จากที่รัฐบาลได้มีการหารือกับคณะกรรมการการเลือกตั้ง คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ และพรรคการเมือง เพื่อรับฟังความคิดเห็นเกี่ยวกับการเลือกตั้ง โดยมีการวางกรอบเวลาการเลือกตั้งในช่วง 24 ก.พ. - 5 พ.ค. 62 ส่งผลให้การกำหนดวันเลือกตั้งในปี 2562 เริ่มมีความชัดเจนมากขึ้น เพื่อเป็นการสะท้อน ความคิดเห็นของประชาชน “สวนดุสิตโพล” มหาวิทยาลัยสวนดุสิต ได้สำรวจความคิดเห็นของประชาชนทั่วประเทศ จำนวนทั้งสิ้น 1,136 คน ระหว่างวันที่ 26-30 มิถุนายน 2561 สรุปผลได้ ดังนี้
อันดับ 1 เห็นด้วย เป็นข่าวดี อยากให้มีการเลือกตั้ง 54.17% อันดับ 2 เป็นเพียงการคาดคะเน ยังไม่ได้ข้อสรุปที่ชัดเจน ยังไม่แน่ใจ 27.08% อันดับ 3 คาดว่าน่าจะเป็นเรื่องจริง เพราะรัฐบาลเป็นผู้ให้ข่าว 24.03% อันดับ 4 รอให้นายกฯ ออกมาแถลงข่าวอย่างเป็นทางการ 22.50% อันดับ 5 น่าจะเป็นผลดีต่อประเทศ ต่างชาติจับตามองสถานการณ์ในไทย 13.89% 2. ประชาชนมีความเชื่อมั่นว่าจะมีการเลือกตั้งในปี 2562 มากน้อยเพียงใด? อันดับ 1 ไม่ค่อยเชื่อมั่นว่าจะมีเลือกตั้ง 36.88% เพราะ บ้านเมืองยังมีปัญหา ยังมีความวุ่นวาย มีข้อมูลหลายกระแส ยังไม่แน่ใจ ยังไม่รู้ข้อมูลข้อเท็จจริง ฯลฯ อันดับ 2 ค่อนข้างเชื่อมั่นว่าจะมีเลือกตั้ง 25.09% เพราะ หลายฝ่ายกดดัน กระแสสังคมอยากให้มีการเลือกตั้ง มีกระแสข่าวกำหนด วันเลือกตั้งออกมาอย่างต่อเนื่อง ฯลฯ อันดับ 3 ไม่เชื่อมั่นเลย 20.86% เพราะ ที่ผ่านมามีการกำหนดวันและมีการเลื่อน รัฐบาลมีอำนาจเด็ดขาดใน การตัดสินใจ สถานการณ์บ้านเมืองไม่แน่นอน ต้องรอประกาศที่ชัดเจนจาก กกต. ฯลฯ อันดับ 4 เชื่อมั่นว่าจะมีเลือกตั้งแน่นอน 17.17% เพราะ เป็นไปตามระยะเวลาที่รัฐบาลกำหนดไว้ มีการแก้ไขกฎหมายและ เตรียมพร้อมเพื่อจัดการเลือกตั้ง หลายพรรคเริ่มมีการเคลื่อนไหวเตรียมผู้สมัคร ฯลฯ 3. ทำอย่างไร? จึงจะทำให้ประชาชนเชื่อมั่นว่าจะมีการเลือกตั้งในปี 2562 อย่างแน่นอน อันดับ 1 นายกฯ ออกมาประกาศอย่างเป็นทางการ ระบุวัน เวลา ที่แน่นอน 57.54% อันดับ 2 รัฐธรรมนูญเสร็จเรียบร้อย ปลดล็อคพรรคการเมือง 36.14% อันดับ 3 กกต. ออกมาประกาศข้อมูลเกี่ยวกับการเลือกตั้ง 25.28% อันดับ 4 ดำเนินการตามโรดแมป ไม่เลื่อน 19.94% อันดับ 5 คสช. เป็นรัฐบาลรักษาการ เตรียมพร้อมรอการเลือกตั้ง 17.50% 4. “ผลดี” ที่จะมีการเลือกตั้งในปี 2562 คือ อันดับ 1 เป็นประชาธิปไตย ประชาชนได้ใช้สิทธิ มีส่วนร่วมทางการเมือง 43.15% อันดับ 2 ต่างชาติเชื่อมั่น มีการค้าการลงทุน เศรษฐกิจดีขึ้น 37.23% อันดับ 3 บ้านเมืองพัฒนา ประเทศเดินหน้าต่อไปได้ 30.78% อันดับ 4 มีนายกฯ ที่มาจากการเลือกตั้ง มีฝ่ายค้านคอยตรวจสอบ 22.04% อันดับ 5 สถานการณ์ทางการเมืองดีขึ้น เกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง 11.96% 5. “ผลเสีย” ถ้าไม่มีการเลือกตั้งในปี 2562 คือ อันดับ 1 เศรษฐกิจแย่ลงกว่าเดิม ต่างชาติไม่เชื่อมั่น ไม่มาลงทุน 51.52% อันดับ 2 เกิดการชุมนุม เคลื่อนไหว บ้านเมืองไม่สงบ 29.41% อันดับ 3 ประชาชนไม่เชื่อถือ ไม่เชื่อมั่น ส่งผลต่อภาพลักษณ์ของรัฐบาล 19.07% อันดับ 4 การเมืองไม่เข้มแข็ง ไม่เป็นประชาธิปไตย ขาดการตรวจสอบ คานอำนาจ 16.58% อันดับ 5 พรรคการเมือง นักการเมืองถูกลดบทบาท ไม่สามารถทำหน้าที่ได้ 16.04% 6. ทำอย่างไร? การเลือกตั้งในปี 2562 จึงจะเป็นไปด้วยความเรียบร้อย และไม่วุ่นวาย อันดับ 1 ทุกคนทุกฝ่ายต้องให้ความร่วมมือ เคารพสิทธิซึ่งกันและกัน 42.66% อันดับ 2 จัดระเบียบการเลือกตั้ง กฎระเบียบเคร่งครัด อยู่ในกติกา เคารพกฎหมาย 38.32% อันดับ 3 รัฐบาลมีการหารือพูดคุยกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง มีข้อตกลงร่วมกัน 34.10% อันดับ 4 มีการวางแผนอย่างเป็นระบบ มีขั้นตอนที่ชัดเจน 22.83% อันดับ 5 สื่อนำเสนอข่าวเป็นจริง ไม่บิดเบือน ไม่สร้างกระแส 9.78% 7. ถ้ามีการเลือกตั้งแล้ว ประชาชนคิดว่าการเมืองไทยจะเป็นอย่างไร? อันดับ 1 ดีขึ้น 52.34% เพราะ การเมืองมีเสถียรภาพ เป็นประชาธิปไตย ได้รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง เศรษฐกิจดีขึ้น ต่างชาติเชื่อมั่น การบริหารประเทศคล่องตัว มีการตรวจสอบ คานอำนาจ บ้านเมืองพัฒนา ฯลฯ อันดับ 2 เหมือนเดิม 42.06% เพราะ การเมืองไทยเป็นเรื่องของอำนาจและผลประโยชน์ ส่วนใหญ่เป็น นักการเมืองหน้าเก่า ยังคงทะเลาะเบาะแว้ง แบ่งฝักแบ่งฝ่ายเหมือนเดิม ฯลฯ อันดับ 3 แย่ลง 5.60% เพราะ บ้านเมืองยังคงมีปัญหา แก้ไขได้ยาก อาจเกิดสถานการณ์ ความวุ่นวาย มีผู้ที่เสียประโยชน์ ฯลฯ
--สวนดุสิตโพล--