หลังจากที่ ครม.ประยุทธ์ 2/2 เข้ามาบริหารประเทศได้ไม่นาน เหตุการณ์ความเคลื่อนไหวทางการเมืองต่าง ๆ ก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะสงบลง ปัญหาที่รัฐบาลกำลัง เผชิญอยู่ในขณะนี้ล้วนแต่มีความเกี่ยวข้องและมีผลต่อเสถียรภาพของรัฐบาลโดยตรง เพื่อสะท้อนความคิดเห็นของประชาชน “สวนดุสิตโพล” มหาวิทยาลัยสวนดุสิต ได้สำรวจ ความคิดเห็นของประชาชนทั่วประเทศที่มีต่อ“เสถียรภาพรัฐบาล ณ วันนี้” จำนวนทั้งสิ้น 1,768 คน (สำรวจทางออนไลน์) ระหว่างวันที่ 1-4 กันยายน 2563 สรุปผลได้ ดังนี้
อันดับ 1 มีเสียง ส.ว. สนับสนุน 64.74% อันดับ 2 มีอำนาจเบ็ดเสร็จ 54.62% อันดับ 3 มีเสียงข้างมากในสภา 51.52% อันดับ 4 พลเอกประยุทธ์ เป็นนายกรัฐมนตรี 36.81% อันดับ 5 นโยบายช่วยเหลือประชาชน เช่น บัตรผู้สูงอายุ เราไม่ทิ้งกัน 31.92% 2. “5 จุดอ่อน” ที่ทำให้รัฐบาลอ่อนแอ/ไม่มั่นคง อันดับ 1 ประเทศเผชิญปัญหาเศรษฐกิจตกต่ำ 77.49% อันดับ 2 การบริหารประเทศย่ำแย่/แก้ปัญหาไม่สำเร็จ 67.00% อันดับ 3 กระแสการต่อต้านรัฐบาลมากขึ้น 63.79% อันดับ 4 การใช้เงินงบประมาณจำนวนมาก 59.02% อันดับ 5 ความขัดแย้งภายในพรรคร่วมรัฐบาล 57.95% 3. เมื่อเปรียบเทียบ“จุดอ่อน” และ “จุดแข็ง” ประชาชนคิดว่ารัฐบาลยังมีความมั่นคงหรือไม่มั่นคง อันดับ 1 ไม่มั่นคง 71.15% อันดับ 2 มั่นคง 28.85% 4. “5 วิธี” ที่จะทำให้รัฐบาลมั่นคง คือ อันดับ 1 แก้ปัญหาเศรษฐกิจและปากท้องของประชาชน 83.73% อันดับ 2 ปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชัน 69.99% อันดับ 3 รับฟังความคิดเห็น/เปิดโอกาสให้ประชาชนมีส่วนร่วม 66.00% อันดับ 4 พัฒนาชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนให้ดีขึ้น 64.36% อันดับ 5 ใช้อำนาจในทางที่ถูกต้อง มีธรรมาภิบาล 59.19%
*หมายเหตุ ผู้ตอบสามารถระบุความคิดเห็นได้มากกว่า 1 เรื่อง (ค่าร้อยละจึงคำนวณในแต่ละข้อ)
สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต สำรวจความคิดเห็นของประชาชนเรื่องเสถียรภาพรัฐบาล ณ วันนี้ กลุ่มตัวอย่างจำนวน 1,768 คน สำรวจระหว่างวันที่ 1 – 4 กันยายน 2563 พบว่า ภาพรวมประชาชนเห็นว่ารัฐบาลอยู่ในสภาวะที่ไม่มั่นคง 71.15% และเห็นว่ามั่นคง 28.85% โดยจุดแข็งที่ทำให้รัฐบาลเข้มแข็ง/มั่นคง คือ การมีเสียง ส.ว.สนับสนุน 64.74% รองลงมาคือ มีอำนาจเบ็ดเสร็จ 54.62% มีเสียงข้างมากในสภา 51.52% ส่วนจุดอ่อน คือ ประเทศเผชิญปัญหาเศรษฐกิจตกต่ำ 77.49% รองลงมาคือ การบริหารประเทศย่ำแย่ 67.00% และมีกระแสต่อต้านรัฐบาลมากขึ้น 63.79% วิธีที่จะทำให้รัฐบาลมั่นคง คือ ต้องแก้ปัญหาเศรษฐกิจ 83.73% ปราบปรามการทุจริต 69.99% และรับฟังประชาชนชน 66.00%
