สภาพสังคมไทยที่เปลี่ยนแปลงทั้งด้านเศรษฐกิจ การเมือง สังคม ส่งผลให้วิถีการดำเนินชีวิตของประชาชนเปลี่ยนแปลงไปด้วยเช่นกัน ทำให้ปัจจุบันพบเห็นข่าว ปัญหาสังคมมีมากยิ่งขึ้น คนไร้น้ำใจ ขาดความเอื้ออาทรต่อกัน เพื่อเป็นการสะท้อนความคิดเห็นของประชาชนต่อกรณี ?ความเอื้ออาทรของคนไทย ณ วันนี้? สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต ได้สำรวจความคิดเห็นของประชาชนทั่วประเทศ จำนวนทั้งสิ้น 1,236 คน (สำรวจทางออนไลน์) ระหว่างวันที่ 12-16 ตุลาคม 2563 สรุปผลได้ ดังนี้
อันดับ 1 การเปลี่ยนแปลงทางสังคม 73.35% อันดับ 2 การเอาตัวรอด 56.95% อันดับ 3 การแก่งแย่งชิงดีชิงเด่น 53.53% อันดับ 4 ปัญหาปากท้อง 51.91% อันดับ 5 ความสัมพันธ์ในครอบครัว 51.02% 2. ?ความเอื้ออาทร? ใดบ้าง ที่ควรเร่งสร้างให้กับคนไทย อันดับ 1 ความมีน้ำใจ 74.94% อันดับ 2 เห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวม 72.58% อันดับ 3 ความสามัคคี 70.71% อันดับ 4 ความซื่อสัตย์ 69.81% อันดับ 5 ความเสียสละ 68.67% 3. วิธีการปลูกฝัง ?ความเอื้ออาทร? ที่เป็นรูปธรรม อันดับ 1 ปลูกฝังในครอบครัว 87.91% อันดับ 2 ปลูกฝังในสถานศึกษา 78.49% อันดับ 3 สร้างระเบียบวินัย 61.20% อันดับ 4 สร้างความเสมอภาคในสังคม 56.74% อันดับ 5 ปลูกฝังในชุมชน/ที่ทำงาน 53.41% 4. ใคร/หน่วยงานใดที่ควรทำหน้าที่ปลูกฝัง ?ความเอื้ออาทร? อันดับ 1 ครอบครัว 89.93% อันดับ 2 สถานศึกษา 84.86% อันดับ 3 รัฐบาล 59.17% อันดับ 4 ชุมชน/ที่ทำงาน 56.63% อันดับ 5 สื่อมวลชน 50.16%
*หมายเหตุ ผู้ตอบสามารถระบุความคิดเห็นได้มากกว่า 1 เรื่อง (ค่าร้อยละจึงคำนวณในแต่ละข้อ)
สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต สำรวจความคิดเห็นของประชาชนเรื่อง ?ความเอื้ออาทรของคนไทย ณ วันนี้? กลุ่มตัวอย่าง 1,236 คน สำรวจระหว่าง วันที่ 12 - 16 ตุลาคม 2563 พบว่า สาเหตุที่ความเอื้ออาทรของคนไทยลดลง เพราะการเปลี่ยนแปลงทางสังคม 73.35% รองลงมาคือ การเอาตัวรอด 56.95% ความเอื้ออาทรที่ควรเร่งสร้างให้มีเพิ่มขึ้น คือ ความมีน้ำใจ 74.94% วิธีการปลูกฝังความเอื้ออาทรอย่างเป็นรูปธรรม คือ ปลูกฝังในครอบครัว 87.91% โดยคนที่ควรทำหน้าที่นี้ คือ ครอบครัว 89.93% รองลงมาคือ สถานศึกษา 84.86%
ความเอื้ออาทรเป็นวัฒนธรรมที่อยู่คู่กับคนไทยมาช้านาน แต่เมื่อสังคมเปลี่ยนแปลงไป ค่านิยมและวิถีประพฤติปฏิบัติก็เปลี่ยนไปด้วย คนแก่งแย่ง เอาตัวรอดกันมากขึ้น กอปรกับปัญหาเศรษฐกิจตกต่ำส่งผลกระทบต่อปากท้องชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน ทำให้เกิดปัญหาสังคมและปัญหาอาชญากรรมต่าง ๆ ตามมา ครอบครัวและสถานศึกษาจึงเป็น จุดเริ่มต้นที่สำคัญในการปลูกฝังค่านิยมอันดีงามนี้ รวมถึงสถาบันการเมืองเองที่มีหน้าที่บริหารประเทศก็ย่อมมีส่วนในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและพัฒนาบ้านเมืองให้ดีขึ้น เพื่อให้คนไทย อยู่ในสถานการณ์บ้านเมืองที่ดีเอื้อต่อการมีน้ำใจอารีต่อกัน
โดย นางสาวพรพรรณ บัวทอง
นักวิจัย สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต
โทร 086-3766533
ความเอื้ออาทร เป็นการแสดงออกของอารมณ์และจิตใจที่สะท้อนความรู้สึกอันดีระหว่างกัน ซึ่งมิได้มีวงจำกัด แต่เพียงกับผู้เป็นที่รักหรือคนในครอบครัวเท่านั้น หากยัง แสดงถึงเยื่อใยยึดเหนี่ยวระหว่างกันของคนในสังคมด้วย คนไทย ได้ชื่อว่าเป็นผู้ที่มีนิสัยโอบอ้อมอารี มีน้ำใจ ชอบช่วยเหลือผู้ที่ตกทุกข์ได้ยาก โดยเฉพาะเมื่อมีวิกฤติการณ์ใดๆเกิดขึ้น คนไทยพร้อมที่จะช่วยเหลือซึ่งกันและกันตามพละกำลังของตน ความเอื้ออาทรของคนไทยจึงเป็นที่รับรู้รับทราบกันโดยทั่วไปทั้งในและต่างประเทศ ด้วยสายตาที่ปลอบประโลม รอยยิ้มที่ให้กำลังใจ น้ำเสียงที่แสดงความเข้าใจ เห็นใจและอุ้งมือที่อบอุ่น ล้วนเป็นสิ่งสะท้อนความเอื้ออาทรได้ทั้งสิ้น ผู้รับที่ทุกข์จะคลายทุกข์ผู้รับที่สุขจะสุขยิ่งๆขึ้นไป ความเอื้ออาทร จึงเป็นความรู้สึกลึกซึ้งยิ่ง ผลการสำรวจนี้ยืนยันได้เป็นอย่างดีถึงบทบาทของครอบครัวและสถานศึกษาซึ่งเป็นสังคมปฐมภูมิ ที่สำคัญยิ่งสำหรับการบ่มเพาะ ปลูกฝัง สร้างนิสัยของความ เอื้ออาทรให้เป็นคุณลักษณะของคนไทยอย่างยั่งยืน
โดย ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ศรีสุดา วงศ์วิเศษกุล
คณบดีคณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยสวนดุสิต โทร. 02-4239460
ที่มา: สวนดุสิตโพล