จากที่รัฐบาลจีนได้ประกาศปรับค่าเงินหยวนเพิ่มขึ้น 2% ทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงต่อภาวะตลาดโลก
ซึ่งอาจเกิดผลกระทบต่อภาวะเศรษฐกิจของประเทศไทย “สวนดุสิตโพล” มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต จึงได้สำรวจ
ความคิดเห็นของนายธนาคารและกลุ่มนักธุรกิจไทย จำนวนทั้งสิ้น 441 คน โดยสำรวจในวันที่ 25 กรกฎาคม
2548 สรุปผลได้ดังนี้สรุปผลได้ดังนี้
1. “ผลดี” ต่อเศรษฐกิจไทยที่ได้รับจากการปรับค่าเงินหยวนของประเทศจีน
ภาพรวม
อันดับที่ 1 ตลาดการส่งออกของสินค้าไทยสามารถแข่งขันได้มากขึ้น 68.01%
อันดับที่ 2 การนำสินค้าเข้ามาจากประเทศจีนอาจลดน้อยลงทำให้คนไทยหันมาใช้สินค้าจากไทยด้วยกันมากขึ้น 22.29%
อันดับที่ 3 การลงทุนกับชาวต่างชาติจะดีขึ้น/นักลงทุนอาจเลือกมาลงทุนกับไทยมากขึ้น 9.70%
2. “ผลเสีย” ต่อเศรษฐกิจไทยที่ได้รับจากการปรับค่าเงินหยวนของประเทศจีน
ภาพรวม
อันดับที่ 1 การนำเข้าสินค้าบางประเภทมีต้นทุนสูงขึ้น 47.35%
อันดับที่ 2 อัตราการใช้เงินของไทยจะสูงขึ้น/เสียดุลเรื่องการซื้อ ขาย 34.24%
อันดับที่ 3 ผู้ส่งออกของไทยอาจจะเกิดภาวการณ์ชะงัก การส่งออกบางประเภทอาจลดน้อยลง 18.41%
3. “นายธนาคาร/นักธุรกิจ” มีความมั่นใจต่อสภาพเศรษฐกิจไทย ณ วันนี้อย่างไร?
ภาพรวม
อันดับที่ 1 ไม่ค่อยมั่นใจ 53.41%
เพราะ ค่าน้ำมันที่ผันผวนตลอดเวลาทำให้เศรษฐกิจชะลอตัว,รัฐบาลแก้ปัญหาไม่ค่อยตรงจุด,
ราคาน้ำมันแพงขึ้น ฯลฯ
อันดับที่ 2 ค่อนข้างมั่นใจ 25.38%
เพราะ เป็นเรื่องปกติของเศรษฐกิจที่ต้องมีการขึ้นๆ ลงๆ บ้าง,เป็นไปตามกลไกเศรษฐกิจโลก ฯลฯ
อันดับที่ 3 ไม่มั่นใจเลย 18.86%
เพราะ การขาดดุลทางการค้าและที่ราคาน้ำมันที่สูงขึ้น,ดูจากรายได้ของประชาชนและการว่างงานของ
ประชาชนยังมีอยู่มาก ฯลฯ
อันดับที่ 4 มั่นใจมาก 2.35%
เพราะ เศรษฐกิจยังสามารถขยายตัวได้ในอนาคต ฯลฯ
4. สิ่งที่ “นายธนาคาร / นักธุรกิจ” อยากฝากบอกต่อรัฐบาลไทยคือ
ภาพรวม
อันดับที่ 1 รัฐบาลควรมีแนวทางแก้ไขเศรษฐกิจที่ยั่งยืนมากกว่าการนำเงินงบประมาณ
ไปใช้เป็นเงินสนับสนุนงบต่างๆมากไป 35.15%
อันดับที่ 2 ควรควบคุมราคาสินค้า/ราคาน้ำมันไม่ให้สูงขึ้นมากกว่านี้ 22.03%
อันดับที่ 3 ควรเร่งสร้างความเชื่อมั่นในการบริหารระบบเศรษฐกิจไทย 18.87%
อันดับที่ 4 รัฐบาลควรมีนโยบายที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชนโดยเฉพาะระดับรากหญ้าให้มากที่สุด 13.12%
