วันที่ 26 พ.ย. ที่ผ่านมา เป็นวันสุดท้ายที่อดีต ส.ส.ที่ต้องการย้ายพรรคจะต้องตัดสินใจเลือกสมัครเป็นสมาชิกพรรคใดพรรคหนึ่ง เพื่อให้มี คุณสมบัติครบ 90 วัน ก่อนการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในเดือน ก.พ.62 จึงเป็นที่จับตาดูว่าการย้ายพรรคของอดีต ส.ส.ครั้งนี้จะส่งผลให้แต่ละพรรคมีความเคลื่อนไหว อย่างไร เพื่อสะท้อนความคิดเห็นของประชาชน กรณี การย้ายพรรค “สวนดุสิตโพล” มหาวิทยาลัยสวนดุสิต ได้ดำเนินการสำรวจความคิดเห็นของประชาชน ทั่วประเทศ จำนวนทั้งสิ้น 1,180 คน ระหว่างวันที่ 28 พฤศจิกายน – 1 ธันวาคม 2561 สรุปได้ ดังนี้
อันดับ 1 เป็นสิทธิส่วนบุคคล ขึ้นอยู่กับความสมัครใจ เป็นไปตามระบอบประชาธิปไตย 38.42% อันดับ 2 เพื่ออำนาจและผลประโยชน์ เพื่อความมั่นคง ก้าวหน้า 29.33% อันดับ 3 ไม่ว่าจะอยู่พรรคใด ขอให้ตั้งใจทำงาน พัฒนาประเทศให้ดีขึ้น 19.73% อันดับ 4 อาจมีปัญหาภายในพรรค ความคิดเห็นไม่ตรงกัน ไม่อยากอยู่ 14.92% อันดับ 5 เป็นประเด็นทางการเมือง ทำให้ตื่นตัว อยากรู้ อยากติดตามข่าว 9.61% 2. ประชาชนคิดว่าการย้ายพรรคมีผลต่อการเลือก ส.ส. หรือไม่ อันดับ 1 มีผล 51.04% เพราะ กระทบต่อความรู้สึก ความเชื่อมั่น เชื่อใจลดลง พิจารณาจากพรรคที่ชอบ แต่ละพรรคมีนโยบายแตกต่างกัน ฯลฯ อันดับ 2 ไม่มีผล 48.96% เพราะ พิจารณาที่ตัวบุคคล ยังชอบเหมือนเดิม ดูจากผลงานที่ผ่านมา ความรู้ความสามารถ อยู่พรรคไหนก็ทำงานได้ ฯลฯ 3. ถ้า ส.ส. ที่ประชาชนเลือกครั้งที่แล้วย้ายพรรค การเลือกตั้งครั้งนี้ประชาชนจะยังเลือกผู้สมัครคนนั้นเป็น ส.ส. อีกหรือไม่ อันดับ 1 เลือก 54.06% เพราะ ชื่นชอบเหมือนเดิม การย้ายพรรคเป็นเหตุผลส่วนตัว พิจารณาจากผลงานที่ผ่านมา ทำงานดีดูแลประชาชน ฯลฯ อันดับ 2 ไม่เลือก 45.94% เพราะ ชอบพรรคเดิม นโยบายไม่เหมือนกัน ขาดอุดมการณ์ ไม่มีจุดยืน ความเชื่อมั่นลดลง ฯลฯ
--สวนดุสิตโพล--