?สวนดุสิตโพล?มหาวิทยาลัยสวนดุสิต สำรวจความคิดเห็นประชาชนทั่วประเทศ เรื่อง?คนไทยกับความยากจน หนี้สิน และการเลิกจ้างงาน? กลุ่มตัวอย่าง จำนวน 1,146 คน (สำรวจทางออนไลน์และภาคสนาม) ระหว่างวันที่ 15-19 กรกฎาคม 2567 สรุปผลได้ ดังนี้
1. ประชาชนคิดว่าปัจจุบัน ?ปัญหาความยากจน หนี้สิน และการเลิกจ้างงาน? เป็นปัญหาที่รุนแรงหรือไม่
อันดับ 1 รุนแรง 78.80% อันดับ 2 ยังไม่ค่อยรุนแรง 21.20% 2. ประชาชนมีหนี้สินส่วนตัวหรือไม่ อันดับ 1 มี 70.07% อันดับ 2 ไม่มี 29.93% 3. หนี้สินส่วนตัวที่มีคิดเป็นร้อยละเท่าใดของรายได้ต่อเดือน อันดับ 1 20-50% 39.72% อันดับ 2 51-80% 26.90% อันดับ 3 น้อยกว่า 20% 24.66% อันดับ 4 81% ขึ้นไป 8.72% 4. ในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา ตัวประชาชนเองหรือคนใกล้ตัวเคยถูกเลิกจ้างงานหรือไม่ อันดับ 1 ไม่เคย 52.01% อันดับ 2 เคย 47.99% 5. ประชาชนคิดว่ารัฐบาลควรดำเนินการอย่างไรเพื่อแก้ไขปัญหาความยากจน อันดับ 1 เพิ่มโอกาสในการทำงาน/จ้างงาน 79.02% อันดับ 2 ส่งเสริมการฝึกอาชีพ 67.57% อันดับ 3 มีระบบประกันสังคมที่เข้มแข็ง 66.78% 6. ประชาชนคิดว่ารัฐบาลควรดำเนินการอย่างไรเพื่อแก้ไขปัญหาหนี้สินของประชาชน อันดับ 1 สนับสนุนการสร้างรายได้ให้กับประชาชน 79.16% อันดับ 2 ลดดอกเบี้ยเงินกู้ 70.14% อันดับ 3 ขยายระยะเวลาชำระหนี้ 62.00% 7. ประชาชนคิดว่ารัฐบาลควรดำเนินการอย่างไรเพื่อแก้ไขปัญหาผู้ที่ถูกเลิกจ้างงาน อันดับ 1 ส่งเสริมการสร้างงานใหม่/ช่วยหางานใหม่ 77.34% อันดับ 2 สนับสนุนธุรกิจขนาดย่อม 66.23% อันดับ 3 ฝึกอบรมเพื่อเพิ่มทักษะ 59.14% 8. ในมุมมองของประชาชน คิดว่าควรทำอย่างไรคนไทยจึงจะ ?กินดี อยู่ดี ไม่มีหนี้สิน? อันดับ 1 ต้องมีงานทำ มีรายได้ มีความเป็นอยู่ที่ดี 34.06% อันดับ 2 เร่งแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ กระตุ้นเศรษฐกิจให้ดีขึ้น 21.38% อันดับ 3 สร้างวินัยทางการเงินให้กับประชาชน 14.86% *หมายเหตุ ผู้ตอบสามารถระบุความคิดเห็นได้มากกว่า 1 เรื่อง (ค่าร้อยละจึงคำนวณในแต่ละข้อ) สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต สำรวจความคิดเห็นประชาชนทั่วประเทศ เรื่อง ?คนไทยกับความยากจน หนี้สิน และการเลิกจ้างงาน? ระหว่างวันที่ 15-19 กรกฎาคม 2567 กลุ่มตัวอย่างจำนวน 1,146 คน สำรวจผ่านทางออนไลน์และภาคสนาม พบว่า กลุ่มตัวอย่างคิดว่าปัจจุบัน ?ปัญหาความยากจน หนี้สิน และการเลิกจ้างงาน? เป็นปัญหารุนแรง ร้อยละ 78.80 โดยกลุ่มตัวอย่างร้อยละ 70.07 มีหนี้สินส่วนตัวและคิดเป็นประมาณ 20 ? 