อันดับที่ 5 ส่งเสริมการออม/การประหยัดให้กับประชาชน 10.83%
--สวนดุสิตโพล--
-พห-
ซึ่งอาจเกิดผลกระทบต่อภาวะเศรษฐกิจของประเทศไทย “สวนดุสิตโพล” มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต จึงได้สำรวจ
ความคิดเห็นของนายธนาคารและกลุ่มนักธุรกิจไทย จำนวนทั้งสิ้น 441 คน โดยสำรวจในวันที่ 25 กรกฎาคม
2548 สรุปผลได้ดังนี้สรุปผลได้ดังนี้
1. “ผลดี” ต่อเศรษฐกิจไทยที่ได้รับจากการปรับค่าเงินหยวนของประเทศจีน
ภาพรวม
อันดับที่ 1 ตลาดการส่งออกของสินค้าไทยสามารถแข่งขันได้มากขึ้น 68.01%
อันดับที่ 2 การนำสินค้าเข้ามาจากประเทศจีนอาจลดน้อยลงทำให้คนไทยหันมาใช้สินค้าจากไทยด้วยกันมากขึ้น 22.29%
อันดับที่ 3 การลงทุนกับชาวต่างชาติจะดีขึ้น/นักลงทุนอาจเลือกมาลงทุนกับไทยมากขึ้น 9.70%
2. “ผลเสีย” ต่อเศรษฐกิจไทยที่ได้รับจากการปรับค่าเงินหยวนของประเทศจีน
ภาพรวม
อันดับที่ 1 การนำเข้าสินค้าบางประเภทมีต้นทุนสูงขึ้น 47.35%
อันดับที่ 2 อัตราการใช้เงินของไทยจะสูงขึ้น/เสียดุลเรื่องการซื้อ ขาย 34.24%
อันดับที่ 3 ผู้ส่งออกของไทยอาจจะเกิดภาวการณ์ชะงัก การส่งออกบางประเภทอาจลดน้อยลง 18.41%
3. “นายธนาคาร/นักธุรกิจ” มีความมั่นใจต่อสภาพเศรษฐกิจไทย ณ วันนี้อย่างไร?
ภาพรวม
อันดับที่ 1 ไม่ค่อยมั่นใจ 53.41%
เพราะ ค่าน้ำมันที่ผันผวนตลอดเวลาทำให้เศรษฐกิจชะลอตัว,รัฐบาลแก้ปัญหาไม่ค่อยตรงจุด,
ราคาน้ำมันแพงขึ้น ฯลฯ
อันดับที่ 2 ค่อนข้างมั่นใจ 25.38%
เพราะ เป็นเรื่องปกติของเศรษฐกิจที่ต้องมีการขึ้นๆ ลงๆ บ้าง,เป็นไปตามกลไกเศรษฐกิจโลก ฯลฯ
อันดับที่ 3 ไม่มั่นใจเลย 18.86%
เพราะ การขาดดุลทางการค้าและที่ราคาน้ำมันที่สูงขึ้น,ดูจากรายได้ของประชาชนและการว่างงานของ
ประชาชนยังมีอยู่มาก ฯลฯ
อันดับที่ 4 มั่นใจมาก 2.35%
เพราะ เศรษฐกิจยังสามารถขยายตัวได้ในอนาคต ฯลฯ
4. สิ่งที่ “นายธนาคาร / นักธุรกิจ” อยากฝากบอกต่อรัฐบาลไทยคือ
ภาพรวม
อันดับที่ 1 รัฐบาลควรมีแนวทางแก้ไขเศรษฐกิจที่ยั่งยืนมากกว่าการนำเงินงบประมาณ
ไปใช้เป็นเงินสนับสนุนงบต่างๆมากไป 35.15%
อันดับที่ 2 ควรควบคุมราคาสินค้า/ราคาน้ำมันไม่ให้สูงขึ้นมากกว่านี้ 22.03%
อันดับที่ 3 ควรเร่งสร้างความเชื่อมั่นในการบริหารระบบเศรษฐกิจไทย 18.87%
อันดับที่ 4 รัฐบาลควรมีนโยบายที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชนโดยเฉพาะระดับรากหญ้าให้มากที่สุด 13.12%
อันดับที่ 5 ส่งเสริมการออม/การประหยัดให้กับประชาชน 10.83%
--สวนดุสิตโพล--
-พห-