ 1.78%
3. “ผลดี” ที่ประเทศไทยจะได้รับถ้าเป็นเจ้าภาพการจัดแข่งขันกีฬาโอลิมปิก
อันดับที่ 1 สร้างชื่อเสียงให้แก่ประเทศ/ เป็นที่รู้จักทั่วโลก 51.06%
อันดับที่ 2 สร้างมาตรฐานกีฬาให้มีคุณภาพ/ เยาวชนตื่นตัวกีฬา 21.09%
อันดับที่ 3 เศรษฐกิจดีขึ้น / ส่งเสริมการท่องเที่ยว/ ต่างชาติมาลงทุน 20.33%
อันดับที่ 4 นักกีฬาไทยมีโอกาสทำชื่อเสียง/ ได้เหรียญโอลิมปิก 3.89%
* อื่น ๆ เช่น ส่งเสริมให้ประชาชนมีงานทำ ฯลฯ 3.63%
4. “ผลเสีย” ที่ประเทศไทยจะได้รับถ้าเป็นเจ้าภาพการจัดแข่งขันกีฬาโอลิมปิก
อันดับที่ 1 ต้องใช้เงินลงทุนสูง / ต้องกู้เงินต่างชาติ/ เป็นหนี้ 36.56%
อันดับที่ 2 ถ้าจัดได้ไม่ดีจะทำให้เสียชื่อเสียงประเทศชาติ 36.22%
อันดับที่ 3 อาจมีการก่อการร้าย/ ไม่แน่ใจว่าจะควบคุมระบบรักษาความปลอดภัยได้ 22.19%
* อื่น ๆ เช่น การขายบริการทางเพศ ผลจากงานบริการ ฯลฯ 5.03%
5. ถ้าประเทศไทยได้เป็นเจ้าภาพการจัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกควรจัดการแข่งขันที่ใดบ้าง
* ควรจัดกระจายไปตามจังหวัดใหญ่ ๆ (เรียงมา 5 จังหวัด) 76.97%
อันดับที่ 1 กรุงเทพฯ อันดับที่ 2 เชียงใหม่ อันดับที่ 3 สงขลา อันดับที่ 4 นครราชสีมา
อันดับที่ 5 สุพรรณบุรี
เพราะ กระจายให้ประชาชนได้ชมอย่างทั่วถึง, ให้ต่างชาติได้รู้จักจังหวัดต่าง ๆ , กระจายเศรษฐกิจไปทั่วประเทศ ฯลฯ
* ควรจัดเฉพาะในกรุงเทพฯ 23.03%
เพราะ รักษาความปลอดภัยง่าย , สนามกีฬาพร้อมมากกว่า ฯลฯ
6. ทำอย่างไร ? ไทยจึงจะได้เป็นเจ้าภาพการจัดแข่งขันกีฬาโอลิมปิก
อันดับที่ 1 คณะกรรมการโอลิมปิกไทยต้องประสานงานอย่างจริงจัง/ วิ่งเต้นให้มาก พยายามให้
สมาชิกประเทศต่าง ๆ ยอมรับให้ได้แม้จะต้องลงทุนบ้าง 35.34%
อันดับที่ 2 ต้องร่วมมือกันทุกฝ่าย/ ช่วยกันติดต่อ/ ช่วยกันประชาสัมพันธ์ประเทศ 33.01%
อันดับที่ 3 ประชาสัมพันธ์ความสามารถในการจัดการแข่งขัน ยกตัวอย่างเอเชียนเกมส์ให้ทั่วโลก
ได้รับรู้ 20.16%
อันดับที่ 4 แสดงความสามารถในการรักษาความปลอดภัย 5.83%
อันดับที่ 5 ประชาสัมพันธ์ความงดงามทั้งภูมิประเทศ/ วัฒนธรรมไทย 4.44%
* อื่น ๆ เช่น เผยแพร่เกียรติคุณด้านการกีฬาของไทย/ กีฬาประจำชาติ (มวยไทย) ฯลฯ 1.22%
--สวนดุสิตโพล--