ผลสำรวจดังกล่าวสะท้อนให้เห็นภาพที่ชัดเจนมากขึ้นว่า ปัญหาเศรษฐกิจเป็นปัญหาหลักของรัฐบาลชุดนี้ที่ต้องแก้ให้ได้ เพราะหากประชาชนอยู่ได้รัฐบาลก็อยู่รอด รัฐบาลต้องแก้ไขภาพของการทุจริต การปิดกั้นความคิดเห็น ควรเน้นการเปิดใจรับฟัง มีผลงานที่โดนใจ และพัฒนาชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนให้ดีขึ้น เพื่อให้รัฐบาลมี ความเข้มแข็ง มั่นคงและมีเสถียรภาพนั่นเอง
โดย นางสาวพรพรรณ บัวทอง
นักวิจัย สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต
โทร 086-3766533
ผลการสำรวจ “เสถียรภาพของรัฐบาล ณ วันนี้” สะท้อนให้เห็นว่ารัฐบาล "ไม่มี" สภาวะความมั่นคงหรือมีเสถียรภาพทางการบริหารเศรษฐกิจเพียงพอ แม้ว่า ผลสำรวจบางประเด็นจะชี้ให้เห็นว่ารัฐบาลมีจุดแข็งตรงที่มีเสียงสนับสนุนจาก ส.ว. และเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎรก็ตาม แต่นั่นเป็นเพียงการเมืองในเชิงปริมาณเท่านั้น ในแง่ของการเมืองเชิงคุณภาพเป็นสิ่งที่ประชาชนพึงปรารถนาที่สุด ซึ่งในภาวะการเมืองยุคโควิดนี้เรียกได้ว่าเป็นยาขมของรัฐบาลที่จะต้องเร่งแก้ไขและฟื้นฟูปัญหาเศรษฐกิจที่ นับวันมีแนวโน้มตกต่ำลงเรื่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการท่องเที่ยว การส่งออก-นำเข้า ปัญหาคนว่างงาน สินค้าราคาแพง ค่าครองชีพสูงขึ้น เป็นต้น เหล่านี้ล้วนเป็นตัวแปรที่ทำให้ รัฐบาลมีจุดอ่อนในการบริหารงานด้านเศรษฐกิจ จึงส่งผลต่อสภาพที่ไม่มั่นคงหรือเสถียรภาพของรัฐบาลในปัจจุบัน
ดังนั้น การสร้างความเชื่อมั่นของรัฐบาลในสายตาประชาชน นักการเมืองโดยเฉพาะฝ่ายรัฐบาลควรเห็นแก่ประโยชน์ชาติมากกว่าประโยชน์ส่วนตน โดยการแสดง เจตจำนงที่แท้จริงในความร่วมมือแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและไม่ขัดขวางหรือขัดแย้งกับทีมเศรษฐกิจของรัฐบาล ดังที่ปรากฏผ่านสื่อต่างๆ มิเช่นนั้นจะยิ่งทำให้ประชาชนจำนวนมากที่ รอคอยการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจจากรัฐบาล ต่างจะยิ่งผิดหวังต่อทิศทางและการดำรงอยู่ของรัฐบาล ซึ่งจะทำให้รัฐบาลเสื่อมถอยลงไปเรื่อยๆ
โดย รองศาสตราจารย์ ดร.ธนภัทร ปัจฉิมม์
คณบดีโรงเรียนกฎหมายและการเมือง มหาวิทยาลัยสวนดุสิต
โทร. 092-3232833
ที่มา: สวนดุสิตโพล