สถานการณ์บ้านเมืองขณะนี้ทำให้คนไทยต้องร่วมกันต่อสู้กับภาวะวิกฤต ไม่ว่าจะเป็นการระบาดของโรคโควิด-19 ที่เกิดขึ้นอย่างยาวนานและยังคงมีความเสี่ยงอยู่ ปัญหารุมเร้าทั้งในเรื่องของการเมือง เศรษฐกิจ สังคม และปัญหาส่วนตัว ที่ส่งผลให้ความเครียดของแต่ละคนนั้นมีรูปแบบที่แตกต่างกันออกไป และอาจนำไปสู่ปัญหาอื่นๆ ด้านสุขภาพจิต หรือเกิดความเจ็บป่วยทางร่างกายได้ เพื่อสะท้อนให้เห็นถึงปัญหาที่มีผลกระทบและควรเร่งแก้ไข “สวนดุสิตโพล” มหาวิทยาลัยสวนดุสิต ได้สำรวจความคิดเห็น ของประชาชนทั่วประเทศกรณี “ความเครียดของคนไทย ณ วันนี้” จำนวนทั้งสิ้น 1,358 คน (สำรวจทางออนไลน์) ระหว่างวันที่ 16-18 กันยายน 2563 สรุปผลได้ ดังนี้
อันดับ ด้านการเมือง ภาพรวม อันดับ ด้านเศรษฐกิจ ภาพรวม 1 การทุจริตคอร์รัปชัน 63.93% 1 ของกิน-ของใช้แพง 67.76% 2 ความขัดแย้งทางการเมือง 46.65% 2 ข่าวเศรษฐกิจ 58.06% 3 การเคลื่อนไหวทางการเมือง/การชุมนุม 42.32% 3 เงินไม่พอใช้ 56.80% 4 ข่าวการเมือง 39.02% 4 เป็นหนี้ ต้องกู้ยืม 50.64% 5 การแก้ไขรัฐธรรมนูญ 35.61% 5 ตกงาน ไม่มีงานทำ 45.32% อันดับ ด้านสังคม ภาพรวม อันดับ ด้านส่วนตัว ภาพรวม 1 โรคโควิด-19 57.49% 1 การทำงาน 40.43% 2 อาชญากรรมต่างๆ เช่น ปล้น ฆ่า ข่มขืน 55.49% 2 สุขภาพ โรคภัยไข้เจ็บ 27.19% 3 การบูลลี่ (เหยียด/กลั่นแกล้ง/ข่มเหงรังแก) 40.58% 3 เรื่องในครอบครัว บุตรหลาน คู่ครอง 25.09% 4 ภัยธรรมชาติ เช่น น้ำท่วม ภัยแล้ง ไฟป่า 36.21% 4 การเรียน 16.58% 5 อุบัติเหตุ ความประมาท 36.16% 5 การคบเพื่อน 13.19% 2. สิ่งที่คนไทยอยากทำเมื่อรู้สึกเครียดมาก คือ อันดับ 1 ออกไปเที่ยว ช้อปปิ้ง ซื้อของ 51.47% อันดับ 2 เล่นเน็ต เฟซบุ๊ค ทวิตเตอร์ ไอจี 35.35% อันดับ 3 กิน 33.51% อันดับ 4 เล่นกีฬา ออกกำลังกาย 31.15% อันดับ 5 เข้าวัด ใช้ธรรมะบำบัด 27.17%
*หมายเหตุ ผู้ตอบสามารถระบุความคิดเห็นได้มากกว่า 1 เรื่อง (ค่าร้อยละจึงคำนวณในแต่ละข้อ)
สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต สำรวจความคิดเห็นของประชาชนเรื่อง “ความเครียดของคนไทย ณ วันนี้” กลุ่มตัวอย่าง 1,358 คน สำรวจวันที่ 16-18 กันยายน 2563 จะเห็นได้ว่าเรื่องที่ประชาชนเครียดมากที่สุด คือ ของกินของใช้แพง 67.76% รองลงมาคือ ทุจริตคอร์รัปชัน 63.93% และโควิด-19 57.49% สิ่งที่ คนอยากทำเมื่อรู้สึกเครียดมาก คือ ออกไปเที่ยว ช้อปปิ้ง 51.47% เล่นเน็ต 35.35% และกิน 33.51%
