สวนดุสิตโพล: ประชาชนคิดอย่างไร? กรณี การอภิปรายไม่ไว้วางใจ 6 รัฐมนตรี

ข่าวผลสำรวจ Tuesday February 11, 2020 13:36 —สวนดุสิตโพล

จากที่ประธานสภาผู้แทนราษฎร กำหนดวันอภิปรายไม่ไว้วางใจ คือวันที่ 24-26 กุมภาพันธ์ เป็นเวลา 3 วัน ก่อนลงมติในวันที่ 27 กุมภาพันธ์ และปิดประชุมรัฐสภาสมัยประชุมสามัญประจำปีครั้งที่สองในวันที่ 29 กุมภาพันธ์ ทำให้เป็นที่จับตามองจากหลายฝ่ายและคาดว่าการอภิปรายครั้งนี้น่าจะเข้มข้น ทั้งฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาลมีการเตรียมพร้อมมาอย่างดี เพื่อสะท้อนความคิดเห็นของประชาชนก่อนการอภิปรายที่กำลังจะมีขึ้น “สวนดุสิตโพล”มหาวิทยาลัยสวนดุสิต ได้สำรวจความคิดเห็นของประชาชนทั่วประเทศ จำนวนทั้งสิ้น 1,088 คน ระหว่างวันที่ 5-8 กุมภาพันธ์ 2563 สรุปผลได้ ดังนี้

1. ประชาชนจะติดตามการอภิปรายที่กำลังจะมีขึ้นในวันที่ 24-26 กุมภาพันธ์ หรือไม่?
อันดับ 1 ติดตาม                                                                                   45.59%
เพราะ เป็นการอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งแรก ประเด็นที่ฝ่ายค้านยื่นขอเปิดอภิปรายน่าสนใจ อยากฟังการชี้แจงของ
ทั้ง 6 รัฐมนตรี ต้องการรู้ข้อมูลข้อเท็จจริงให้มากขึ้น ชอบติดตามข่าวการเมือง ฯลฯ
อันดับ 2 ไม่แน่ใจ                                                                                  29.32%
เพราะ  ต้องทำงาน อาจไม่มีเวลาติดตาม ทำให้เครียด การอภิปรายครั้งนี้คงไม่แตกต่างจากทุกครั้งที่ผ่านมา ฯลฯ
อันดับ 3 ไม่ติดตาม                                                                                 25.09%
เพราะ  ไม่เกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวัน ไม่น่าจะเกิดประโยชน์กับประชาชน ไม่อยากรู้ ไม่เชื่อถือนักการเมือง ฯลฯ

2. เรื่องที่ประชาชนสนใจหรืออยากให้มีการอภิปรายมากที่สุด
อันดับ 1 ผลงานของนายกรัฐมนตรีและฝ่ายรัฐบาล การไม่ปฏิบัติตามนโยบายที่ให้ไว้                                   44.52%
อันดับ 2 การแก้ปัญหาเศรษฐกิจและปากท้องของประชาชน                                                     33.56%
อันดับ 3 การปล่อยปละละเลยให้มีการทุจริต ความไม่โปร่งใส เอื้อประโยชน์แก่พวกพ้อง                               23.27%
อันดับ 4 การแก้ไขรัฐธรรมนูญให้เป็นไปตามระบอบประชาธิปไตย                                                13.13%
อันดับ 5 การใช้งบประมาณ การจัดซื้อจัดจ้าง อนุมัติโครงการต่างๆ                                              10.55%

3. สิ่งที่ประชาชนอยากเห็นจากการอภิปรายไม่ไว้วางใจ คือ
อันดับ 1 ความเป็นระเบียบเรียบร้อย เคารพกฎกติกาในที่ประชุม                                                43.33%
อันดับ 2 ข้อมูลเป็นประโยชน์ สร้างสรรค์ ชัดเจน ตรงประเด็นตามข้อเท็จจริง                                      37.12%
อันดับ 3 รัฐบาลปรับปรุงการทำงานให้ดีขึ้น นำข้อเสนอแนะไปใช้                                                33.48%

4. สิ่งที่ประชาชนไม่อยากเห็นจากการอภิปรายไม่ไว้วางใจ คือ
อันดับ 1 พฤติกรรมไม่เหมาะสม ทะเลาะกัน ประท้วงบ่อย ทำสภาล่ม                                             51.21%
อันดับ 2 ตอบคำถามไม่ชัดเจน ไม่ตรงประเด็น พูดนอกเรื่อง พูดเรื่องเดิม                                         33.15%
อันดับ 3 ไม่เคารพที่ประชุม นั่งหลับ เล่นมือถือ ไม่เข้าประชุม ไม่รักษาเวลา                                       28.68%

5. ประชาชนคิดว่าจะได้รับประโยชน์จากการอภิปรายไม่ไว้วางใจ หรือไม่?
อันดับ 1 ไม่แน่ใจ                                                                                  40.07%
เพราะ  ต้องรอดูจากการอภิปราย ขึ้นอยู่กับผลที่จะเกิดขึ้น ยังไม่รู้ว่าจะเป็นอย่างไร ฯลฯ
อันดับ 2 ได้ประโยชน์                                                                               33.92%
เพราะ  ได้รับรู้ข้อมูลที่ชัดเจนมากขึ้นจากทั้งฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาล ได้ฟังการชี้แจงจาก 6 รัฐมนตรี
อาจมีข้อมูลใหม่ ๆ ที่น่าสนใจ ช่วยให้เข้าใจการเมืองมากขึ้น  ฯลฯ
อันดับ 3 ไม่ได้ประโยชน์                                                                             26.01%
เพราะ  เป็นเรื่องไกลตัว เป็นเรื่องของสภา นักการเมืองมัวแต่ทะเลาะโต้เถียงกันไปมา เป็นเพียงแค่เกมการเมือง
รัฐบาลยังคงบริหารประเทศต่อไป ฯลฯ

6. หลังการอภิปรายเสร็จสิ้นลง ประชาชนคิดว่าการเมืองไทยจะเป็นอย่างไร?
อันดับ 1 เหมือนเดิม                                                                                55.88%
เพราะ  คณะทำงานชุดเดิม รัฐบาลยังคงมีอำนาจและมีเสียงข้างมาก เหมือนกับการอภิปรายทุกครั้งที่ผ่านมา ฯลฯ
อันดับ 2 น่าจะแย่ลง                                                                                24.08%
เพราะ  รัฐบาลแก้ปัญหาล่าช้า ไม่เป็นรูปธรรม มีปัญหารุมเร้าหลายเรื่อง
สถานการณ์อาจบานปลายหรือแย่ลงกว่าเดิม ฯลฯ
อันดับ 3 น่าจะดีขึ้น                                                                                 20.04%
เพราะ  เป็นการกระตุ้นให้รัฐบาลเร่งทำงาน กระตือรือร้นมากขึ้น รู้ข้อบกพร่องหรือปัญหาที่ผ่านมา
นำไปพัฒนาปรับปรุง ฯลฯ

ที่มา: สวนดุสิตโพล


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