?สวนดุสิตโพล? มหาวิทยาลัยสวนดุสิต สำรวจความคิดเห็นของประชาชนทั่วประเทศ กรณี ?คนไทยกับการเมืองไทยหลังจากได้ประธานสภา? จำนวนทั้งสิ้น 1,078 คน (สำรวจทางออนไลน์) ระหว่างวันที่ 5-7 กรกฎาคม 2566 สรุปผลได้ ดังนี้ 1. ประชาชนมีความเห็นอย่างไรกับการเมืองไทยในช่วงนี้ อันดับ 1 อยากเห็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่และรัฐบาลใหม่โดยเร็ว 71.65% อันดับ 2 เบื่อความขัดแย้ง เลือกตั้งนานแล้วแต่ยังไม่ได้รัฐบาลใหม่ 69.05% อันดับ 3 การเมืองเป็นเรื่องผลประโยชน์ แก่งแย่งกันไปมา 51.49% 2. ประชาชนคิดว่าปัญหาและอุปสรรคของ ?รัฐบาลใหม่? คืออะไร อันดับ 1 การจัดสรรตำแหน่งไม่ลงตัว มุ่งประโยชน์ส่วนตัวมากเกินไป 68.32% อันดับ 2 มีหลายปัจจัยเข้ามาเกี่ยวข้อง ซับซ้อน ต้องใช้เวลา 67.01% อันดับ 3 ความคิดเห็นระหว่างพรรคร่วมรัฐบาลและสมาชิกภายในพรรคไม่ตรงกัน 65.70% 3. ประชาชนคิดว่าควรทำอย่างไร การจัดตั้งรัฐบาลใหม่จึงจะราบรื่น อันดับ 1 คำนึงถึงประโยชน์ของส่วนรวมมากกว่าของพรรคการเมือง 78.52% อันดับ 2 เคารพเสียงของประชาชน คำนึงถึงหลักประชาธิปไตย 69.47% อันดับ 3 ควรทำตามกติกามารยาทที่พึงปฏิบัติ 47.90% 4. ประชาชนคิดว่า ?การเลือกนายกรัฐมนตรี? จะเป็นไปด้วยความราบรื่นหรือไม่ อันดับ 1 ไม่น่าจะราบรื่น 56.12% อันดับ 2 น่าจะราบรื่น 43.88% 5. ประชาชนอยากให้รัฐบาลใหม่เร่งแก้ไขปัญหาใดบ้าง อันดับ 1 ปัญหาปากท้อง ค่าใช้จ่าย ค่าครองชีพ 77.35% อันดับ 2 ปัญหาเศรษฐกิจของประเทศ 72.04% อันดับ 3 ความเหลื่อมล้ำของประชาชน 57.50% 6. ความในใจของประชาชนที่อยากบอก ?รัฐบาลใหม่? อันดับ 1 ขอให้ตั้งใจทำงาน ร่วมมือกันพัฒนาประเทศ สร้างผลงานให้เป็นรูปธรรม 43.05% อันดับ 2 พัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนให้ดีขึ้น 39.66% อันดับ 3 บริหารบ้านเมืองด้วยความรอบคอบ โปร่งใส ซื่อสัตย์ สุจริต 30.45% *หมายเหตุ ผู้ตอบสามารถระบุความคิดเห็นได้มากกว่า 1 เรื่อง (ค่าร้อยละจึงคำนวณในแต่ละข้อ) สรุปผลการสำรวจ : คนไทยกับการเมืองไทยหลังจากได้ประธานสภา