จะเห็นได้ว่าเรื่องปากท้องยังคงเป็นเรื่องที่ประชาชนกังวลจนส่งผลต่อความเครียดมากที่สุด เศรษฐกิจที่ย่ำแย่ เงินไม่พอใช้ เป็นหนี้ ตกงาน เป็นปัญหากระทบกับ ประชาชนโดยตรง เมื่อเครียดแล้วประชาชนก็อยากคลายเครียดด้วยการไปเที่ยว ช้อปปิ้ง ซื้อของ แต่เมื่อเศรษฐกิจยังไม่ดีขึ้นก็ทำให้ยังไม่มีเงินไปช้อปปิ้ง ทำให้เกิดความเครียด วนเวียนกันต่อไป ปัญหาเศรษฐกิจจึงเป็นปัญหาที่รุมเร้าทั้งรัฐบาลและประชาชนอย่างแท้จริง
โดย นางสาวพรพรรณ บัวทอง
นักวิจัย สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต
โทร 086-3766533
จากผลการสำรวจความเครียดของคนไทยในช่วงก่อนมีการชุมนุมทางการเมือง ในวันที่ 19 กันยายน 2563 จะเห็นได้ว่าประชาชนเกิดความกังวลเกี่ยวกับเรื่อง ปากท้อง ก็คือของกินของใช้ราคาแพงอันเป็นความต้องการของมนุษย์ (Needs) มนุษย์ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยในทรัพย์สิน ผลประโยชน์ที่เกิดขึ้นกับชีวิตของตนก่อนสิ่งอื่นใด รองลงมาก็เป็นเรื่องของหน้าที่พลเมืองที่หวงแหนผลประโยชน์ของประเทศชาติ (Belongingness and Love Needs) จึงมีความกังวลเรื่องการทุจริตคอร์รัปชัน ซึ่งเป็นช่วง ของการอภิปรายงบประมาณประจำปี 2564 และตามด้วยความกังวลเกี่ยวกับโรคระบาดโควิด-19 ที่กำลังระบาดอยู่ทั่วโลก ซึ่งนั่นก็คือความปลอดภัยในชีวิตของตนเองและครอบครัว (Safety Needs) และเมื่อมีความเครียดสะสมก็จะใช้กลไกในการป้องกันตัวเอง โดยหาทางระบายออกด้วยการพาตนเองออกไปจากบริบทของความเครียดและความกังวลนั้น ตามศักยภาพที่มี นั่นก็คือ มีแรงขับ (Drive) ที่จะออกไปเที่ยว ช้อปปิ้ง และเล่นเน็ต
หากรัฐบาลนำข้อมูลการสำรวจไปใช้ให้เป็นประโยชน์ นั่นก็คือ การควบคุมกลไกราคาของกินของใช้ไม่ให้สูงจนเกินไป และออกมาตรการกระตุ้นส่งเสริมการ ท่องเที่ยวและการช้อปปิ้งในประเทศอย่างครบวงจรก็จะทำให้เกิดการขับเคลื่อนระบบเศรษฐกิจไทยได้ในช่วงฤดูการท่องเที่ยวช่วงปลายปีนี้ ที่มีมาตรการความปลอดภัยในแบบฉบับ New Normal และที่สำคัญก็คือ ให้ความสำคัญกับความโปร่งใส (Accountability) การบริหารงบประมาณปี 2564 ให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อคนไทย
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.สฤษดิ์ ศรีโยธิน
ประธานหลักสูตรศิลปศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาจิตวิทยาอุตสาหกรรมและองค์การ มหาวิทยาลัยสวนดุสิต
โทร. 081-6126207
ที่มา: สวนดุสิตโพล