/
ไม่เพียงพอกับรายจ่าย 54.54% เพียงพอกับรายจ่าย 45.46% 2. สินค้าประเภทใดที่คิดว่า ?แพง? เกินกว่าที่จะรับได้ อันดับ 1 ค่าน้ำมัน ค่าเดินทาง 82.96% อันดับ 2 ค่าน้ำ ค่าไฟ 71.19% อันดับ 3 แก๊สหุงต้ม 66.38% อันดับ 4 อาหารจานเดียว อาหารตามสั่ง 53.67% อันดับ 5 วัตถุดิบสำหรับทำอาหาร 52.64% 3. ประชาชนอยากให้รัฐบาลดำเนินการอย่างไรเพื่อช่วยเหลือกรณีของแพง อันดับ 1 ควบคุมราคาสินค้า ลดราคาสินค้า 85.73% อันดับ 2 ลดภาษีน้ำมัน 68.43% อันดับ 3 นำเสนอข้อมูลความจริง ไม่ปิดบัง 56.52% อันดับ 4 จัดโครงการสินค้าราคาถูกช่วยเหลือประชาชน 54.35% อันดับ 5 เร่งออกมาตรการช่วยเหลือ เช่น คนละครึ่ง ช่วยค่าน้ำ ค่าไฟ 52.36% 4. ประชาชนคิดอย่างไรกับกรณี ?คนจน? ในประเทศไทยเพิ่มเป็น ?20 ล้านคน? หรือคิดเป็น 1 ใน 3 ของประชากรทั้งหมด อันดับ 1 ของแพงทำให้คนมีเงินไม่พอใช้ 80.38% อันดับ 2 คนตกงานมากขึ้น ไม่มีรายได้ 74.72% อันดับ 3 เงินจำนวนเท่าเดิม ซื้อของได้น้อยลง 70.47% อันดับ 4 คนเป็นหนี้เพิ่มขึ้น 67.64% อันดับ 5 เศรษฐกิจไม่ดีเป็นเวลานาน 65.57% 5. ประชาชนอยากให้รัฐบาลดำเนินการอย่างไรเพื่อช่วยเหลือกรณี ?คนจน? อันดับ 1 สร้างโอกาส สร้างรายได้ เน้นการพึ่งตนเองได้ในระยะยาว 78.32% อันดับ 2 แก้ปัญหาอย่างจริงจังและต่อเนื่อง 77.19% อันดับ 3 ยอมรับและหาต้นเหตุของปัญหาที่แท้จริง 66.54% อันดับ 4 ทุกภาคส่วนร่วมมือกันแก้ไขปัญหา 63.15% อันดับ 5 เพิ่มสวัสดิการช่วยเหลือดูแลด้านสุขภาพ 59.10% 6. ประชาชนคิดว่ารัฐบาลจะแก้ปัญหา ?คนจน? ได้หรือไม่ แก้ไขไม่ได้ 77.32% แก้ไขได้ 22.68% 7. ประชาชนคิดว่ารัฐบาลจะแก้ปัญหา ?ของแพง? ได้หรือไม่ แก้ไขไม่ได้ 59.23% แก้ไขได้ 40.77% สรุปผลการสำรวจ : ?ของแพง? กับ ?คนจน?
สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต สำรวจความคิดเห็นของประชาชนทั่วประเทศ จำนวนทั้งสิ้น 1,067 คน ระหว่างวันที่ 3-6 ตุลาคม 2565 พบว่า ณ วันนี้รายได้ของประชาชนไม่เพียงพอกับรายจ่าย ร้อยละ 54.54 เพียงพอกับรายจ่าย ร้อยละ 45.46 โดยสินค้าที่คิดว่า ?แพง? เกินกว่าที่จะรับได้ อันดับ 1 คือ ค่าน้ำมัน ค่าเดินทาง ร้อยละ 82.96 รองลงมาคือ ค่าน้ำ ค่าไฟ ร้อยละ71.19 สิ่งที่อยากให้รัฐบาลดำเนินการ คือ ควบคุมราคาสินค้า ลดราคาสินค้า ร้อยละ 85.73 ลดภาษีน้ำมัน ร้อยละ 68.43 กรณี ?คนจน? เพิ่มเป็น 20 ล้านคน มองว่าเพราะของแพงทำให้คนมีเงินไม่พอใช้ ร้อยละ 80.38 รองลงมาคือ คนตกงานมากขึ้น ไม่มีรายได้ 74.72 สิ่งที่อยากให้รัฐบาลดำเนินการเพื่อช่วยเหลือ คือ สร้างโอกาส สร้างรายได้ เน้นการพึ่งตนเองได้ในระยะยาว ร้อยละ 78.32 รองลงมาคือ ควรแก้ปัญหาอย่างจริงจังและต่อเนื่อง ร้อยละ 77.19 ในภาพรวมประชาชนคิดว่ารัฐบาลไม่น่าจะแก้ปัญหา ?คนจน? ได้ ร้อยละ 77.32 ส่วนปัญหา ?ของแพง? ก็ไม่น่าจะแก้ไขได้เช่นกัน ร้อยละ 59.23
จากผลการสำรวจเชิงลึก พบว่า กลุ่มอาชีพที่มีรายได้ไม่เพียงพอกับรายจ่าย 3 อันดับแรก คือกลุ่มอาชีพรับจ้าง รองลงมา คือ นักเรียน นักศึกษา และกลุ่มคนทำธุรกิจส่วนตัวและค้าขาย อาจเป็นเพราะทั้งสามกลุ่มนี้เป็นกลุ่มที่ไม่มีรายได้ประจำที่แน่นอน จึงเกิดปัญหารายได้ไม่เพียงพอกับรายจ่าย โดยปัญหาของแพงเข้ามากระทบต่อการใช้จ่ายประชาชนเป็นอย่างมาก คนมีเงินไม่พอใช้ ช่วงโควิด-19 ยิ่งทำให้เกิดภาวะตกงาน ว่างงาน ต้องหยิบยืมมาใช้จ่ายทำให้เป็นหนี้เพิ่มขึ้น อัตราคนจนหรือคนรายได้น้อยก็เพิ่มสูงขึ้น เสียงสะท้อนจากผลโพลจึงต้องการให้รัฐบาลเร่งแก้ปัญหาอย่างต่อเนื่องเพื่อลดภาระของประชาชนโดยเร็ว
นางสาวพรพรรณ บัวทอง
นักวิจัย สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต
โทร 086-3766533
ในปัจจุบันประชาชนได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 โดยเฉพาะระบบเศรษฐกิจและการจ้างงาน ทำให้คนตกงานมากขึ้น ไม่มีรายได้ หรือบางคนถูกลดเงินเดือน จึงส่งผลให้คนมีรายได้ไม่เพียงพอต่อรายจ่ายของค่าครองชีพในชีวิตประจำวัน ซึ่งก็หมายถึงมีจำนวนคนจนมากขึ้นนั้นเอง เมื่อ ?รายได้น้อยลง? แต่ ?ของแพงขึ้น? จึงทำให้เงินที่มีอยู่ไม่เพียงพอสำหรับการเลี้ยงปากท้องในแต่ละวัน จากปัญหาถึงแม้รัฐบาลจะมีมาตรการช่วยเหลือค่าครองชีพของประชาชนอยู่หลายโครงการ ซึ่งเป็นการแก้ไขปัญหาระยะสั้น ดังนั้นการแก้ไขปัญหาระยะยาวโดยเฉพาะวางแผนในการแก้ไขปัญหาเชิงโครงสร้างทั้งระบบเป็นเรื่องที่ท้าทายรัฐบาลชุดนี้เพื่อให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรมอย่างยั่งยืน โดยสิ่งสำคัญจะต้องดำเนินการอย่างต่อเนื่องโดยมีการปรับเปลี่ยนกลไกและวิธีการในการแก้ไขปัญหาให้สอดรับกับบริบททางเศรษฐกิจและสังคมในปัจจุบัน และสำหรับความตั้งใจของรัฐบาลที่ว่า ?30 กันยายน 2565 คนจนจะหมดไป? ณ วันนี้ก็ยังไม่เห็นผลที่ชัดเจน จึงเป็นเรื่องที่จะต้องหาวิธีการแก้จนกันต่อไป
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.จิตต์วิมล คล้ายสุบรรณ
อาจารย์ประจำคณะครุศาสตร์
มหาวิทยาลัยสวนดุสิต
โทร 086-5257432