ช่วงเทศกาลสงกรานต์นอกจากจะเป็นวันปีใหม่ไทยแล้วยังกำหนดให้วันที่ 14 เมษายนของทุกปีเป็นวันครอบครัวอีกด้วย สิ่งสำคัญ ที่ทำให้ครอบครัวไทยอยู่ร่วมกันเป็นครอบครัวได้ก็คือความรัก ความเอาใจใส่ พูดคุยสื่อสารกันโดยเฉพาะในช่วงที่มีโควิด-19 เพื่อสะท้อนความคิดเห็นของประชาชน ?สวนดุสิตโพล?มหาวิทยาลัยสวนดุสิต ได้สำรวจความคิดเห็นของประชาชนทั่วประเทศ จำนวนทั้งสิ้น 1,143 คน (สำรวจทางออนไลน์) ระหว่างวันที่ 4-12 เมษายน 2565 สรุปผลได้ ดังนี้
อันดับ 1 เป็นประจำทุกวัน 63.25% อันดับ 2 สัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง 18.37% อันดับ 3 ไม่ค่อยได้พูดคุยกัน 15.92% อันดับ 4 ไม่ได้พูดคุยกันเลย 2.46% 2. เวลาที่มีปัญหาต้องการคำแนะนำ ใครที่อยากจะพูดคุยด้วยมากที่สุด อันดับ 1 สามี/ภรรยา 32.31% อันดับ 2 เพื่อน/แฟน 21.51% อันดับ 3 พ่อแม่ 18.00% 3. เรื่องใดบ้างที่มักจะพูดคุยกับคนในครอบครัว อันดับ 1 เรื่องทั่วไป สารทุกข์สุขดิบ 70.71% อันดับ 2 สุขภาพ โควิด-19 62.88% อันดับ 3 อาหารการกิน กินข้าวแล้วหรือยัง 60.33% 4. ในช่วงโควิด-19 การพูดคุยกับคนในครอบครัวทำให้รู้สึกสบายใจมากน้อยเพียงใด สบายใจมาก 47.18% ค่อนข้างสบายใจ 44.81% ไม่ค่อยสบายใจ 6.87% ไม่สบายใจ 1.14% 5. ในช่วงโควิด-19 การพูดคุยสื่อสารกันในครอบครัวมีความสำคัญอย่างไร อันดับ 1 ทำให้เกิดความห่วงใยผูกพันกันมากขึ้น 67.28% อันดับ 2 สร้างความสัมพันธ์ที่ดีในครอบครัว 62.52% อันดับ 3 ช่วยกันหาทางแก้ปัญหาต่าง ๆ ได้ทันเวลา 61.55% 6. การที่คนในครอบครัวไม่ค่อยได้พูดคุยกัน เป็นเพราะสาเหตุใด อันดับ 1 ไม่มีเวลา เวลาไม่ตรงกัน 56.36% อันดับ 2 มุมมอง ทัศนคติไม่ตรงกัน 55.12% อันดับ 3 คุยแล้วทะเลาะกัน มีปากเสียง 47.08% 7. ทำอย่างไรคนในครอบครัวจึงจะพูดคุยสื่อสารเข้าใจกันได้มากขึ้น อันดับ 1 เปิดใจ รับฟังความคิดเห็นซึ่งกันและกัน 65.21% อันดับ 2 ทำบ้านให้เป็นพื้นที่ปลอดภัยและสบายใจที่จะพูดคุยกัน 56.27% อันดับ 3 ทำกิจกรรมต่าง ๆ ร่วมกัน เช่น ไปเที่ยว กินข้าว 53.90%
*หมายเหตุ ผู้ตอบสามารถระบุความคิดเห็นได้มากกว่า 1 เรื่อง (ค่าร้อยละจึงคำนวณในแต่ละข้อ)
สรุปผลการสำรวจ : การสื่อสารของครอบครัวไทยในยุคโควิด-19
สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต สำรวจความคิดเห็นของประชาชนทั่วประเทศ จำนวน 1,143 คน (สำรวจทางออนไลน์) ระหว่างวันที่ 4-12 เมษายน 2565 พบว่า ในยุคโควิด-19 คนไทยพูดคุยกับคนในครอบครัวเป็นประจำทุกวัน ร้อยละ 63.25 รองลงมาคือ สัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง ร้อยละ 18.37 เวลาที่มีปัญหาคนที่อยากพูดคุยด้วยมากที่สุด คือ สามี/ภรรยา ร้อยละ 32.31 รองลงมาคือ เพื่อน/แฟน ร้อยละ 21.51 เรื่องที่มักจะพูดคุยคือเรื่องทั่วไป สารทุกข์สุขดิบ ร้อยละ 70.71 ในช่วงโควิด-19 การพูดคุยกับคนในครอบครัวทำให้รู้สึกสบายใจมาก ร้อยละ 47.18 ทำให้เกิดความห่วงใยผูกพันกันมากขึ้น ร้อยละ 67.28 โดยมองว่าการที่คนในครอบครัวไม่ค่อยได้พูดคุยกันเป็นเพราะไม่มีเวลา เวลาไม่ตรงกัน ร้อยละ 56.36 วิธีการที่จะทำให้คนในครอบครัวพูดคุยสื่อสารเข้าใจกันได้มากขึ้น คือ ต้องเปิดใจ รับฟังความคิดเห็นซึ่งกันและกัน ร้อยละ 65.21 รองลงมาคือ ทำบ้านให้เป็นพื้นที่ปลอดภัยและสบายใจที่จะพูดคุยกัน ร้อยละ 56.27
วันครอบครัวไทยตรงกับช่วงเทศกาลสงกรานต์ของไทยทำให้สมาชิกในครอบครัวได้พบปะกันพร้อมหน้า ถึงแม้ จะอยู่ในช่วงโควิด-19 แต่ก็พบว่าคนในครอบครัวมีการพูดคุยกันเป็นประจำทุกวัน โดยเฉพาะการคุยกับสามี ภรรยา สะท้อน ให้เห็นลักษณะของครอบครัวที่เล็กลง มีความเป็นครอบครัวเดี่ยวมากขึ้น การพูดคุยกันเป็นกิจกรรมพื้นฐานของการสร้างความผูกพันในครอบครัว หากไม่ให้อิสระพูดคุยรับฟังความคิดเห็นก็จะทำให้เกิดปัญหาในครอบครัวได้ และจากปัญหา เล็ก ๆ ในระดับครอบครัวก็ย่อมจะสะท้อนถึงภาพของการสื่อสารในระดับสังคมและประเทศต่อไป จากการสนทนากลุ่ม (Focus Group) เรื่องการสื่อสารของครอบครัวไทยในยุคโควิด-19 เมื่อวันที่ 4 เมษายน 2565 ผู้เข้าร่วม 10 คน และการสัมภาษณ์ จำนวน 30 คน ใช้การสัมภาษณ์แบบกึ่งโครงสร้าง พบว่า ความสำคัญของการสื่อสารของครอบครัวไทยในยุคโควิด-19 เน้นการสร้างความเข้าใจกันในครอบครัว โดยในช่วงโควิด-19 การสื่อสารของครอบครัวมีมากขึ้นเนื่องจากต้องอยู่บ้านมากขึ้น และเป็นการพูดคุยเรื่องสุขภาพ การเรียน การทำงาน ฯลฯ ช่วงเวลา ส่วนใหญ่ที่พูดคุยกัน คือ ช่วงกินข้าว ไปเที่ยวและทำกิจกรรมร่วมกัน อุปสรรคในการสื่อสาร ได้แก่ การใช้เทคโนโลยีมากเกินไป ช่องว่างระหว่างวัย ภาษา ความคิดและทัศนคติ แนวทางแก้ปัญหาควรเริ่มจากการเรียนรู้คนในครอบครัว ผลข้างต้นสะท้อนให้เห็นว่า โควิด-19 ทำให้คนหันมาสนใจและใส่ใจคนในครอบครัวมากขึ้น ด้วยความห่วงใยนี้ จึงทำให้การสื่อสารมีมากขึ้น แต่ก็มีอุปสรรคในการสื่อสาร เช่น การมุ่งแต่จะให้อีกฝ่ายฟังหรือมุ่งแต่จะเสนอความคิดของตนเท่านั้น สิ่งเหล่านี้ได้ทำให้คนในครอบครัวไม่ค่อยอยากพูดคุยกันมากนัก จึงควรอาศัยช่วงเวลาวิกฤติเช่นนี้ให้เป็นโอกาสด้วยการสื่อสารกัน เปิดใจรับฟังกัน เน้นการสื่อสารเชิงบวกทั้งคำพูดและการกระทำจะช่วยทำให้บ้านเป็นบ้านที่ใคร ๆ ก็อยากอยู่อย่างแท้จริง \ ที่มา: สวนดุสิตโพล