?สวนดุสิตโพล? มหาวิทยาลัยสวนดุสิต สำรวจความคิดเห็นของประชาชนทั่วประเทศ กรณี ?คนไทยกับการเมืองไทยหลังจากได้ประธานสภา? กลุ่มตัวอย่างจำนวน 1,078 คน สำรวจระหว่างวันที่ 5-7 กรกฎาคม 2566 พบว่า ความเห็นต่อการเมืองไทยในช่วงนี้ คือ อยากเห็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่และรัฐบาลใหม่โดยเร็ว ร้อยละ 71.65 โดยมองว่าปัญหาและอุปสรรคของ ?รัฐบาลใหม่? คือ การจัดสรรตำแหน่งไม่ลงตัว มุ่งประโยชน์ส่วนตัวมากเกินไป ร้อยละ 68.32 ทั้งนี้การจัดตั้งรัฐบาลใหม่ควรคำนึงถึงประโยชน์ของส่วนรวมมากกว่าของพรรคการเมือง ร้อยละ 78.52 นอกจากนี้กลุ่มตัวอย่างร้อยละ 56.12 คาดว่า ?การเลือกนายกรัฐมนตรี? ไม่น่าจะราบรื่น และหากได้รัฐบาลใหม่แล้ว ก็อยากให้เร่งแก้ไขปัญหาปากท้อง ค่าใช้จ่าย ค่าครองชีพ ร้อยละ 77.35 ส่วนความในใจของประชาชนที่อยากบอก ?รัฐบาลใหม่? คือ ขอให้ตั้งใจทำงาน ร่วมมือกันพัฒนาประเทศ สร้างผลงานให้เป็นรูปธรรม ร้อยละ 43.05 ผลโพลชี้ให้เห็นว่าช่วงนี้ประชาชนติดตามการเมืองอย่างใกล้ชิด แม้จะเบื่อหน่ายกับระบบที่กว่าจะได้มาซึ่งนายกรัฐมนตรีคนใหม่และรัฐบาลใหม่ แต่ก็ยังเฝ้ารอและจับตามองว่าแต่ละพรรคการเมืองจะเคลื่อนไหวส่งสัญญาณอย่างไรต่อไป และมองว่าจากการเลือกประธานสภายังคงเป็นการเมืองแบบเก่าที่เน้นเล่นเกมการเมือง เสียงของประชาชนจึงบอกผ่านผลโพลว่า ?อย่ามุ่งแต่ประโยชน์ส่วนตน ให้ตั้งใจทำงาน เร่งแก้ปัญหาปากท้องโดยเร็ว?
นางสาวพรพรรณ บัวทอง
นักวิจัย สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต
โทร 086-3766533
จากผลโพลสะท้อนให้เห็นว่าคนไทยจำนวนมากมีความสนใจและตื่นรู้การเปลี่ยนผ่านทางการเมือง โดยเฉพาะห้วงเวลาหลังการเลือกตั้ง เริ่มตั้งแต่การโหวตเลือกประธานสภาผู้แทนราษฎร (ประธานรัฐสภา), การโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีของที่ประชุมร่วมกันของทั้งสองสภา (สภาผู้แทนราษฎร + วุฒิสภา = รัฐสภา) และอาจหมายรวมถึงความสนใจของคนไทยต่อการจัดตั้งรัฐบาล และใครพรรคใดจะได้เป็นรัฐมนตรีกระทรวงใดบ้าง ประเด็นเหล่านี้จึงสอดคล้องกับความคาดหวังของคนไทยและนักลงทุนในตลาดหุ้นทั้งในประเทศและต่างประเทศ นอกจากนี้ผลโพลดังกล่าวยังชี้ให้เห็นทิศทางและแนวโน้มทางการเมืองว่าด้วยเรื่องการยื้อแย่งอำนาจและความพยายามในการเจรจาต่อรอง ในขณะที่ภาคประชาชนนั้นต้องการให้รัฐบาลใหม่มีเสถียรภาพ สามารถแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจให้ดีกว่าที่เป็นอยู่ ควรตระหนักและคำนึงถึงประโยชน์ส่วนรวมมากกว่าประโยชน์ส่วนตนและพรรคการเมืองของตนเอง
รศ.ดร.ธนภัทร ปัจฉิมม์
คณบดีโรงเรียนกฎหมายและการเมือง
มหาวิทยาลัยสวนดุสิต