50% ของรายได้ต่อเดือน ทั้งนี้ร้อยละ 47.99 เคยถูกเลิกจ้าง/เห็นคนใกล้ตัวถูกเลิกจ้าง ด้านความคิดเห็นต่อการแก้ปัญหาของรัฐบาล อยากให้รัฐบาลแก้ปัญหาความยากจนด้วยการเพิ่มโอกาสในการทำงาน/จ้างงาน ร้อยละ 79.02 ส่วนปัญหาหนี้สินอยากให้รัฐบาลสนับสนุนการสร้างรายได้ให้กับประชาชน ร้อยละ 79.16 ส่วนปัญหาเลิกจ้างงาน อยากให้ช่วยส่งเสริมการสร้างงานใหม่/ช่วยหางานใหม่ ร้อยละ 77.34 โดยกลุ่มตัวอย่างมองว่าแนวทางที่จะทำให้คนไทย ?กินดีอยู่ดีไม่มีหนี้สิน? คือ ต้องมีงานทำ มีรายได้ มีความเป็นอยู่ที่ดี ร้อยละ 34.06 นางสาวพรพรรณ บัวทอง ประธานสวนดุสิตโพล กล่าวว่า จากผลสำรวจสะท้อนให้เห็นว่าปัญหาความยากจน หนี้สิน และการเลิกจ้างงานเป็นปัญหาที่รุนแรงและต้องแก้ไขเร่งด่วน ด้วยสภาวะเศรษฐกิจที่ซบเซาต่อเนื่องและผลกระทบจากโควิด-19 การมีหนี้สินส่วนตัวที่สูงและการเลิกจ้างงานทำให้ประชาชนรู้สึกถึงภาระทางการเงินที่หนักหน่วง รัฐบาลจึงควรเน้นการสร้างงาน เพิ่มรายได้ เพิ่มโอกาสในการทำงานและจ้างงาน ผลักดันนโยบายเรือธงที่หาเสียงไว้โดยเน้นผลลัพธ์ของโครงการ ที่มีประสิทธิภาพและเป็นรูปธรรม ช่วยให้ประชาชนมีรายได้ที่มั่นคงและสามารถจัดการกับหนี้สินได้ดีขึ้น นางสาวพรพรรณ บัวทอง ประธานสวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต โทร 086-3766533 อ.ดร.ศิริ ชะระอ่ำ อาจารย์ประจำคณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยสวนดุสิต ระบุว่า การว่างงานและภาวะ ถูกเลิกจ้าง ซึ่งนำไปสู่ความยากจนและภาระหนี้สินของประชาชนมีสาเหตุมาจากปัญหาการขาดทักษะดิจิทัลซึ่งสำคัญจำเป็น ต่อการประกอบอาชีพของแรงงานในปัจจุบัน ผนวกกับการขยายตัวของการให้สินเชื่อเพื่อการอุปโภคบริโภคกลุ่มบัตรเครดิต ลีสซิ่งและสินเชื่อส่วนบุคคลของสถาบันการเงินต่างๆ ยิ่งส่งเสริมให้เกิดปัญหาพฤติกรรมการก่อหนี้โดยขาดวินัยทางการเงินของครัวเรือนมีความรุนแรงยิ่งขึ้น ซึ่งจากผลการสำรวจของสวนดุสิตโพลในครั้งนี้ชี้ชัดถึงความคาดหวังของประชาชนต่อการได้รับความช่วยเหลือจากภาครัฐในการจ้างงาน สร้างงาน และเพิ่มรายได้ เพื่อบรรเทาปัญหาปากท้องและภาระหนี้สิ้นให้กับประชาชน โดยมาตรการที่ภาครัฐควรเร่งดำเนินการ คือ การมุ่งให้ความรู้และฝึกพัฒนาทักษะดิจิทัล ซึ่งเป็น New Skill ให้กับกลุ่มผู้ว่างงานระยะสั้น และส่งเสริมโอกาสในการยกระดับทักษะอื่นๆ (Up-skill) จำเป็นต่อตำแหน่งงานตามความต้องการของตลาดแรงงานปัจจุบันอย่างเป็นรูปธรรม อ.ดร.ศิริ ชะระอ่ำ อาจารย์ประจำคณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยสวนดุสิต ที่มา: สวนดุสิตโพล